xs
xsm
sm
md
lg

รอง ผบช.ภ 8 ติดตามคดีใหญ่ในภูเก็ต ปล้นทอง เผา จยย.ที่ยังไม่คืบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รอง ผบช.ภ.8 ร่วมประชุมตำรวจภูเก็ต ติดตามเร่งรัด 3 คดีสำคัญ ทั้งฆ่าโหด ผอ.ฝ่ายบุคคลโรงแรมฮิลตัน อาเคเดียฯ ปล้นทองในโลตัส และลอบวางเพลิงเผาจักรยานยนต์ป่วนไปทั้งเมือง เผยทั้ง 3 คดียังไม่คืบหน้า ขาดพยานหลักฐานสาวไปถึงคนร้าย ขณะที่ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ขอรัฐบาลให้ความสำคัญกับจังหวัดภูเก็ต เข้ามาดูแลเรื่องการติดตั้งกล้องวงจรปิดอย่างจริงจัง
พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต
พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.วิศณุ ม่วงแพร่ศรี รอง ผบช.ภ.8 และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต วันนี้ (29 เม.ย.) ว่า การมาประชุมร่วมครั้งนี้ของรอง ผบช.ภ.8 เพื่อมาติดตามเร่งรัดคดีคั่งค้าง 3 คดี คือ คดีคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ตามประกบยิงนางจินตนา มหัทธนพรรค อายุ 43 ปี ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล โรงแรมฮิลตัน ภูเก็ต อาเคเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา เสียชีวิตคารถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต เอสยูวีเคปติวา สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 9131 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ม.ค.2556 บริเวณสามแยกถนนขวาง ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้าเนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานที่จะชี้ไปถึงตัวคนร้ายได้

คดีต่อไปเป็นคดีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวเข้าชิงทรัพย์ร้านทอง ห้างทอง ซีพี โกลด์ มาสเตอร์ ในห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ภูเก็ต ได้ทองคำรูปพรรณ น้ำหนัก 106 บาท และยิงพลเมืองดีเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 เม.ย.56 ที่ผ่านมา ตอนนี้เจ้าหน้าที่พยายามติดตามจากภาพคนร้ายที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด แล้วก็พยายามตรวจสอบจากทุกทางที่ได้รับแจ้งมาจากชาวบ้าน ซึ่งตอนนี้ก็มีชาวบ้าน 10 กว่ารายที่ได้แจ้งเบาะแสของคนร้ายเข้ามา

ส่วนอีกคดีเป็นคดีเกี่ยวกับการก่อเหตุลอบวางเพลิงเผารถจักรยานยนต์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งในคดีนี้ผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นบุคคล หรือเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกัน เพราะเหตุที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งจะเกิดหมุนเวียนในพื้นที่รอยต่อระหว่าง สภ.ทุ่งทอง กับ สภ.กมลา ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามไล่ล่าเบาะแสคนร้าย ซึ่งก็พบว่ามีความฉลาดที่จะหลบหลีก เพราะจุดที่ก่อเหตุจะไม่มีกล้องวงจรปิด และเป็นจุดอับมีแสงสว่างจากเสาไฟส่องสว่างน้อย

อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือเจ้าของรถ และผู้คนทั่วไปช่วยกันระมัดระวัง หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัยที่มาด้อมๆ มองๆ บริเวณรถจักรยานยนต์ ให้ช่วยสังเกตรูปพรรณสัณฐานของบุคคลนั้นๆ แล้วแจ้งมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะได้เข้าดำเนินการตรวจสอบ และติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป

นอกจากนี้ พล.ต.ต.โชติ กล่าวถึงการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 300 กว่าตัว ซึ่งไม่ครอบคลุม และชำรุดเสียหายลงไปเรื่อยๆ เวลาเกิดเหตุแต่ละครั้งก็ต้องอาศัยกล้องจากบ้านเรือนของประชาชน กล้องวงจรปิดบางตัวก็ติดตามดูภาพคนร้ายได้ แต่กล้องบางตัวก็ไม่มีภาพคนร้าย เนื่องจากชาวบ้านเขาติดไว้ดูภายในบ้าน และกล้องก็ไม่มีประสิทธิภาพที่จะใช้ในการติดตามจับกุมคนร้าย จึงทำให้เป็นเรื่องยากในการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ ดังนั้น ในเรื่องของการติดตั้งกล้องวงจรปิดจึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแล

“หลังจากเกิดเหตุคนร้ายชิงทรัพย์แล้วทำร้ายนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเสียชีวิต ซึ่งครั้งนั้นคนร้ายถูกจับกุมจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ ทั้งช่วงก่อนลงมือก่อเหตุ และขณะที่ลงมือก่อเหตุ ซึ่งเหตุเกิดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ในพื้นที่ ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต จากเหตุการณ์ครั้งนั้นรัฐบาลก็สนใจให้ดำเนินการในเรื่องของการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตให้มีเพิ่มมากขึ้น แต่ตอนนี้เรื่องก็เงียบหายไป ทำให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญอย่างจริงจังกับปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องเข้ามาดูแลเรื่องกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของจังหวัดภูเก็ตที่เป็นเมืองท่องเที่ยว หรือว่าต้องให้เกิดเหตุให้หนักกว่านี้หรือรัฐบาลจึงจะเข้ามาดำเนินการ” พล.ต.ต.โชติ กล่าวในที่สุด
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น