กระบี่ - กรมทางหลวง สรุปผลการศึกษาโครงการสร้างทางเลี่ยงเมืองกระบี่ คาดสร้างแน่อีก 4 ปี ระยะทาง 29 กิโลเมตร ใช้งบก่อสร้างประมาณ 1,000 ล้านบาท
วันนี้ (9 พ.ค.56) นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดเวทีการประชุมสรุปผลการศึกษาโครงการสร้างทางเลี่ยงเมืองกระบี่ (ครั้งที่ 3) เพื่อนำเสนอผลการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมาตรการการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบ พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดขึ้น ณ โรงแรมกระบี่ มารีไทม์ ปาร์ค แอนด์ สปา รีสอร์ท
นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ปัจจุบันทางหลวงหมายเลข 4 หรือถนนเพชรเกษม เป็นเส้นทางสายหลักในการสัญจรพื้นที่ภาคใต้ และจังหวัดกระบี่ ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนการเดินทาง และเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันโดยที่ทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงระหว่างอำเภออ่าวลึก และอำเภอคลองท่อม ที่ตัดผ่านพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ มีสภาพการจราจรคับคั่งขึ้นจากเดิมที่มีผู้ใช้รถในแต่ละวันประมาณ 10,000 คัน ปัจจุบันเพิ่มเป็นวันละกว่า 30,000 คัน ถึงแม้ว่าได้สร้างเป็น 4 ช่องทางการจราจรแล้วก็ตาม ในช่วงเวลาเร่งด่วน หรือกรณีเกิดภัยพิบัติต่างๆ ทำให้เกิดการจราจรติดขัดอย่างหนัก เนื่องจากไม่มีเส้นทางเลือกอื่นในการระบายการจราจร โดยจะเห็นได้จากเหตุการณ์น้ำท่วมจังหวัดกระบี่ ครั้งใหญ่ เมื่อปี 2554
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า ประกอบกับจังหวัดกระบี่ เป็นเมืองท่องเที่ยว มีสนามบินนานาชาติ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการขยายตัวขยายตัวของปริมาณการจราจรอย่างรวดเร็ว โดยในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าจังหวัดกระบี่ ไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา และรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นบนเส้นทางสายเศรษฐกิจ และเส้นทางสายหลักด้านการท่องเที่ยว กรมทางหลวงจึงได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองกระบี่ มาตั้งแต่ปี 2554 โดยมีแนวคิดที่จะพัฒนาเส้นทางใหม่ที่เป็นทางเลี่ยงเมือง
โดยในเบื้องต้น ได้มีการสำรวจไว้จำนวน 4 เส้นทาง จนได้ข้อสรุปเส้นทางที่จะใช้สร้างทางเลี่ยงเมืองกระบี่ ได้แก่ เส้นทางโครงการจุดเริ่มต้นที่บ้านหนองขอน ใกล้กับทางแยกบ้านในสระ ซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างทางหลวงหมายเลข 4 และทางหลวงหมายเลข 4033 ม.2 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ โดยแนวลอดผ่านสายไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แนวเส้นทางตัดผ่านบ้านตลาดเก่า-ห้วยโต้ ม.6 ต.ทับปริก บ้านหน้าชิง ม.1 ต.กระบี่น้อย บ้านกระบี่น้อย ม.6 ต.กระบี่น้อย บ้านไสโป๊ะเหนือ ม.5 ต.เหนือคลอง บ้านห้วยยูงตก ม.1 ต.ห้วยยูง บ้านห้วยยูงใต้ ม.3 ต.ห้วยยูง บ้านคลองแห้ง ม.4 ต.ห้วยยูง บ้านห้วยไทร ม.5 ต.ปกาสัย สิ้นสุดโครงการที่บ้านนาเหนือ ม.1 ต.โคกยาง อ.เหนือคลอง บรรจบกับทางหลวงหมายเลข 4 บริเวณกิโลเมตรที่ 987+200 เนื่องจากเป็นเส้นทางที่สร้างผลกระทบต่อชาวบ้าน และสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด รวมระยะทาง 29 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการศึกษาสำรวจ 20 ล้านบาท
หลังจากนี้ กรมทางหลวงจะนำรายงานผลการศึกษาฯ เสนอต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณาให้ความเห็นชอบ คาดว่าใช้เวลาอีกประมาณ 3-4 ปี ก็จะสามารถเสนอของบประมาณจากรัฐบาลก่อสร้างได้ โดยคาดว่างบประมาณในการก่อสร้างไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท
ในที่ประชุมได้มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบที่มีการสำรวจถนนเลี่ยงเมืองกระบี่ตัดผ่าน เดินทางมาฟังการสรุปข้อมูล และรับฟังความคิดเห็นครั้งสุดท้าย จากกรมทางหลวงเป็นจำนวนมาก จนที่นั่งในห้องประชุมไม่พอ ประชาชนบางคนเดินทางกลับ นอกจากนี้ ยังทราบว่าหลังจากที่กรมทางหลวงมีการกำหนดเส้นทางที่ชัดเจน ทำให้ราคาที่ดินที่ถนนเลี่ยงเมืองกระบี่ ตัดผ่านราคาพุ่งสูงกว่าหลายเท่าตัว โดยชาวบ้านรายหนึ่งที่ถนนตัดผ่านที่ดินบอกว่า เดิมทีที่ดินของตนมีราคาประมาณไร่ละ 50,000 บาท แต่หลังจากที่ทราบว่ามีถนนตัดผ่านราคาที่ดินของตนพุ่งสูงถึงไร่ละ 500,000 แสนบาททันที และชาวบ้านที่มาฟังส่วนใหญ่อยากทราบเพียงว่าจะได้ค่าตอบแทนอย่างไร ต้องเตรียมตัวอย่างไร หลังจากที่อาจจะต้องสูญเสียที่ดินไปหลังจากที่มีการแวนคืน เพราะราคาที่ดินกระบี่ทุกแห่งขณะนี้มีราคาสูงมาก