นครศรีธรรมราช - เรือนจำทุ่งสง ยังเข้มปูพรมค้นเช้ามืดพบเหล็กแหลมซุกอีก จนท.ยกระดับเฝ้าระวัง ย้าย 4 นักโทษแล้วหวั่นเพื่อนนักโทษรุมยำ ผบ.เรือนจำนครศรีฯ เผยตีตรวนคุมตลอด 24 ชม.
ภายหลังจากที่ 5 นักโทษเรือนจำทุ่งสง ประกอบด้วย นช.สิริชัย เพชรดี, นช.สุชิต ชูอินทร์, นช.สุรเชษฐ์ สุวรรณมณี, นช.สุริยา ชูถาวร และ นช.สหัส หมื่นเมือง ก่อเหตุจับนายสมบูรณ์ แสงสีดำ เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ชำนาญการ ซึ่งอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ไว้เป็นตัวประกัน และเตรียมที่จะหลบหนี และ นช.สิริชัย เพชรดี หนึ่งในผู้ก่อเหตุได้ใช้เหล็กแหลมแทงซอกคอ นายสมบูรณ์ ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่นายสมบูรณ์ จะสะบัดหลุด ทำให้ผู้คุมที่เหลือใช้อาวุธปืนยิงสกัดเข้าใส่ นช.สิริชัย เพชรดี ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเข้าชาร์จคุมตัวนักโทษที่เหลือไว้ได้ ก่อนนำตัวทั้งหมดเข้าตีตรวนคู่ทันที และนำตัวนายสมบูรณ์ แสงสีดำ เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ และ นช.สิริชัย เพชรดี ส่งโรงพยาบาลทุ่งสง และในเวลาต่อมา นช.สิริชัย เพชรดี ได้เสียชีวิตลง โดยทั้งอัยการ ฝ่ายปกครอง แพทย์ และผู้เกี่ยวข้องได้เข้าชันสูตรพลิกศพอันเนื่องมาจากการตายในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงานตามกฎหมาย
ล่าสุด วันนี้ (13 พ.ค.) นายพิชิต วรรณจิต ผบ.เรือนจำทุ่งสง เปิดเผยว่า เรือนจำได้ยกระดับมาตรการความปลอดภัยให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น และในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาได้เข้าทำการตรวจค้นทุกจุดเคลียร์พื้นที่ทุกส่วน พบว่า ยังมีการซุกซ่อนเหล็กแหลมไว้อีก และได้ตรวจยึดมาแล้ว ซึ่งเป็นการค้นกวาดล้างอย่างละเอียดหลังจากเกิดเหตุ
“ในส่วนของเจ้าหน้าที่เรือนจำทุกนาย โดยเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในแดนควบคุมมีมาตรการปฏิบัติที่เข้มข้นขึ้น คือ การสื่อสารจะต้องติดต่อกันทุกต้นชั่วโมง จะต้องรายงานสถานการณ์ หากจุดใดขาดหายไปจะถูกเจ้าหน้าที่พัสดี หรือผู้ช่วยพัศดีเข้าตรวจสอบทันที สำหรับนักโทษที่ก่อเหตุเหลือ 4 คน วานนี้หลังจากที่ นายสิริชัย หัวโจกได้เสียชีวิตลง เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวไปยังเรือนจำความมั่นคงสูง หรือเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากนักโทษด้วยกันอาจมีความโกรธแค้นที่ทั้ง 4 รายร่วมก่อเหตุวุ่นวาย หากเกิดอันตรายขึ้นเจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชอบ จึงต้องย้ายอย่างเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งต้องลำบากในการเยี่ยมของญาติมากขึ้น ส่วนครอบครัวของ นช.สิริชัย รับรู้ และเข้าใจในการตายของ นช.สิริชัย” ผบ.เรือนจำทุ่งสงกล่าว
นายพิชิต วรรณจิต ผบ.เรือนจำทุ่งสง กล่าวต่อว่า อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รองอธิบดี ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกนายในเรือนจำ รวมทั้ง นายสมบูรณ์ ที่ได้รับบาดเจ็บ ได้มอบเงินรางวัล และกระเช้าของขวัญ โดยนายสมศักดิ์ รังสิโยภาส รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ได้บินด่วนมาเยี่ยมนายสมบูรณ์ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด และแนะนำกำชับให้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยให้มีความเข้มข้น
ส่วนการดำเนินคดีต่อ 5 นักโทษนั้น พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของท้องที่เกิดเหตุเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนักโทษทั้ง 5 แม้ว่านักโทษชายสิริชัย จะเสียชีวิตก็ตามจะเป็นส่วนหนึ่งของคดี โดยเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหาต่อนักโทษคือ ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพยายามหลบหนีการคุมขังของเจ้าพนักงาน ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ไว้เป็นเบื้องต้น และหากสอบพบว่ามีพฤติกรรมในการก่อเหตุที่เข้ามูลฐานความผิดใดจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
ขณะที่ นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ได้รับตัวนักโทษที่เหลือทั้ง 4 คนมาอยู่ในความควบคุมแล้ว โดยทั้ง 4 คนจะถูกจำตรวน หรือตีตรวนตลอดเวลา เนื่องจากมีพฤติการณ์ในการพยายามหลบหนี และทำร้ายเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างชัดเจน
“เจ้าหน้าที่ได้นำทั้ง 4 คนไปขังแยก และอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด โดยผู้ช่วยเจ้าพนักงานคือ นักโทษชั้นดีที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วย ร่วมดูแลตลอด 24 ชม. และยังต้องดูแลสภาพร่างกายอย่างใกล้ชิด เนื่องจากวานนี้ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ขณะที่เข้าควบคุมหลังจากพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่จะประเมินพฤติกรรมอยู่ตลอดเวลา หากพบความผิดปกติจะพิจารณาดำเนินการไปตามมาตรการในการคุมขังที่มีอยู่แล้ว” ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชกล่าว