กระบี่ - อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี สนธิกำลัง 50 นาย เข้ารื้อถอนผลอาสินแหล่งท่องเที่ยวดังเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ที่นายทุนบุกรุกหวังออกเอกสารสิทธิครอบครองขายต่อไร่ละกว่า 5 ล้านบาท มูลค่ากว่า 500 ล้าน
เวลา 10.30 น.วันนี้ (18 มี.ค.) ที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ นายไชยธัช บุญภูพันธ์ตันติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี สนธิกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ตชด.ที่ 426 กระบี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ รวมกว่า 50 นาย เข้าทำลายผลอาสินที่หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ตามมาตรา 22 โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ริมชายหาด ภายในป่าเสม็ดพบมีการปลูกปาล์มน้ำมัน และมีการปักรั้วเสาคอนกรีตกั้นเป็นแนวยาว เนื้อที่รวม 125 ไร่ 2 งาน 32 ตารางวา
เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ และทำลายผลอาสินเป็นปาล์มน้ำมัน จำนวน 52 ต้น มะพร้าว 121 ต้น โดยการตัดฟัน และราดด้วยยาฆ่าตอ นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้รื้อรั้วคอนกรีต จำนวน 131 ต้น ออกจากพื้นที่ดังกล่าวด้วย
นายไชยธัช บุญภูพันธ์ตันติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวว่า การสนธิกำลังเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอนในครั้งนี้ สืบเนื่องจากทางอุทยานฯ ได้จับกุมเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2546 แต่ไม่ได้ตัวผู้กระทำความผิด ต่อมา ได้ดำเนินการตามขั้นตอนและประกาศให้ผู้ครอบครองแสดงตัว และติดหมายให้รื้อถอน เมื่อผู้ที่บุกรุกไม่รื้อถอนเจ้าหน้าที่ก็เข้าดำเนินคดี
สำหรับในเขตอุทยานฯ ยังมีพื้นที่บุกรุกอีก 32 แปลง ซึ่งจะทยอยรื้อถอนให้หมดภายในปีงบประมาณนี้ สำหรับพื้นที่อุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี นายทุนจะเข้าบุกรุกโดยปลูกผลอาสินเพื่อแสดงการครอบครอง เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าหากไม่มีการจับกุมก็จะยื่นออกเอกสารสิทธิ ซึ่งหากออกเอกสารสิทธิก็จะมีราคาสูง ในปัจจุบันที่ดินริมชายทะเลในลักษณะนี้ตกไร่ละกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งในแปลงนี้หากออกเอกสารสิทธิได้จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ทำให้เป็นแรงจูงใจต่อการบุกรุกของกลุ่มนายทุน และชาวบ้านในพื้นที่
