ปัตตานี - เลขาธิการ ศอ.บต.ระบุ ดึงมิติทางศาสนา และวัฒนธรรมเป็นศูนย์รวมแห่งความศรัทธาผ่านผู้นำศาสนา และควรใช้ ด้านผู้นำศาสนาชี้ ใช้ “น้ำดับไฟ” ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่โรงแรมเซาท์เทิร์นวิว ปัตตานี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานในการสานเสวนาเพิ่มประสิทธิภาพผู้นำศาสนาในการแก้ไขปัญหาความมั่นคง โดยมีนายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ปลัดจังหวัดปัตตานี นายอำเภอ รองผู้กำกับการตำรวจภูธร จังหวัดปัตตานี และผู้นำศาสนา อิหม่ามในจังหวัดปัตตานี จำนวนกว่า 600 คน เข้าร่วมการสานเสวนา
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาต่างๆ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะส่วนที่สำคัญที่สุด คือ ผู้นำศาสนาในพื้นที่ เพราะเปรียบเสมือนผู้นำทางจิตวิญญาณที่พี่น้องประชาชนชาวมุสลิมให้ความเคารพ ศรัทธา สามารถชักนำกลุ่มเยาวชนให้ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบ และหลักบัญญัติของศาสนาได้ อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่รับรู้ปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นในชุมชนได้เป็นอย่างดี พร้อมเสนอว่า ตนอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาสของคนในพื้นที่ ควรใช้มิติทางศาสนา และวัฒนธรรมเป็นศูนย์รวมแห่งความศรัทธา อยากให้พื้นที่แห่งนี้ปลอดจากยาเสพติด อบายมุข และอาวุธ
นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า การสานเสวนาครั้งนี้ เป็นอีกเวทีหนึ่งที่ทางจังหวัดปัตตานีดำเนินการตามยุทธศาสตร์ “รวมพลังคนตานี นำพื้นที่สู่สันติสุข” โดยเชิญผู้นำศาสนาจากมัสยิดทุกมัสยิดในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพราะล้วนแล้วแต่มีความตั้งใจที่จะหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน การเสวนาในครั้งนี้ เปรียบเสมือนการเรียนรู้เพื่อสร้างความเข้าใจ และเสนอแนวทางในความแตกต่างที่หลากหลาย เน้นวิธีการในการเสริมสร้างสันติวิธี เพื่อร่วมกำหนดแนวทางที่ถูกต้อง และถูกทาง
นายยะโก๊บ หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลางปัตตานี เสนอความคิดเห็นว่า การแก้ไขปัญหาต้องใช้ “น้ำดับไฟ” ซึ่งความรุนแรงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ต้องมาร่วมพูดคุย ทำความเข้าใจ และกล่าวเสนอประเด็นการประกาศเคอร์ฟิวว่า อยากให้ใช้เฉพาะเหตุการณ์ในบางพื้นที่ เพราะมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวมุสลิม และกล่าวด้วยว่า การทำผิด ควรได้รับการให้อภัย และไม่มีอคติต่อกัน เพราะอยากให้เกิดสังคมแห่งการปรองดอง
