ชุมพร - อาการร้อนจัดสายไฟแรงสูง กฟภ.ละลายขาด 2 ท่อนตกลงพาดหลังคาร้านอาหารเกิดไฟลุกไหม้ ชาวบ้านรู้เท่าไม่ถึงการณ์ใช้สายยางฉีดน้ำหวังดับไฟ โดนช็อตอาการร่อแร่ปางตาย
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (25 มี.ค.) ร.ต.ท.บรรจง นาครอด ร้อยเวร สภ.บ้านในหูต ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุสายไฟฟ้าแรงสูงขาดลงพาดหลังคาร้านอาหารเกิดไฟลุกไหม้ และช็อตชาวบ้านจนอาการสาหัส ที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย 41 หมู่ 7 ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายอาหารตามสั่งชื่อ “ลาบร้อยเอ็ด” อยู่ตรงข้ามกับโรงแรมชุมทอง พบเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงของ อบต.นาขา กำลังฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่บนหลังคาร้านอาหารดังกล่าว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาดับเพลิงราว 15 นาที จึงสงบ ส่วนคนที่ถูกไฟฟ้าช็อตได้รับบาดเจ็บสาหัสชาวบ้านนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านั้นแล้ว
จากการสอบสวนทราบว่า ร้านอาหารดังกล่าวสร้างอยู่ริมถนนสายเอเชีย 41 และอยู่ใกล้กับหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงของ กฟภ. ซึ่งตั้งวางอยู่บนเสาไฟฟ้าอยู่สูงห่างจากหลังคาร้านประมาณ 5 เมตร โดยร้านอาหารดังกล่าวเป็นของ นางสุวรรณี ฤทธิโสม อายุ 64 ปี ก่อนเกิดเหตุไฟไหม้ได้มีสายไฟฟ้าแรงสูงแบบมีปลอกหุ้มได้ขาด 2 ท่อน แล้วหล่นไปพาดค้างอยู่บนหลังคาร้านอาหารดังกล่าวซึ่งเป็นสังกะสี แล้วเกิดไฟช็อต และมีไฟลุกไหม้ขึ้นบนหลังคา
ปรากฏว่า ขณะนั้นนางปราณี หาญเทพ อายุ 49 ปี อาศัยอยู่ในโกดังเก็บทุเรียนส่งออก ใกล้กับที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นไฟไหมหลังค้าร้านอาหารด้วยความหวังดีจึงรีบคว้าสายน้ำที่ต่ออยู่กับก๊อกน้ำประปาลากออกไปฉีดน้ำหวังสกัดไฟที่ไหม้อยู่บนหลังคาร้านอาหารให้ดับลง แต่สายไฟฟ้าที่ขาด 2 ท่อนยังมีกระแสไฟฟ้าอยู่ กระแสไฟฟ้าได้วิ่งตามสายน้ำประปาแล้วช็อตนางปราณี จนชักกระตุกล้มลงฟุตหมดสติ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต้องช่วยกันเอาผ้าขาวม้ามาผูกแขนดึงตัวออกมา แล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังสวน แต่อาการสาหัสขั้นโคม่าเป็นตายเท่ากัน จึงต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จากนั้นชาวบ้านได้ประสานไปยัง กฟภ.ให้ตัดกระแสไฟฟ้า และแจ้งหน่วยกู้ภัย อบต.นาขา มาดับเพลิงดังกล่าว
สำหรับสาเหตุจากการสอบสวนสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากอากาศที่ร้อนจัดทำให้สายไฟฟ้าแรงสูงร้อนจนละลาย แล้วเกิดกระแสไฟรั่ว และช็อตจนสายไฟขาด 2 ท่อน แล้วหล่นลงมาพาดอยู่บนหลังคาร้านอาหารดังกล่าวจนเกิดไฟลุกไหม้ และเมื่อนางปราณี ที่อาศัยอยู่ในโกดังเก็บทุเรียนใกล้จุดเกิดเหตุเห็นเข้าด้วยความหวังดี และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ลากสายน้ำประปาออกมาฉีดสกัดดับไฟที่ไหม้บนหลังคา แล้วถูกกระแสไฟฟ้าไหลย้อนมาตามสายน้ำช็อตเข้าร่างจนอาการสาหัสขั้นโคมาดังกล่าว
