พัทลุง - จังหวัดพัทลุง วอนภาครัฐให้เร่งหันมาดูทรัพยากรในท้องถิ่น โดยนำน้ำที่มีการปล่อยให้ไหลลงสู่ทะเลสาบอย่างเปล่าประโยชน์ นำมาจัดการบริหารให้ดีเพื่อผลิตไฟฟ้าเป็นพลังงานทดแทนให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกขาบรรทัดพัทลุง ตรัง สงขลา และสตูล ถือเป็นแหล่งต้นทุนธรรมชาติ และแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารน้อยใหญ่หลายสาย มีทั้งน้ำตกที่สวยงาม และป่าที่สมบูรณ์ทั้ง 4 จังหวัด บนเนื้อที่ 9 แสนกว่าไร แต่วันนี้ฝืนป่าแห่งนี้รวมทั้งสายน้ำที่ทางธรรมชาติสร้าง ยังไม่ได้รับการพัฒนานำต้นทุนเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์เท่าที่ควร โดยเฉพาะสายน้ำที่มีการปล่อยให้ไหลลงสู่ทะเลสาบโดยเปล่าประโยชน์ และขาดการบริหารจัดการที่ดีเพื่อนำมาใช้ในท้องถิ่น
ซึ่งชาวบ้านหนองเหรียง ท้องที่หมู่ 7 ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ที่อาศัยอยู่ริมป่าเทือกเขาบรรทัด ได้เล็งเห็นความสำคัญ และทำเรื่องของบประมาณจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน ในการบริหารจัดการน้ำนำมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าชุมชน เพื่อให้เกิดความสว่างในหมู่บ้าน และขายพลังงานไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าพัทลุง โดยสามารถสร้างรายได้เข้าหมู่เดือนนับแสนบาท
ด้านนายประภักดิ์ ชูทิพย์ ส.จ.เขต อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง กล่าวว่า จังหวัดพัทลุง และภาคใต้ในหลายจังหวัด มีแหล่งกำเนิดของสายน้ำหลายแห่ง แต่ทางรัฐบาลไม่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการบริหารจัดการน้ำเพื่อนำน้ำมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าทดแทนพลังงานไฟฟ้าที่มีกำลังการใช้ที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งที่ทรัพยากรเหล่านั้นถูกปล่อยทิ้งไว้ให้เสียเปล่า และต้นทุนการลงทุนก็ไม่สูงมากนัก อย่างที่บ้านหนองเหรียงที่กำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ขนาด 30 เมกะวัตต์ สามารถส่งไฟฟ้ามาให้ประชาชนได้ทั้งตำบล ถือว่าคุ้มกับการลงทุนเพียงเงินไม่กี่ล้านบาท จึงอยากวอนรัฐบาลเร่งกลับหันมาทบทวนมองสิ่งดีที่มีอยู่ในชุมชนของประเทศนำมาผลิตเป็นพลังงานทดแทน ทั้งลม แสงแดด และน้ำ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น