นครศรีธรรมราช - “ผบก.ภ.นครฯ” ควงหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรทั้ง 13 อำเภอ แถลงผลกวาดล้างอาชญากรรมรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ ยึดได้ทั้งระเบิด อาวุธสงคราม ปืนเถื่อน ยาเสพติดหลายชนิด พร้อมผู้ต้องหานับร้อยราย
วันนี้ (14 เม.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พร้อมหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรทั้ง 23 อำเภอ ของ จ.นครศรีธรรมราช แถลงข่าวการกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 1-13 เม.ย.2556 เน้นเป้าหมายหลักคือ มือปืนรับจ้าง อาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ยาเสพติด ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ การโจรกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ผู้ต้องหาคดีตามหมายจับ และสถานบริการ รวมถึงอบายมุขทุกประเภท
พล.ต.ต.รณพงษ์ ระบุว่า ผลการกวาดล้างสามารถจับกุมอาวุธปืนได้ 44 ราย ผู้ต้องหา 45 คน อาวุธปืนชนิดต่างๆ จำนวน 48 กระบอก เป็นปืนมีทะเบียน 17 กระบอก ปืนเถื่อน 31 กระบอก อาวุธสงคราม 3 กระบอก และระเบิด 1 ลูก ส่วนคดียาเสพติดจับกุมได้ 365 ราย ผู้ต้องหา 392 คน ของกลางยาบ้า 3,803 เม็ด ยาไอซ์ 3,944 กรัม กัญชา 2,165 กรัม และใบกระท่อม 4,220 กรัม ส่วนการพนันจับกุมได้ 33 ราย ผู้ต้องหา 89 คน นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีค้างเก่าได้จำนวน 69 คดี ได้ผู้ต้องหา จำนวน 75 คน
สำหรับผู้ต้องหาที่ตำรวจนำมาแถลงข่าวในครั้งนี้ 2 คนคือ นายสมพร หรือกบ สโมสร อายุ 39 ปี บ้านอยู่ ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฆ่านายทวีลาภ สุขสว่างโรจน์ หรือทนายเติ้ง อายุ 36 ปี เป็นทนายความชื่อดังของนครศรีธรรมราช ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ม.ค.2556 ที่ผ่านมา อีกรายคือ นายวรวุฒิ หรืออาน ตราชัย อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/3 ม.7 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ที่จับกุมตัวได้ขณะเล่นสงกรานต์ในซอยประตูลอด ต.ในเมือง อ.เมือง
พล.ต.ต.รณพงษ์ กล่าวว่า การระดมกวาดล้างอาชญากรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่มีประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมาก และอาจจะเป็นช่วงที่มีผู้ฉวยโอกาสก่ออาชญากรรม และกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวตลอดช่วงสงกรานต์แน่นอน
ส่วนการรณรงค์ลดอุบัติเหตุจะเห็นได้ว่า จ.นครศรีธรรมราช แม้จะเกิดเหตุค่อนข้างมาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรถจักรยานยนต์ซึ่งไม่มีคู่กรณี คือ เป็นอุบัติเหตุแบบขับล้มเอง แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วง 7 วันอันตราย ซึ่งจะร่วมกันรณรงค์ให้ได้ หาก จ.นครศรีธรรมราชไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วงดังกล่าว เชื่อว่าเราจะสามารถได้รับรางวัล 1 ล้านบาท จากความสำเร็จในครั้งนี้