ระนอง - ผบช.ตม.ลงพื้นที่ระนอง ตรวจติดตามการดำเนินการของด่านตรวจคนเข้าเมืองระนอง เตรียมความพร้อมให้บริการหลังเปิด AEC ในปี 2558 ที่คาดว่าจะมีผู้ข้ามแดนเพิ่มมากขึ้น
วันนี้ (28 เม.ย.) ที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองระนอง อ.เมือง จ.ระนอง พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.ตม.) พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมกำลังพลตำรวจตรวจคนเข้าเมืองระนอง และหน่วยงานในสังกัด เพื่อติดตามผลการดำเนินการตามนโยบาย และติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายเสริมสร้างขวัญ และกำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชา โดยมี พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนอง และหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ตม. กล่าวว่า เนื่องจากจังหวัดระนองมีความสำคัญทั้งในด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ สังคม ทั้งยังเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญที่อยู่ติดกับประเทศพม่า และในอนาคตจะมีบทบาทสำคัญในการเป็นประตูเข้า-ออกทางตอนใต้ของทั้ง 2 ประเทศ และจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากหลังการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งขณะนี้ทาง สตม.ได้กำหนดนโยบายให้ด่าน ตม.ทั่วประเทศ รวมทั้งระนองเร่งเตรียมความพร้อมในการรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยสิ่งสำคัญที่ด่าน ตม.ทั่วประเทศจะต้องเร่งดำเนินการ คือ การเตรียมพร้อมเรื่องเทคโนโลยีเพื่อที่จะรองรับการตรวจสอบบุคคลเข้า-ออก ทั้ง PASSPORT, BORDERPASS ที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นหลังเปิดอาเซียน การเตรียมพร้อมด้านสถานที่ บุคลากร และภาษา ซึ่งขณะนี้ทาง ตม.กำหนดให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านชายแดนต้องเรียนรู้ภาษาที่ 3 ด้วย เช่น ด่านจังหวัดระนอง นอกจากมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 แล้ว ภาษาที่ 3 คือ ภาษาพม่า ซึ่งจะต้องเรียนรู้ด้วยเพราะผู้ที่ผ่านเข้า-ออกส่วนใหญ่จะเป็นชาวพม่า
พล.ต.ท.ภาณุ กล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายการเฝ้าระวังและป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั้น ขณะนี้ทางรัฐบาลมีนโยบายการยืดระยะเวลา หรือผ่อนผันการขึ้นทะเบียนแรงงานเป็นกรณีพิเศษต่อไปอีกเป็นเวลา 120 วัน นับตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน 2556 เป็นต้นไป ดังนั้น จึงเชิญชวนให้แรงงานต่างด้าว และนายจ้างเร่งดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ต่อผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 อย่างเคร่งครัดกับคนต่างด้าวทุกสัญชาติ ทั้งแต่การเดินทางเข้า ระหว่างอยู่ในประเทศ และการเดินทางออก ใครกระทำถูกต้องตามกฎหมายก็ต้องบริการ แต่ใครกระทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการปราบปราม จับกุม และส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป