xs
xsm
sm
md
lg

“เด็จพี่” นำทีมรองผู้ว่าฯ ภูเก็ตลุยแก้ปัญหาปล่อยน้ำเสียลงหาดบางเทา (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “เด็จพี่” นำทีมรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบปัญหาปล่อยน้ำเสียลงทะเลหาดบางเทา พบเป็นปัญหาเรื้อรังทั้งน้ำเสียจากชุมชน-ผู้ประกอบการ สั่งเร่งแก้ด่วนก่อนกระทบการท่องเที่ยวในภาพรวม



เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (23 เม.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตำบลเชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบปัญหาการปล่อยน้ำเสียจากคลองบางเทาลงทะเลที่บริเวณชายหาดบางเทาหมู่ที่ 3 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการจอดเรือหางยาวเพื่อการท่องเที่ยว และเรือประมงของชาวประมงพื้นบ้าน ภายหลังมีการนำเสนอข่าวกรณีชาวบ้านร้องเรียนไปยังสื่อมวลชน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน และนักท่องเที่ยว เพราะถ้าปล่อยไว้นักท่องเที่ยวจะหายไปจากชายหาดดังกล่าวอย่างแน่นอน โดยมีนายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล นายเกชา เกราะเหล็ก ที่ปรึกษาชมรมเรือหางยาวอ่าวบางเทา และสมาชิกชมรมฯ พร้อมด้วยชาวบ้านร่วมให้ข้อมูล

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายพร้อมพงศ์ ได้ลงพื้นที่ 3 จุดด้วยกัน ประกอบด้วย จุดต้นน้ำ ซึ่งอยู่บริเวณสะพานใกล้โรงแรมดาหลา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า น้ำในจุดดังกล่าวไม่มีสีดำแต่อย่างใด หลังจากนั้นได้เดินต่อไปยังจุดที่ 2 ซึ่งห่างจากจุดแรกประมาณ 600 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่หมู่ที่ 2 บริเวณสะพานบิลลี่ พบว่า สภาพน้ำบริเวณดังกล่าวเริ่มที่จะมีสีดำ โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงไปหาต้นตอของน้ำที่ไหลลงมาในคลองดังกล่าวแต่ไม่พบ หลังจากนั้นได้เดินทางต่อไปยังบริเวณสะพานบางเทา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ 2 ประมาณ 1 กิโลเมตร โดยจุดนี้อยู่เกือบถึงปลายน้ำที่มีการปล่อยลงทะเล พบว่าสภาพน้ำในจุดดังกล่าวมีสีดำเข้ม และมีกลิ่นเหม็นมาก

ทั้งนี้ หลังจากตรวจสอบพื้นที่เสร็จแล้ว ก็ได้มีการมาประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดหาแนวทางในการแก้ปัญหา โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวทางสื่อมวลชนกรณีมีการปล่อยน้ำเสียลงในลำคลองบางเทา และไหลลงทะเลบริเวณหาดบางเทา ต.เชิงทะเล นั้น นอกจากจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ประกอบอาชีพอยู่บริเวณดังกล่าวแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวด้วย ตนในฐานะที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ในกลุ่มจังหวัดอันดามัน จึงได้ประสานมายังจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะถ้าปล่อยไว้ปัญหาที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตในภาพรวมได้ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต นอกจากจะมีปัญหาในจุดนี้แล้วยังมีปัญหาเรื่องของน้ำเสียในจุดอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียในพื้นที่บางเทานั้นจะทำเป็นโมเดลในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียจุดอื่นๆ ของจังหวัดภูเก็ตต่อไป

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ของคลองบางเทา ซึ่งมีพื้นที่ต่อเนื่องระหว่างหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 3 พบว่า น้ำที่ไหลลงมาในลำคลองช่วงต้นน้ำในพื้นที่หมู่ที่ 2 น้ำยังไม่มีสีดำ แต่เมื่อมาถึงกลางน้ำซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างหมู่ที่ 2 กับหมู่ที่ 3 บริเวณอ่าวบางเทา พบน้ำในลำคลองเริ่มมีสีดำ และเมื่อไหลลงอ่าวบางเทาซึ่งเป็นปลายน้ำจะพบว่าน้ำมีสีดำมาก และมีกลิ่นเหม็นด้วย โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่สะพานบางเทาจนถึงปากอ่าวบางเทา พบว่าน้ำจะมีสีดำค่อนข้างมาก นอกจากนั้น จากการตรวจสอบพบว่า สองฝั่งคลองเป็นที่ตั้งของสถานประกอบการ มีทั้งโรงแรมที่พักขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก ร้านอาหาร บาร์เบียร์ บริการล้างอัดฉีด และบ้านเรือนของประชาชน นอกจากนี้ ยังพบว่ามีพี่น้องชาวประมงบางรายที่นำเรือเข้ามาจอดในลำคลองดังกล่าว ได้รับผลกระทบจากน้ำเสียจนทำให้ป่วยเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังรักษามาเกือบเดือนแต่ยังรักษาไม่หาย

