นครศรีธรรมราช - ตำรวจสืบสวนภูธรนครศรีธรรมราช ตามจับกุมมือปืนลำดับ 1 ของจังหวัด และลำดับ 9 ในบัญชีภูธรภาค 8 หลังหนีหมายจับหลายคดี พกบัตรประชาชน 2 ใบ พบเบาะแสที่กบดาน และเตรียมรับงานสังหารผู้กว้างขวางรายหนึ่ง ขณะที่ ผบก.นครศรีธรรมราช สั่งขยายผลหาที่มาของบัตรประชาชนแล้วหลังพบเป็นของจริง หาก จนท.ออกบัตรทุจริตเตรียมดำเนินคดี
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (27 มี.ค.) พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยกำลังได้คุมตัว นายวิชัย สุดวิลัย หรือมืด อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 ม.8 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง คดีหลบหนีการประกันตัวในชั้นศาลในคดีฆ่าผู้อื่น และหมายจับของศาลจังหวัดกระบี่ ในคดีปล้นทรัพย์ พ.ร.บ.อาวุธปืน และพยายามฆ่า โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมที่บ้านของนายวิชัย หลังจากที่ชุดสืบสวนแจ้งว่า นายวิชัย กำลังรับงานเตรียมก่อเหตุสังหารผู้กว้างขวางรายหนึ่งใน อ.สิชล และได้ย้อนหลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านกว่า 1 สัปดาห์แล้ว
พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ศาลได้ออกหมายจับ หลังจากหลบหนีการประกันในชั้นศาล ซึ่งศาลได้สั่งริบหลักทรัพย์ จำนวน 5 แสนบาท จากนายประกันของผู้ต้องหาไปแล้ว และในทางการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหากำลังรับงานสังหารอีกครั้ง จึงเข้าจับกุมขณะที่ย้อนกลับมาหลบอยู่ที่บ้านพักดังกล่าว
โดยได้ยึดบัตรประชาชน จำนวน 2 ใบ ของผู้ต้องหาที่เป็นภาพเดียวกันมีเลข 13 หลัก 2 เลขอย่างผิดปกติ โดยใช้ชื่อปลอมว่า นายสมชาย บุญส่ง ส่วนชื่ออีกชื่อคือ นายวิชัย สุดวิลัย มีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.ทุ่งใหญ่ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีในส่วนของการออกบัตรด้วยการสวมบัตรประชาชนด้วย
ขณะที่ นายธีระพงศ์ ช่วยชู หัวหน้างานทะเบียน ที่ทำการปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลแล้วพบว่า ได้มีการทำบัตรประชาชนในชื่อ นายสมชาย บุญส่ง เมื่อปี 45 ในเขต อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยปรากฏภาพถ่ายของ นายสมชาย คนแรกนั้น สูงประมาณ 168 ซม. และมีการทำบัตรใหม่เมื่อปี 47 ในภาพใหม่มีความสูงเพิ่มขึ้น 173 ซม. ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่คนอายุ 28 ปี เมื่อปี 45 จะสูงขึ้น 5 ซม.ใน 2 ปี และการทำบัตรนั้นถูกรับรองโดยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เมืองภูเก็ต ตรวจฐานข้อมูลแล้ว พบความผิดปกติในเรื่องภาพถ่ายอย่างชัดเจน ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่า นายสมชายคนแรกนั้นเสียชีวิตแล้วหรือไม่ และเสียไปเมื่อไร มีการแจ้งตายหรือไม่
ด้าน นายวิชัย สุดวิลัย หรือสมชาย บุญส่ง ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุตามที่ศาลได้ออกหมายจับกุม ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่ารับงานนั้นไม่เคยรับงานฆ่าคนแต่อย่างใด และขอต่อสู้คดีต่อไป
