นครศรีธรรมราช - ตำรวจนครศรีฯ จับกุมอดีตนักโทษหวนค้ายาเสพติด พร้อมอาวุธปืนเถื่อนหลังจากพ้นโทษ ขณะที่ตำรวจทางหลวงจับเครือข่าย “โชเล่ย์ ลานสกา” มือปืนรับจ้างชื่อดัง พกปืนคาร์บินในรถเตรียมก่อเหตุ
เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (17 ม.ค.) พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้สอบสวน นายอนุกิจ ยุทธิวัฒน์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 ม.1 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และนายสุเทพ บริรักษ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115/2 ม.5 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากที่ พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รอง ผกก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้อาศัยอำนาจเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.เข้าทำการจับกุมทั้ง 2 คน ได้ที่บ้านเลขที่ 115/2 หมู่ 5 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้ากว่า 400 เม็ด โดยพบว่า บางส่วนซุกอยู่ในเล้าไก่ที่กำลังฟักไข่ อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ อาวุธปืนลูกซองยาว และปืนยาวไทยประดิษฐ์ รวม 5 กระบอก พร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องมือผลิตอาวุธปืนเถื่อน ซึ่งพบว่า นายสุเทพ และนายอนุกิจเคยต้องโทษคดียาเสพติด หลังจากพ้นโทษมาแล้วยังขยายเครือข่ายค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง และยังขยายการค้าด้วยการผลิตอาวุธปืนเถื่อนจำหน่ายด้วย หลังจากที่สืบสวนจนแน่ชัดเจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมดังกล่าว
จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกัน พ.ต.ท.สุทัศน์ สงสยม สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 7 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจบนถนนสายเบญจมะ-นาพรุ หมู่ 5 ไชยมนตรี อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเส้นทางวงแหวนเลี่ยงเมืองที่คนร้ายมักใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบกับการสืบสวนพบว่า จะมีคนร้ายเตรียมนำอาวุธสงครามไปก่อเหตุฆาตกรรมผู้อื่น
โดยพบว่ารถยนต์อีซูซุ ทะเบียน บม 8226 นครศรีธรรมราช ขับมาด้วยท่าทีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้น พบอาวุธปืนคาร์บินวางอยู่ที่ข้างเบาะ สภาพพร้อมใช้งาน 1 กระบอก มีกระสุนในแมกกาซีนพร้อมยิง 15 นัด จึงจับกุม นายสันติสุข สทานสัตย์ อายุ 26 ปี และนายสีหศักด์ จุ้ยส่องแก้ว อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188 ม.7 ต.ขุนทะเล อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช โดยตั้งข้อหามีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนที่ใช้ในราชการสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง และพกพาไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
พ.ต.ท.สุทัศน์ สงสยม สว.สทล.4 กก.7 เปิดเผยว่า ทั้ง 2 รายเป็นเครือข่ายของนายโชเล่ย์ ลานสกา มือปืนชื่อดังที่อยู่ในระหว่างการดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า อาจมีการก่อเหตุของเครือข่ายนายโชเล่ย์จึงมาตั้งด่านจนสามารถจับกุมไว้ได้พร้อมด้วยของกลางดังกล่าว
เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (17 ม.ค.) พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้สอบสวน นายอนุกิจ ยุทธิวัฒน์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 ม.1 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และนายสุเทพ บริรักษ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115/2 ม.5 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากที่ พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รอง ผกก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้อาศัยอำนาจเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.เข้าทำการจับกุมทั้ง 2 คน ได้ที่บ้านเลขที่ 115/2 หมู่ 5 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้ากว่า 400 เม็ด โดยพบว่า บางส่วนซุกอยู่ในเล้าไก่ที่กำลังฟักไข่ อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ อาวุธปืนลูกซองยาว และปืนยาวไทยประดิษฐ์ รวม 5 กระบอก พร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องมือผลิตอาวุธปืนเถื่อน ซึ่งพบว่า นายสุเทพ และนายอนุกิจเคยต้องโทษคดียาเสพติด หลังจากพ้นโทษมาแล้วยังขยายเครือข่ายค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง และยังขยายการค้าด้วยการผลิตอาวุธปืนเถื่อนจำหน่ายด้วย หลังจากที่สืบสวนจนแน่ชัดเจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมดังกล่าว
จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกัน พ.ต.ท.สุทัศน์ สงสยม สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 7 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจบนถนนสายเบญจมะ-นาพรุ หมู่ 5 ไชยมนตรี อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเส้นทางวงแหวนเลี่ยงเมืองที่คนร้ายมักใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบกับการสืบสวนพบว่า จะมีคนร้ายเตรียมนำอาวุธสงครามไปก่อเหตุฆาตกรรมผู้อื่น
โดยพบว่ารถยนต์อีซูซุ ทะเบียน บม 8226 นครศรีธรรมราช ขับมาด้วยท่าทีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้น พบอาวุธปืนคาร์บินวางอยู่ที่ข้างเบาะ สภาพพร้อมใช้งาน 1 กระบอก มีกระสุนในแมกกาซีนพร้อมยิง 15 นัด จึงจับกุม นายสันติสุข สทานสัตย์ อายุ 26 ปี และนายสีหศักด์ จุ้ยส่องแก้ว อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188 ม.7 ต.ขุนทะเล อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช โดยตั้งข้อหามีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนที่ใช้ในราชการสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง และพกพาไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
พ.ต.ท.สุทัศน์ สงสยม สว.สทล.4 กก.7 เปิดเผยว่า ทั้ง 2 รายเป็นเครือข่ายของนายโชเล่ย์ ลานสกา มือปืนชื่อดังที่อยู่ในระหว่างการดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า อาจมีการก่อเหตุของเครือข่ายนายโชเล่ย์จึงมาตั้งด่านจนสามารถจับกุมไว้ได้พร้อมด้วยของกลางดังกล่าว