อย่างไรก็ตาม สำหรับการแก้ปัญหาน้ำเสียในพื้นที่บางเทานั้น จะต้องกำหนดแผนงานดำเนินการทั้งในระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว โดยในส่วนระยะยาวนั้นทราบว่ากำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่แล้ว คาดว่าอีก 2 ปีก็จะสามารถใช้งานได้ โดยใช้งบประมาณในการดำเนินการ 300 ล้านบาท แต่สิ่งที่จะต้องเร่งทำในระยะสั้นคือ การอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยมีการรณรงค์สร้างจิตสำนึกของผู้ประกอบการ และประชาชนไม่ให้มีการปล่อยน้ำเสียลงมาในลำคลองดังกล่าว การใช้มาตรการทางสังคมเข้ามากดดัน หากไม่ได้ผลก็ต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย รวมทั้งจะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลปัญหาดังกล่าวโดยเฉพาะ และทำเป็นต้นแบบสำหรับการแก้ปัญหาในพื้นที่อื่นๆ ด้วย เนื่องจากทราบว่า ขณะนี้ในจังหวัดภูเก็ตมีการร้องเรียนเรื่องการปล่อยน้ำเสียลงในลำคลองสาธารณะจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 จุด

นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวด้วยว่า ระหว่างรอการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย ขอให้องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบสถานประกอบการต่างๆ ว่ามีการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียหรือไม่อย่างไร หากพบว่าไม่มีก็ต้องขอความร่วมมือไม่ให้ปล่อยน้ำเสียลงในลำคลอง และหากไม่ได้ผลก็ต้องใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาจัดการ สิ่งสำคัญ คือ จะต้องดึงภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ด้วยการใช้มาตรการทางสังคมกดดัน รวมทั้งมาตรการทางกฎหมาย เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาน้ำเสียดังกล่าวไม่ได้กระทบเฉพาะคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวด้วย เพราะหาดทรายชายทะเลเป็นจุดขายสำคัญของภูเก็ต หากมีปัญหาก็ไม่มีคนเข้ามาท่องเที่ยว ซึ่งหากต้องการงบประมาณที่จะนำมาใช้ก็ให้ประสานมาได้ และตนพร้อมที่จะประสานไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดหางบประมาณมาแก้ปัญหาต่อไป

ขณะที่นายอัครวัฒน์ หิรัญพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำตรวจสอบ 3 จุด คือ จุดต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ พบว่า ทุกจุดมีค่า BOD เกินมาตรฐานทุกจุด นอกจากนั้น ยังพบว่าน้ำมีแบคทีเรียเกินมาตรฐานเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นยังพบว่ามีการตกตะกอนของน้ำ ซึ่งจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องคุณภาพน้ำให้ดีขึ้นโดยเร็วที่สุด

ด้านนายเกชา เกราะเหล็ก ที่ปรึกษาชมรมเรือหางยาวอ่าวบางเทา กล่าวว่า คงไม่ต้องพิสูจน์ว่าน้ำเสียในลำคลองมีระดับเท่าใด เพราะปัจจุบันจะพบว่าปลาในลำคลองตายเกือบหมดแล้ว และน้ำในลำคลองดังกล่าวยังส่งกลิ่นเหม็นที่สามารถรับรู้ได้ ทราบว่า ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลได้มีการประชุมเพื่อแก้ปัญหา แต่ไม่มีการแจ้งให้ทางชุมชน หรือทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ทราบ จึงขอให้หากมีการประชุมแก้ปัญหาดังกล่าวก็ขอให้แจ้งให้ทราบด้วย เพื่อจะได้มาหาทางออกร่วมกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นมานานแล้ว จึงอยากให้มีการแก้ไขปัญหากันจริงๆ เพราะถ้าปล่อยไว้ยอมที่จะส่งผลกระทบเพิ่มมากขึ้น

ส่วนนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า จากที่ได้รับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนแล้ว สรุปว่า ในการทำงานจะต้องมีการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน เบื้องต้นมอบหมายให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลขุดลอกคลองดังกล่าวที่มีความยาวประมาณ 1.6 กม. เพื่อให้น้ำสามารถถ่ายเทได้สะดวก และจะทำให้ทราบจุดว่าจุดที่ปล่อยน้ำเสียลงคลองมาจากจุดไหนบ้าง นอกจากนั้น ให้มีการตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเป็นคณะกรรมการ และจัดให้มีการประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาที่ชัดเจนอย่างเร่งด่วน

มอบหมายให้ฝ่ายปกครองอำเภอถลาง และองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ทำการสำรวจจำนวนโรงแรม และสถานประกอบการที่ตั้งอยู่ตลอดแนวลำคลองสองฝั่ง หลังจากมีการสำรวจได้ข้อมูลแล้วก็ให้เชิญผู้ประกอบการทุกส่วนมาประชุมร่วมกันเพื่อขอความร่วมมือในการช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ในส่วนของปัญหาน้ำเสีย และมีกลิ่นเหม็นนั้นก็มอบหมายให้ทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดไปทำการแก้ปัญหาในเบื้องต้น ในส่วนของการอนุญาตก่อสร้างต่างๆ ก็ขอให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ได้เพิ่มความเข้งวด โดยเฉพาะเรื่องการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียของสถานประกอบการต่างๆ ซึ่งหากดำเนินการได้ตามแนวทางที่มีการประชุมร่วมกันก็เชื่อว่าน่าจะแก้ปัญหาได้ และสามารถเป็นแบบอย่างในการแก้ปัญหาของพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น