ชุมพร - ชาวสวนปาล์มเตรียมชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันจันทร์นี้ หลังมาตรการการช่วยเหลือราคาผลผลิตของรัฐบาลที่ประกาศให้โรงงานรับซื้อในราคา 4 บาท เกษตรกรไม่สามารถขายได้
นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร เขต1 พรรคประชาธิปัตย์ นายกฤษณ์ แก้วรักษ์ แกนนำเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน จาก 70 ตำบล ของ 8 อำเภอ ในจังหวัดชุมพรกว่า 100 คน เข้าร่วมประชุมปรึกษาหาแนวทางในการช่วยเหลือความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนปาล์ม หลังจากที่ยังได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถจะนำผลปาล์มของตนเองไปขายให้แก่โรงงาน หรือลานเทได้
โดย นายกฤษณ์ แก้วรักษ์ แกนนำเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน กล่าวว่า หลังจากที่ทางรัฐบาลได้ประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่า ให้โรงงานสกัดน้ำมันทุกที่ทั่วราชอาณาจักรรับซื้อผลปาล์มทะลายจากเกษตรกร ในราคา ณ โรงงาน คือ อัตราน้ำมันร้อยละ 17% จะต้องรับซื้อในราคาไม่ต่ำกว่า 4 บาท และที่อัตราน้ำมันร้อยละ 18.5% ในราคาไม่ต่ำกว่า 4.35 บาท โดยให้ผู้รับซื้อปิดป้ายแสดงราคารับซื้อผลปาล์มทะลาย ณ สถานที่รับซื้อ หรือบริเวณใกล้เคียงให้ชัดเจนนั้น ซึ่งจากความเป็นจริงในชาวสวนไม่สามารถจะนำผลปาล์มของตนเองไปขายได้ตามประกาศแต่อย่างใด เนื่องจากลานเท หรือลานปาล์มตามชุมชนต่างๆ ไม่สามารถจะรับซื้อในราคาแม้ชาวสวนจะยอมให้หักค่าบริหารจัดการตามระยะทาง 20-50 สตางค์ก็ตาม เพราะด้วยความไม่ชัดเจนในการช่วยเหลือจากนโยบายรัฐบาลที่ออกมา ทำให้ลานเทไม่ยอมรับซื้อในราคาดังกล่าวได้ แต่หากจะขายก็ต้องอยู่ในราคาที่ 2 บาทเศษเท่านั้น ซึ่งทำให้ชาวสวนต้องอยู่ในสภาวะจำยอมขายให้ในราคาดังกล่าวเพื่อความอยู่รอด
นายกฤษณ์ยังกล่าวอีกว่า ล่าสุด โรงงานสกัดไม่สามารถจะแบกภาระในการรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรได้หมดเมื่อเทียบกับจำนวนผลปาล์มที่เกษตรกรได้เก็บเกี่ยวนำออกมาขายให้ เนื่องจากหน้าลานเทของโรงงานต่างๆ เต็มหมดแล้ว ประกอบกับเครื่องจักรไม่สามารถบีบสกัดได้ทันกับจำนวนที่รับซื้อ ทำให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มต้องจอดรอคิวอยู่หน้าโรงงานเป็นเวลาหลายวัน ซึ่งส่งผลให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำลงไป และจะถูกคัดให้เป็นผลปาล์มที่ตกเกรด
นายกฤษณ์กล่าวต่ออีกว่า ในที่ประชุมเข้าใจผู้รับซื้อคือโรงงานที่หาทางช่วยเหลือเกษตรกร แต่เมื่อรับซื้อเข้าโรงงานเพื่อสนองนโยบายรัฐแล้ว แต่ทางกลับกันรัฐบาลเองไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือโรงงานตามประกาศ คือ การดูดน้ำมันดิบ หรือ CPO ออกจากแท็งก์ ทำให้สต๊อกน้ำมันดิบล้นไม่ที่กักเก็บ จนส่งผลกระทบเป็นห่วงโซ่มายังเกษตรกรชาวสวนปาล์มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมมีมติเห็นว่าการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้เป็นการบริหารแบบสองมาตรฐาน และไม่มีความจริงใจในการช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในขณะเดียวกัน ยังเพิ่มความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรยิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้น ทุกคนซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของชาวบ้านได้มีมติสอดคล้องกันว่า ในวันจันทร์ที่ 14 มกราคาม 2556 นี้ เวลา 10.00 น. เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันของจังหวัดชุมพร ทั้ง 8 อำเภอ จะเดินทางมาร่วมชุมนุมกันอีกครั้ง และครั้งนี้เป็นการชุมนุมที่จะแสดงพลังของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนของภาคใต้ที่เดือดร้อนในผลกระทบจากการขายผลปาล์มไม่ได้ โดยไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องตามที่รัฐบาลได้ตั้งข้อสังเกตไว้ แต่เป็นม็อบปาล์มที่เดือดร้อน และต้องการขายผลปาล์มในราคา 4 บาท ตามที่รัฐบาลประกาศไว้เท่านั้น