กระบี่ระดมกำลังยึดคืนพื้นที่นายทุนบุกรุกปลูกปาล์ม-ยางในเขตเกาะลันตา

กระบี่ - อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา สนธิกำลังกว่า 100 นาย เข้ายึดพื้นที่คืนหลังถูกนายทุนบุกรุกปลูกปาล์มน้ำมัน และยางพารา รวมเนื้อที่ 26 ไร่ หวังครอบครองพื้นที่ขายต่อให้นายทุนไร่ละกว่า 1 ล้านบาท เนื่องจากมีการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวสูง

เวลา11.30 น.วันนี้ (6 มี.ค.) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 กระบี่ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 คลองท่อม รวมจำนวนกว่า 100 นาย เข้ารื้อถอนอาสินที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะลันตาใหญ่ เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา รวม 3 แปลง เนื้อที่ 26 ไร่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ ม.5 และหมู่ 6 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่

โดยเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าเข้าพื้นที่ขึ้นบนยอดเขาสูงชัน ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ด้านบนมองเห็นทิวทัศน์ของทะเลสวยงามชัดเจน เจ้าหน้าที่นำมีดพร้าเข้าตัดฟันต้นปาล์มน้ำมันอายุประมาณ 3-4 ปี จำนวนกว่า 200 ต้น และใช้เลื่อยยนต์ตัดโค่นต้นยางพารา 1,670 ต้น แยกเป็นยางอายุ 3-4 ปี จำนวน 850 ต้น ยางพาราอายุประมาณ 6-10 ปี จำนวน 820 ต้น ก่อนราดยาฆ่าตอ และฟื้นฟูป่าให้กลับสู่สภาพเดิมป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกทำประโยชน์

นายหฤษฏ์ชัย ฤทธิช่วย ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดหมู่เกาะลันตา กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวได้มีการจับกุมดำเนินคดี ตั้งแต่ปี 51 แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิด จึงได้ยึดพื้นที่ และดำเนินคดี พร้อมประกาศตามมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 เพื่อให้เจ้าของที่ดินมาแสดงเอกสารสิทธิ แต่ไม่มีผู้ใดมาแสดง เมื่อครบกำหนดจึงรื้อทำลายอาสินดังกล่าว

สำหรับสถานการณ์การบุกรุกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตานั้นในรอบปีนี้นั้นเริ่มลดลง แต่ยังมีพื้นที่ที่คดียังไม่สิ้นสุดจำนวนประมาณ 30 แปลง รวมเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งจะทยอยรื้อถอนตามลำดับ สำหรับพฤติกรรมของนายทุนผู้บุกรุกส่วนใหญ่จะมีการนำเครื่องจักรเข้าปรับพื้นที่ ก่อนว่าจ้างให้ชาวบ้านเข้าไปปลูกอาสิน และดูแล เมื่อต้นยางพารา หรือปาล์มโตขึ้นก็จะขายต่อให้นายทุนในราคาไร่ละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่มีการบุกรุกพื้นที่ที่เป็นเนินเขา เนื่องจากพื้นที่เกาะลันตามีการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น จึงเป็นที่ต้องการของนายทุน