xs
xsm
sm
md
lg

เลขาฯ ศอ.บต.รับฟังปัญหา 233 ราย คดีความมั่นคงปรับคืนสู่สังคม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นราธิวาส - ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง 233 คน เคยมีหมาย ป.วิ อาญา และ พ.ร.ก. วอนเลขาฯ ศอ.บต.อย่าให้สังคมตราหน้าว่าเป็นโจรใต้หลังกลับมาใช้ชีวิตในสังคม

สำหรับการแก้ไขปัญหาอันเกี่ยวเนื่องจากปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ จ.นราธิวาส หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 10 เมษายน 2556 ที่ห้องประชุมโรงแรมตันหยง อ.เมือง จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. ได้เดินทางมาเปิดเวทีให้ผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของจังหวัดนราธิวาส จำนวน 233 คน ซึ่งมีทั้งชาย และหญิง เคยมีหมายจับ ป.วิ อาญา และหมาย พ.ร.ก. ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อคดีความมั่นคงในพื้นที่

จากยอดรวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน ซึ่งอยู่ในระหว่างขั้นตอนของกระบวนการแสดงตนเป็นผู้บริสุทธิ์อีกจำนวนกว่า 800 คน ได้แสดงออกถึงความต้องการที่จะให้ภาครัฐให้การช่วยเหลือ และรับฟังข้อสรุปเพื่อเสนอแนะภาครัฐนำไปแก้ไขและปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง เพื่อเป็นการลดช่องว่างความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

ซึ่งในที่ประชุมที่มีการแบ่งกลุ่มเพื่อสรุปปัญหา และความต้องการในการเสนอแนะแก่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯ ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือกลุ่มบุคคลเหล่านี้ได้ถูกจุด เช่น การให้ความช่วยเหลือด้านพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มบุคคลที่เคยถูกกล่าวหามีอาชีพ และงานทำอย่างเป็นรูปธรรม การสร้างความเข้าใจแก่กลุ่มผู้ประกอบการ ให้รับกลุ่มผู้ที่เคยถูกกล่าวหาเข้าทำงาน ซึ่งปัจจุบันกลุ่มเหล่านี้จะไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ แถมยังถูกตราหน้าว่าเป็นโจรใต้

ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ต้องการให้ทาง ศอ.บต.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสร้างความเข้าใจอย่างเร่งด่วนกับสถานประกอบการต่างๆ เพราะมันอาจจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่สร้างความแตกแยกขึ้นในสังคมได้อีก หลังกลุ่มบุคคลเหล่านี้กลับมาใช้ชีวิตในสังคม

ด้านนายสันติ ชูดวง หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ อันเนื่องมาจากสถานการณ์ความไม่สงบ จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือผู้ที่เคยถูกกล่าวหาด้วยความจริงใจตามกระบวนการของรัฐ ซึ่งจะมีการแต่งตั้งประธานกลุ่มในการติดตามความเป็นอยู่ หลังจากผ่านกระบวนการแสดงตนเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ภาครัฐต้องให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการชดเชยที่เคยถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับเหตุการณ์ความไม่สงบ

โดยที่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ต้องดำรงชีวิตแบบหลบๆ ซ่อนๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีความผิด ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ที่ทางการต้องเยียวยาด้านสุขภาพจิตหาอาชีพให้ทำ โดยเฉพาะการกู้ชื่อเสียงคืนกลับมาเพื่อให้สังคมยอมรับกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่นับถือ และมีหน้ามีตาในชุมชน เมื่อกลับมาอยู่ในสังคมอีกครั้ง ก็ต้องพยายามประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจในทุกวิถีทาง ให้สังคมยอมรับพวกเขากลับมาใช้ชีวิตให้เหมือนเดิมมากที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น