ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชุดสืบสวน ตร.ภูธรจังหวัดภูเก็ต รวบพนักงานเปลี่ยนกล่องเงินตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย หลังถูกออกหมายจับข้อหาลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างจากตู้เอทีเอ็มกสิกรไทย สาขาปั๊มน้ำมัน ปตท.ฉลอง จำนวน 500,000 บาท ขณะที่เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ ยันวันที่เกิดเหตุลาพักร้อน พร้อมมอบกุญแจให้กับเพื่อนพนักงานอีกรายเป็นผู้ดูแล
วันนี้ (27 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรฉลอง จ.ภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.เสริม ขวัญนิมิตร รอง ผกก.สส.ภ.จ.ภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันจับกุม นายสัมพันธ์ อินทร์อักษร พนักงานเปลี่ยนกล่องเงิน บริษัทโพเกรส กันภัย จำกัด อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 4 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ที่บริเวณธนาคารกสิกร สาขาติลก อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตามหมายจับเลขที่ จ.1436/2556 วันที่ 22 มี.ค.2556 ข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง จากนั้นนำตัวส่ง สภ.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมี พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤตภาศ เดชอินทรศร ผกก.สภ.ฉลอง พ.ต.ต.วีระพงศ์ รักขิโต พนักงานสอบสวน ร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหา
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2556 เวลาประมาณ 08.00 น. ที่ผ่านมานั้น ทางบริษัทโพเกรส กันภัย จำกัด ได้รับคำสั่งจากธนาคารกสิกรไทยให้เปลี่ยนกล่องเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกสิกรไทย สาขาภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ฉลองปิโตรเลียม ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เนื่องจากระบบแจ้งว่าเงินหมด ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. บริษัทฯ จึงได้ตรวจสอบเงินในระบบ ปรากฏว่า เงินในตู้เอทีเอ็มหายไปจำนวน 500,000 บาท จึงได้สั่งให้มีการตรวจสอบระบบของการบรรจุเงินเอทีเอ็มครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2556 แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ
ทางบริษัทจึงตรวจสอบข้อมูลเวลาเปิด-ปิดเครื่องเอทีเอ็ม พบว่าในวันที่ 16 ก.พ.2556 เวลา 17.59 น. มีการเปิด-ปิดตู้เอทีเอ็มดังกล่าว จึงเชื่อว่าคนที่เปิด-ปิดเครื่องเอทีเอ็มน่าจะเป็นผู้ที่มีหน้าที่บรรจุเงินสดลงกล่องเอทีเอ็ม เนื่องจากเป็นผู้ที่มีกุญแจ และทราบรหัสนิรภัยของตู้เอทีเอ็ม และตามวันเวลาดังกล่าวผู้ต้องสงสัยไม่ได้มาปฏิบัติงาน รวมทั้งจากการตรวจสอบตู้เอทีเอ็มรวมทั้งตู้เซฟไม่มีร่องรอยการงัดแงะ
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามเบื้องต้น นายสัมพันธ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมให้การว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ทราบเรื่องของเงินที่หายไป และในช่วงระหว่างวันที่ 15-18 ก.พ.ตัวเองก็ได้ลาหยุด และก่อนที่จะลาหยุดก็ได้ส่งมอบกุญแจให้เพื่อนพนักงานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่คุ้มกันดูแล
วันนี้ (27 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรฉลอง จ.ภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.เสริม ขวัญนิมิตร รอง ผกก.สส.ภ.จ.ภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันจับกุม นายสัมพันธ์ อินทร์อักษร พนักงานเปลี่ยนกล่องเงิน บริษัทโพเกรส กันภัย จำกัด อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 4 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ที่บริเวณธนาคารกสิกร สาขาติลก อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตามหมายจับเลขที่ จ.1436/2556 วันที่ 22 มี.ค.2556 ข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง จากนั้นนำตัวส่ง สภ.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมี พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤตภาศ เดชอินทรศร ผกก.สภ.ฉลอง พ.ต.ต.วีระพงศ์ รักขิโต พนักงานสอบสวน ร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหา
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2556 เวลาประมาณ 08.00 น. ที่ผ่านมานั้น ทางบริษัทโพเกรส กันภัย จำกัด ได้รับคำสั่งจากธนาคารกสิกรไทยให้เปลี่ยนกล่องเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกสิกรไทย สาขาภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ฉลองปิโตรเลียม ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เนื่องจากระบบแจ้งว่าเงินหมด ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. บริษัทฯ จึงได้ตรวจสอบเงินในระบบ ปรากฏว่า เงินในตู้เอทีเอ็มหายไปจำนวน 500,000 บาท จึงได้สั่งให้มีการตรวจสอบระบบของการบรรจุเงินเอทีเอ็มครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2556 แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ
ทางบริษัทจึงตรวจสอบข้อมูลเวลาเปิด-ปิดเครื่องเอทีเอ็ม พบว่าในวันที่ 16 ก.พ.2556 เวลา 17.59 น. มีการเปิด-ปิดตู้เอทีเอ็มดังกล่าว จึงเชื่อว่าคนที่เปิด-ปิดเครื่องเอทีเอ็มน่าจะเป็นผู้ที่มีหน้าที่บรรจุเงินสดลงกล่องเอทีเอ็ม เนื่องจากเป็นผู้ที่มีกุญแจ และทราบรหัสนิรภัยของตู้เอทีเอ็ม และตามวันเวลาดังกล่าวผู้ต้องสงสัยไม่ได้มาปฏิบัติงาน รวมทั้งจากการตรวจสอบตู้เอทีเอ็มรวมทั้งตู้เซฟไม่มีร่องรอยการงัดแงะ
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามเบื้องต้น นายสัมพันธ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมให้การว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ทราบเรื่องของเงินที่หายไป และในช่วงระหว่างวันที่ 15-18 ก.พ.ตัวเองก็ได้ลาหยุด และก่อนที่จะลาหยุดก็ได้ส่งมอบกุญแจให้เพื่อนพนักงานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่คุ้มกันดูแล
