ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต ประชุมคณะทำงานกรณีนักท่องเที่ยวชาวจีนถูกเจ้าของเรือเจ็ตสกีเรียกค่าเสียหายจากการเฉี่ยวชน มอบเจ้าท่าเรียกประชุมผู้ประกอบการเจ็ตสกี เพื่อร่วมกำหนดแนวทางการดำเนินการกรณีเกิดปัญหาให้ชัดเจน และให้ทางอำเภอกะทู้ลงตรวจสอบเชิงลึก กรณีมีการข่มขู่เรียกร้องให้นักท่องเที่ยวจ่ายค่าเสียหายในส่วนของเรือยอชต์ 4 แสนบาท
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (20 มี.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะทำงานกรณีนักท่องเที่ยวชาวจีนถูกเจ้าของเรือเจ็ตสกี เรียกค่าเสียหายจากการเฉี่ยวชน โดยมีนายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต นายตัน จีเคียง ตัวแทนกงสุล ประจำสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำสงขลา พ.ต.อ.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ ผกก.ผอ.ภ.จว.ภูเก็ต น.ส.ศิริพร ตันติปัญญาเทพ หัวหน้าหนังสือเดินทางชั่วคราว จ.ภูเก็ต นายบพิธ ชมเชย นายทะเบียนเรือ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ตัวแทนนายอำเภอกะทู้ ตัวแทนอุตสาหกรรมจังหวัด และสรรพากรพื้นที่ภูเก็ต เข้าร่วม
นายสมเกียรติ กล่าวถึงการประชุมของคณะทำงานฯ ว่า สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำสงขลา มีหนังสือขอความช่วยเหลือกรณี เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2556 นักท่องเที่ยวชาวจีน ชื่อนายจาง ซู่, Wu You และ Wu Lu ถูกเจ้าของเรือเจ็ตสกีเรียกค่าเสียหายในการเฉี่ยวชน ประสงค์ให้ตรวจสอบ และให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ซึ่งทางจังหวัดได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ดังนั้น เพื่อรักษาภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต และเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาให้ความเป็นธรรม จึงตั้งคณะทำงานฯ มาทำหน้าที่พิจารณาตรวจสอบตามประเด็นข้อร้องเรียน แก้ปัญหา และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยให้เกิดความเป็นธรรม และโปร่งใส
โดยนายตัน จีเคียง ตัวแทนกงสุล ประจำสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำสงขลา กล่าวว่า ที่เป็นปัญหากรณีของนายจาง ซู่ ซึ่งเช่าเจ็ตสกีแล้วขับไปเฉี่ยวชนกับเรือยอชต์ของต่างชาติ โดยค่าเสียหายที่เกิดกับเจ็ตสกีนั้นได้มีการจ่ายไปแล้ว 105,000 บาท ส่วนค่าเสียหายของเรือยอชต์นั้น ทางเจ้าของบอกว่าไม่ติดใจ เพราะเรือมีประกัน แต่ปรากฏว่า มีผู้ไปข่มขู่นักท่องเที่ยวจีนเรียกร้องให้จ่ายค่าเสียหายในส่วนของเรือยอชต์ จำนวน 400,000 บาท
ขณะที่นายบพิธ ชมเชย นายทะเบียนเรือ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการเช่าเจ็ตสกีของนักท่องเที่ยวนั้น ก่อนที่จะให้เช่าก็จะมีการทำสัญญา และเรือทุกลำจะมีการทำประกันภัยภาคบังคับ เฉพาะผู้โดยสาร จากการตรวจสอบเจ็ตสกีที่มีปัญหา ทราบว่า เสียหายทั้งตัวเรือ และเครื่องยนต์ โดยได้มีการจดทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2552 มีอายุการใช้งานมาแล้ว 3 ปี ซึ่งในการประเมินค่าเสียหายต้องให้ทางประกันเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนการชดใช้ค่าเสียหายเป็นการตกลงระหว่างทางผู้เช่ากับผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม มีการตรวจสอบว่านักท่องเที่ยวบางรายไม่เชื่อฟังคำเตือนของผู้ให้เช่า หรือบางครั้งเมื่อประสบอุบัติเหตุก็ไม่ยอมที่จะเจรจาก็มี
อย่างไรก็ตาม นายสมเกียรติ ได้กล่าวสรุปในที่ประชุม โดยขอให้ทางอำเภอกะทู้ไปตรวจสอบในเชิงลึกกรณีที่มีการข่มขู่เรียกค่าเสียหาย จำนวน 400,000 บาท ให้ทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต เรียกประชุมผู้ประกอบการเจ็ตสกี เพื่อร่วมกำหนดแนวทางการดำเนินการกรณีเกิดปัญหาให้ชัดเจน โดยในส่วนของหนังสือเดินทางนั้นก็ไม่สามารถที่จะยึดไว้ได้ ยกเว้นในบางกรณี และให้ทางสรรพากรเข้าไปตรวจสอบการประกอบธุรกิจว่ามีการจ่ายภาษีถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้ ฝากทางตัวแทนกงสุลแจ้งนักท่องเที่ยวว่า ในส่วนที่มีการเรียกเพิ่ม 400,000 บาทนั้น ก็ไม่ต้องจ่าย เพราะทางเจ้าของเรือยอชต์ยืนยันแล้วว่า ไม่ติดใจแต่จะใช้ประกันในส่วนของเรือยอชต์