พังงา - เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า จับกุมชาวโรฮิงยาหนีตายจากรัฐอาระกัน จำนวน 39 คน เป็นผู้หญิง 2 คน ขณะนั่งเรือติดเครื่องหลบหนีเข้าประเทศไทยก่อนชกท้องเรือแตกเพื่อหนี้ขึ้นฝั่ง ขณะที่ห้องขังด่านตรวจคนเข้าเมืองพังงาไม่สามารถควบคุมชาวโรฮิงยาได้อีกแล้ว เนื่องจากห้องขังเต็ม
วันนี้ (24 มี.ค.) พ.ต.อ.เขมรินทร์ หัสศิริ ผกก.สภ.ตะกั่วป่า สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 20 นาย สกัดจับเรือไม้หางยาวกลางทะเลอันดามันหน้าชายหาดทับตะวัน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังรับแจ้งจากเรือประมงว่า พบเรือต้องสงสัยบรรทุกกลุ่มชายฉกรรจ์นั่งอยู่ภายในเรือประมง หัวเรือเป็นรูปคลายหัวนก ภายในเรือมีแรงงานงานต่างด้าวอาศัยอยู่จำนวนมาก
เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบพบว่า มีเพียงเรือจอดไว้ที่ชายหาดทับตะวัน แต่ไม่พบคนที่โดยสารเรือลำดังกล่าวมา จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ออกติดตามหาบริเวณหมู่ที่ 7 บ้านทับตะวัน ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พบว่ากลุ่มชาวโรฮิงยาได้หลบหนีขึ้นมาบนฝั่งมาอยู่ที่หมู่บ้านของชาวมอร์แกน จึงได้นำกำลังเข้าควบคุมตัวพบชาวโรฮิงยาทั้งหมด
พบมีจำนวน 39 คน เป็นชาย 37 คน หญิง 2 คน ซึ่งจากการสอบถามพบว่าทั้งหมด เดินทางมาจากรัฐอาระกัน ตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา ด้วยเรือประมง เพื่อจะมาเข้าฝั่งที่ประเทศไทย หรือมาเลเซียเพื่อหางานทำ ระหว่างเดินทางในทะเลเกิดความหิวโหยอย่างหนัก ได้กินเพียงน้ำ และข้าวสารดิบที่เตรียมติดตัวมา ทำให้แต่ละคนอยู่ในสภาพอิดโรย บางคนถึงกับร้องไห้
อย่างไรก็ตาม หลังจากนำตัวมาสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ได้นำอาหาร และน้ำมาให้ชาวโรฮิงยารับประทาน ก่อนที่จะควบคุมตัวทั้งหมดมาไว้ที่ สภ.ตะกั่วป่า เพื่อลงบันทึกประจำวัน แล้วส่งต่อให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา ก่อนผลักดันกลับประเทศต่อไป
ขณะนี้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา ไม่สามารถกักขังชาวโรฮิงยาได้อีกแล้ว เนื่องจากห้องขังได้ควบคุมตัวชาวโรฮิงยาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้เต็ม ทำให้เกิดปัญหาระหว่างรอผลักดันว่าจะนำชาวโรฮิงยาที่จับได้ไปไว้ที่ไหน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงฝากถึงทางรัฐบาลให้ลงมาแก้ปัญหาชาวโรฮิงยาหนีเข้าไทยแบบจริงจัง ไม่เช่นนั้นทางประเทศไทยจะต้องแบกรับภาระอย่างหนักแน่นอน
วันนี้ (24 มี.ค.) พ.ต.อ.เขมรินทร์ หัสศิริ ผกก.สภ.ตะกั่วป่า สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 20 นาย สกัดจับเรือไม้หางยาวกลางทะเลอันดามันหน้าชายหาดทับตะวัน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังรับแจ้งจากเรือประมงว่า พบเรือต้องสงสัยบรรทุกกลุ่มชายฉกรรจ์นั่งอยู่ภายในเรือประมง หัวเรือเป็นรูปคลายหัวนก ภายในเรือมีแรงงานงานต่างด้าวอาศัยอยู่จำนวนมาก
เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบพบว่า มีเพียงเรือจอดไว้ที่ชายหาดทับตะวัน แต่ไม่พบคนที่โดยสารเรือลำดังกล่าวมา จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ออกติดตามหาบริเวณหมู่ที่ 7 บ้านทับตะวัน ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พบว่ากลุ่มชาวโรฮิงยาได้หลบหนีขึ้นมาบนฝั่งมาอยู่ที่หมู่บ้านของชาวมอร์แกน จึงได้นำกำลังเข้าควบคุมตัวพบชาวโรฮิงยาทั้งหมด
พบมีจำนวน 39 คน เป็นชาย 37 คน หญิง 2 คน ซึ่งจากการสอบถามพบว่าทั้งหมด เดินทางมาจากรัฐอาระกัน ตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา ด้วยเรือประมง เพื่อจะมาเข้าฝั่งที่ประเทศไทย หรือมาเลเซียเพื่อหางานทำ ระหว่างเดินทางในทะเลเกิดความหิวโหยอย่างหนัก ได้กินเพียงน้ำ และข้าวสารดิบที่เตรียมติดตัวมา ทำให้แต่ละคนอยู่ในสภาพอิดโรย บางคนถึงกับร้องไห้
อย่างไรก็ตาม หลังจากนำตัวมาสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ได้นำอาหาร และน้ำมาให้ชาวโรฮิงยารับประทาน ก่อนที่จะควบคุมตัวทั้งหมดมาไว้ที่ สภ.ตะกั่วป่า เพื่อลงบันทึกประจำวัน แล้วส่งต่อให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา ก่อนผลักดันกลับประเทศต่อไป
ขณะนี้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา ไม่สามารถกักขังชาวโรฮิงยาได้อีกแล้ว เนื่องจากห้องขังได้ควบคุมตัวชาวโรฮิงยาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้เต็ม ทำให้เกิดปัญหาระหว่างรอผลักดันว่าจะนำชาวโรฮิงยาที่จับได้ไปไว้ที่ไหน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงฝากถึงทางรัฐบาลให้ลงมาแก้ปัญหาชาวโรฮิงยาหนีเข้าไทยแบบจริงจัง ไม่เช่นนั้นทางประเทศไทยจะต้องแบกรับภาระอย่างหนักแน่นอน
