xs
xsm
sm
md
lg

ปทส.ลงภูเก็ตเก็บดีเอ็นเอช้าง 2 เชือก พร้อมตรวจสอบตั๋วรูปพรรณ เชื่อไม่น่าถูกต้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ ปทส.พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ภูเก็ตเก็บดีเอ็นเอช้างต้องสงสัย จำนวน 2 เชือก ไปตรวจสอบเพื่อยืนยันว่าเป็นช้างป่ามาจาก อ.แก่งกระจาน หรือไม่ หลังจากตรวจสอบพบว่า ตั๋วรูปพรรณออกมาจากที่ว่าการอำเภอเมืองชัยภูมิ ซึ่งเชื่อว่าทำขึ้นมาโดยไม่ถูกต้อง

วันนี้ (10 พ.ค.) พ.ต.อ.วัชรินทร์ พุสิทธิ์ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผกก.6 บก.ปทส.) พร้อมด้วย นายเมธี มีชัย ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ ท่าอากาศยานภูเก็ต ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบ และเก็บดีเอ็นเอช้างต้องสงสัย จำนวน 2 เชือก ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ว่า มีการสวมตั๋วรูปพรรณ หรือมีการครอบครองช้างป่ามาจาก อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หรือไม่ ประกอบกับตั๋วรูปพรรณของช้างทั้ง 2 เชือกดังกล่าว ได้มาจากที่ว่าการอำเภอเมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเชื่อว่าทำขึ้นมาโดยไม่ถูกต้องเพื่อคุมสัตว์ป่าไว้ใช้งานโดยตรง

โดยรายแรกเข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 139/4 บ้านยา ม.6 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง พบช้างพลาย 1 เชือก ชื่อ พลายพิมาย หรือดอล์ล่าห์ อายุ 3 ปี ถูกล่ามไว้ข้างบ้าน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบมีการฝังไมโครชิปที่บริเวณหูซ้าย จากนั้นได้มีการตรวจตั๋วรูปพรรณของช้างตัวดังกล่าว พบมีการออกตั๋วรูปพรรณจากที่ว่าการอำเภอเมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2554 โดยมี นายทัศน์พล เหลาคม อายุ 54 ปี เป็นเจ้าของช้างเชือกดังกล่าว และบอกว่า ได้ซื้อช้างเชือกดังกล่าวมาจากปางช้างซาฟารี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ เมื่อประมาณเดือน พ.ย.2554 ในราคา 800,000 บาท โดยตรวจสอบเอกสารพบว่าถูกต้องจึงได้ซื้อมา

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกัน ได้ไปตรวจสอบที่ปางช้างไม่มีชื่อ บริเวณเทือกเขานาคเกิดทางขึ้นพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี ซอยยอดเสน่ห์ ม.10 ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เพื่อทำการตรวจสอบลูกช้างชื่อ พังน้ำฝน พบนายวสันต์ บุตรงาม ควาญช้างกำลังลังดูแลช้างเชือกดังกล่าวอยู่ ทราบว่า ช้างพังน้ำฝน มีอายุ 2 ปีเศษ โดยเจ้าของช้างอยู่ที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบไมโครชิปบริเวณหูซ้าย และได้เก็บตัวอย่างเลือดไว้ตรวจสอบต่อไป

พ.ต.อ.วัชรินทร์ กล่าวว่า ในการลงพื้นที่เก็บดีเอ็นเอของลูกช้างที่ 2 เชือกนั้น เป็นเรื่องสืบเนื่องมาจากพื้นที่ อ.แก่งกระจาน ซึ่งมีการตรวจสอบพบตั๋วรูปพรรณช้างที่ออกในพื้นที่ อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ และสืบทราบว่า มีการลักลอบนำลูกช้างป่าไปทำการฝึกในพื้นที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเวลา 3 เดือนจนเชื่อง แล้วมีควาญช้างในพื้นที่ จ.พังงา ไปรับซื้อตัวไว้ในราคา 5 แสนบาท แล้วมีการทำตั๋วฯ พร้อมชิปเอามาไว้ตามปางช้างที่ภูเก็ต กับพังงา เจ้าหน้าที่จึงได้ตามมาตรวจสอบ ผลปรากฏว่า พบมีช้าง จำนวน 2 เชือกที่ภูเก็ต ซึ่งมีตั๋วรูปพรรณช้างที่มาจากที่ว่าการอำเภอเมืองชัยภูมิ ที่เคยออกตั๋วรูปพรรณช้างไว้ทั้งหมด 61 ฉบับ และในจำนวนนี้ ก็พบมีตั๋วรูปพรรณช้างจำนวน 9 ฉบับ พร้อมไมโครชิปจำนวนหนึ่งยังไม่ได้ใช้งาน หรือใช้คุมช้าง จึงมีการตั้งข้อสงสัยว่าตั๋วฯ ที่ออกมาทั้งหมดน่าจะมีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง

พ.ต.อ.วัชรินทร์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบย้อนไปที่ตั๋วรูปพรรณ 61 ฉบับนั้นพบว่า มี 2 ฉบับ ที่มีการนำมาใช้ในปางช้าง จ.ภูเก็ต กับ จ.พังงา จึงได้ลงมาตรวจสอบเพื่อเก็บดีเอ็นเอของช้างที่ถูกระบุไว้ในตั๋วรูปพรรณ นำไปตรวจสอบเปรียบเทียบว่าลูกช้างดังกล่าวเป็นลูกของช้างเชือกใด จากป่าแก่งกระจาน รวมทั้งการตรวจสอบเกี่ยวกับขั้นตอนของการออกตั๋วรูปพรรณช้างของที่ว่าการอำเภอชัยภูมิว่าถูกต้องหรือไม่อย่างไร หากพบว่าไม่ถูกต้องก็จะได้มีการเพิกถอนตั๋วรูปพรรณ และตรวจยึดช้างดังกล่าวส่งให้แก่ทางกรมอุทยานฯ เพื่อดูแลต่อไป

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ยอมรับว่าลูกช้างทั้ง 2 เชือกนั้น จะมีตั๋วรูปพรรณที่ตรงกับลักษณะของลูกช้าง แต่ในเรื่องของอายุจะไม่ตรงกัน เพราะตั๋วรูปพรรณออกระหว่างปี 2554 กับ 2555 ในขณะที่มีการระบุว่าลูกช้างมีอายุประมาณ 3 ปีเศษ ซึ่งก็จะได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

 
 





กำลังโหลดความคิดเห็น