xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ภูเก็ตเร่งคลี่คลายคดียิง ผอ.ฝ่ายทรัพยากรบุคคลโรงแรมดังแต่ยังไร้วี่แวว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เรียกประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยิงผู้อำนวยฝ่ายทรัพยากรบุคคลโรงแรมดัง เบื้องต้น ตั้งหลายประเด็นลอบสังหาร ทั้งปัญหาไล่พนักงานออก ปัญหาภายในครอบครัว ปัญหาขัดแย้งกับบุคคลภายนอก เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตถูกจ่อยิงก่อนรถจะเสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าแสงสว่างประมาณ 200 เมตร
รถของผู้ตายหลังจากถูกคนร้ายยิงทำให้รถเสียหลักเบี่ยงไปชนกับเสาไฟฟ้า
เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (19 ม.ค.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นางจินตนา มหันธนพรรค อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ซอย 2/1 ถนนเยาวราช ตำบลตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลโรงแรมฮิลตันภูเก็ต อาเคเดีย รีสอร์ต แอนด์ สปา ตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เสียชีวิตคารถยนต์แวนอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ยี่ห้อ Chevrolet สีขาว ป้ายทะเบียน กพ 9131 ภูเก็ต บริเวณกลางสามแยกถนนขวาง ฝั่งถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ตำบลวิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต

โดยมี พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ และ พ.ต.อ.วิทูรย์ กองสุดใจ พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และชุดสืบสวนตำรวจภูธรทุกสถานีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตร่วมประชุม เพื่อสรุปความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี โดยในการประชุมครั้งนี้ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนในคดีได้นำเอาข้อมูลภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ตามถนนสายสำคัญต่างๆ ใกล้ที่เกิดเหตุ รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าโรมแรมที่จับภาพรถของผู้ตายไว้ได้

พล.ต.ต.โชติ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดไล่ล่าติดตามคนร้าย ตามภารกิจที่รับผิดชอบ ประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่ชุดวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ชุดติดตามบุคคล ทั้งกรณีที่เป็นผู้ต้องสงสัย และพยานที่เป็นเพื่อนร่วมงานของผู้ตาย ญาติพี่น้อง และบุคคลในครอบครัว โดยให้รายงานในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดี และประชุมสรุปความคืบหน้าเป็นประจำทุกวัน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลภาพกล้องวงจรปิดพบว่า นางจินตนา มหันธนพรรค ผู้ตายขับรถยนต์ส่วนตัวออกจากโรงแรม เมื่อเวลาประมาณ 19.45 น. วันที่ 18 มกราคม มาถึงจุดเกิดเหตุประมาณเวลา 20.10 น. และในแนวทางการสืบสวนเชื่อว่า กลุ่มคนร้ายพยายามขับขี่รถติดตามมาตั้งแต่ออกจากโรงแรม แต่ไม่มีจังหวะที่จะลงมือ จนกระทั่งมาถึงใกล้จุดเกิดเหตุสามแยกถนนขวาง รถต้องชะลอความเร็ว เพราะบริเวณดังกล่าวมีสัญญาณไฟจราจร คนร้ายสบโอกาสจึงใช้อาวุธปืนยิงเข้าบริเวณด้านขวาของรถผู้ตาย ก่อนถึงทางสามแยกถนนขวาง ประมาณ 200 เมตร และเป็นผลทำให้รถเริ่มเบนไปทางซ้าย จากนั้น ไปชนกับเสาไฟฟ้าหัก
พลตำรวจตรีโชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เกิดเหตุพบว่าภาพจากกล้องวงจรปิดมีทั้งรถตู้โดยสารสาธารณะ รถกระบะ รถจักรยานยนต์ตามหลังมาอีกจำนวนหลายคัน ซึ่งถือเป็นพยานสำคัญที่น่าจะเห็นเหตุการณ์ จึงขอความร่วมมือให้แจ้งข้อมูล เบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ นอกจากนี้ จากการตรวจสอบหลักฐานต่างๆ พบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ใช้อาวุธปืนลูกซองลงมือสังหารโหดนางจินตนา มหันธนพรรค เพราะพบหมอนรองกระสุนลูกซอง และกระสุนลูกปรายอยู่ในกะโหลกศีรษะผู้ตายด้วย

พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อไปว่า สำหรับมูลเหตุในการสังหารโหดนั้นตั้งไว้หลายประเด็น ทั้งประเด็นความขัดแย้งในสถานที่ทำงานโรงแรม ซึ่งผู้ตายเคยไล่พนักงานระดับหัวหน้าออกจากงาน รวมทั้งการว่ากล่าวพนักงาน นอกจากนั้น ยังมีประเด็นปัญหาภายในครอบครัว หรือคนรอบข้างหรือไม่ ซึ่งประเด็นทั้งหมดจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำต่อไป ซึ่งขณะนี้ ได้มีการสอบปากคำพยานไปแล้วหลายปากเพื่อนำข้อมูลไปประกอบการพิจารณา ส่วนสามีของผู้ตายทราบว่าทำงานอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ที่จะต้องเชิญตัวมาสอบปากคำอีกส่วนหนึ่งด้วย อย่างไรก็ดี พนักงานสอบสวนยังไม่ชี้ชัดว่าการสังหารในครั้งนี้มาจากประเด็นใดแน่นอน

ขณะที่ในเช้าวันนี้ (19 ม.ค.) พ.ต.อ.วิทูรย์ กองสุดใจ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต เพื่อประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง โดยมอบหมายให้ พ.ต.ต.สากล ไกรนรา สารวัตรเวรไปสอบปากคำพนักงานโรงแรมฮิลตันภูเก็ต อาเคเดีย รีสอร์ต แอนด์ สปา ประมาณ 6 คน และทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า ผู้ตายปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่โรงแรมแห่งนี้มาประมาณ 6 เดือนเท่านั้น โดยผู้ตายเป็นบุคคลที่เข้มงวดกวดขัน เจ้าระเบียบ และในช่วงที่ผ่านมา ได้พิจารณาให้พนักงานระดับหัวหน้างานออกจากงาน และมีพนักงานบางส่วนที่ถูกตำหนิก็มี

กำลังโหลดความคิดเห็น