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (25 มี.ค.) ร.ต.ท.บรรจง นาครอด ร้อยเวร สภ.บ้านในหูต ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุสายไฟฟ้าแรงสูงขาดลงพาดหลังคาร้านอาหารเกิดไฟลุกไหม้ และช็อตชาวบ้านจนอาการสาหัส ที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย 41 หมู่ 7 ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายอาหารตามสั่งชื่อ “ลาบร้อยเอ็ด” อยู่ตรงข้ามกับโรงแรมชุมทอง พบเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงของ อบต.นาขา กำลังฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่บนหลังคาร้านอาหารดังกล่าว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาดับเพลิงราว 15 นาที จึงสงบ ส่วนคนที่ถูกไฟฟ้าช็อตได้รับบาดเจ็บสาหัสชาวบ้านนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านั้นแล้ว
จากการสอบสวนทราบว่า ร้านอาหารดังกล่าวสร้างอยู่ริมถนนสายเอเชีย 41 และอยู่ใกล้กับหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงของ กฟภ. ซึ่งตั้งวางอยู่บนเสาไฟฟ้าอยู่สูงห่างจากหลังคาร้านประมาณ 5 เมตร โดยร้านอาหารดังกล่าวเป็นของ นางสุวรรณี ฤทธิโสม อายุ 64 ปี ก่อนเกิดเหตุไฟไหม้ได้มีสายไฟฟ้าแรงสูงแบบมีปลอกหุ้มได้ขาด 2 ท่อน แล้วหล่นไปพาดค้างอยู่บนหลังคาร้านอาหารดังกล่าวซึ่งเป็นสังกะสี แล้วเกิดไฟช็อต และมีไฟลุกไหม้ขึ้นบนหลังคา
ปรากฏว่า ขณะนั้นนางปราณี หาญเทพ อายุ 49 ปี อาศัยอยู่ในโกดังเก็บทุเรียนส่งออก ใกล้กับที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นไฟไหมหลังค้าร้านอาหารด้วยความหวังดีจึงรีบคว้าสายน้ำที่ต่ออยู่กับก๊อกน้ำประปาลากออกไปฉีดน้ำหวังสกัดไฟที่ไหม้อยู่บนหลังคาร้านอาหารให้ดับลง แต่สายไฟฟ้าที่ขาด 2 ท่อนยังมีกระแสไฟฟ้าอยู่ กระแสไฟฟ้าได้วิ่งตามสายน้ำประปาแล้วช็อตนางปราณี จนชักกระตุกล้มลงฟุตหมดสติ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต้องช่วยกันเอาผ้าขาวม้ามาผูกแขนดึงตัวออกมา แล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังสวน แต่อาการสาหัสขั้นโคม่าเป็นตายเท่ากัน จึงต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จากนั้นชาวบ้านได้ประสานไปยัง กฟภ.ให้ตัดกระแสไฟฟ้า และแจ้งหน่วยกู้ภัย อบต.นาขา มาดับเพลิงดังกล่าว
สำหรับสาเหตุจากการสอบสวนสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากอากาศที่ร้อนจัดทำให้สายไฟฟ้าแรงสูงร้อนจนละลาย แล้วเกิดกระแสไฟรั่ว และช็อตจนสายไฟขาด 2 ท่อน แล้วหล่นลงมาพาดอยู่บนหลังคาร้านอาหารดังกล่าวจนเกิดไฟลุกไหม้ และเมื่อนางปราณี ที่อาศัยอยู่ในโกดังเก็บทุเรียนใกล้จุดเกิดเหตุเห็นเข้าด้วยความหวังดี และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ลากสายน้ำประปาออกมาฉีดสกัดดับไฟที่ไหม้บนหลังคา แล้วถูกกระแสไฟฟ้าไหลย้อนมาตามสายน้ำช็อตเข้าร่างจนอาการสาหัสขั้นโคมาดังกล่าว
