นครศรีธรรมราช - ชาวประมงพื้นบ้านร้อง เดือดร้อนจากโครงการก่อสร้างแนวกันคลื่นของกรมเจ้าท่า และแสดงความกังวลในการขุดทำลายชายหาด ก่อนนำทรายใส่บิ๊กแบ็กสร้างแนวกันคลื่นทำลายวิถีการดำเนินชีวิตของชาวเล และยังเชื่อมั่นว่า เป็นการเตรียมความพร้อมในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินในพื้นที่
ที่ชุมชนชาวประมงพื้นบ้านในหมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 6 ตำบลเกาะเพชร อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช กำลังมีโครงการสร้างแนวกันคลื่น โดยกรมเจ้าท่า ซึ่งชาวประมงได้ร้องเรียนถึงความเดือดร้อนที่กำลังได้รับจากโครงการ ทำให้ไม่สามารถนำเรือเข้ามาจอดยังริมตลิ่งในหมู่บ้านได้ เนื่องจากจะกระแทกกับหินที่ทางโครงการนำมาเป็นฐานในการวางถุงทรายขนาดใหญ่สร้างเป็นแนวกันคลื่น โดยใช้วิธีการขุดทรายจากชายหาดเดิม เพื่อเอาทรายที่ได้บรรจุในบิ๊กแบ็ก แล้วนำมาเรียงซ้อนกันจนสูงกว่า 5 เมตร ทำให้ชายหาดเสียสภาพไปอย่างสิ้นเชิงจนไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้
นายอะหมัด จรเมือง ประธานกลุ่มธนาคารปูบ้านหนองมนต์ ตำบลเกาะเพชร ระบุว่าโครงการนี้ไม่ได้มีการศึกษาถึงผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ ไม่ได้ถามถึงความต้องการของชาวบ้านจุดที่ชาวบ้านต้องการกลับไม่มีโครงการ แต่จุดที่ชาวบ้านไม่ต้องการกลับมีโครงการเช่นนี้มาสร้าง การขุดชายหาดแล้วนำทรายที่ได้มาบรรจุถุงขนาดใหญ่เรียงซ้อนเป็นชั้นทำแนวกันคลื่นใช้งบประมาณสูงมาก 11 ช่องใช้งบถึง 15 ล้านบาท ทรายขุดเอาจากชายหาดทั้งหมดทำให้หาดทรายเดิมเสียสภาพไปอย่างสิ้นเชิงไม่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้อีกแล้ว
“ที่สำคัญ กระทบต่อวิถีชีวิตของชาวเลเป็นอย่างมากกว่า 20 ครัวเรือน ที่มีอาชีพประมงพื้นบ้านเดือดร้อนไม่สามารถนำเรือเข้าออกได้ตามปกติ เรืออาจชนหินขนาดใหญ่แตกได้ง่าย และเชื่อว่า การก่อสร้างเช่นนี้กำลังมีการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะรองรับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินริมทะเลหัวไทร ซึ่งทาง กฟผ.เคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ มาโดยตลอด” นายอะหมัดระบุ