ชุมพร - ผู้ว่าฯ ชุมพร เชิญแกนนำชาวสวนปาล์มหารือชี้แจงเรื่องช่วยเหลือราคาผลผลิตตกต่ำ รัฐขอเวลาอีก 2 วัน เพื่อรอข้อสรุป ขู่ชาวสวนหากปิดถนนรัฐบาลสั่งจัดการขั้นเด็ดขาดทันที มิฉะนั้น ผู้ว่าฯ จะโดนเอง ขณะที่แกนนำไม่สนใจ เปรยรัฐบาลมองภาคใต้เป็นแค่พลเมืองชั้น 2 ของประเทศ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (18 ธ.ค.) นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ชุมพร เชิญแกนนำชาวสวนปาล์มน้ำมัน จาก 8 อำเภอ เข้าประชุมด่วนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มที่ได้รับความเดือดร้อนด้านราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ เหลือเพียง 2.50 บาท และได้ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือรับซื้อปาล์มน้ำมันจากเกษตรกร ในราคา 6 บาท หรืออย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 5 บาท ซึ่งที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้นำข้อร้องเรียนดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาล โดยมี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้รับข้อเรียกร้องของเกษตรกรโดยจะกำหนดราคารับซื้อเพื่อช่วยเกษตรกรในเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 5 บาท และจะเสนอต่อรัฐบาลพร้อมจะประกาศอย่างเป็นทางการให้ทราบผลภายในวันที่ 18 ธ.ค.55 ที่ผ่านมานั้น แต่ปรากฏว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้รับการพิจารณาตามที่มีการเจรจากันไว้ก่อนหน้านี้
นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ (18 ธ.ค.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด กรณีความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันต่อทางจังหวัด เพื่อชี้แจงต่อแกนนำ ว่า ทางคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ หรือ กนป. ที่มี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ขอเลื่อนกำหนดวาระการประชุมมาตรการการช่วยเหลือราคาปาล์มน้ำมันไปเป็นวันที่ 20 ธ.ค.55 และขอให้แกนนำนำเรื่องดังกล่าวไปบอกต่อเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันต่อไป
นายพีระศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ช่วงระยะเวลา 2 วันนี้ ขอร้องกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันอย่าได้ออกมาปิดถนน เพราะจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนคนอื่น ซึ่งหากมีการปิดถนนตนก็ยอมไม่ได้เช่นกัน เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พร้อมจะจัดการขั้นเด็ดขาดตามอำนาจหน้าที่ทันที พร้อมบอกว่า ไม่ได้เป็นการท้าทายกัน เพราะรัฐบาลได้สั่งการลงมาให้ตนจัดการตามอำนาจหน้าที่ทันที หากมีกลุ่มผู้ชุมนุมออกไปประท้วงปิดถนน เพราะหากตนไม่ดำเนินการ ผู้ว่าราชการจังหวัดก็จะถูกดำเนินการเสียเอง
ขณะที่นายกฤษณ์ แก้วรักษ์ ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนปาล์ม จากอำเภอท่าแซะ ได้กล่าวในที่ประชุมว่า ที่ผ่านมา ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ชุมนุมอย่างสงบเรียบร้อย โดยไม่ได้ออกไปเคลื่อนไหวสร้างคามเดือดร้อนให้แก่ส่วนรวม แม้ในครั้งแรกจะมีมติออกมาหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ก็จะดำเนินการตามเหมือนกับภาคอื่นๆ คือ ต้องปิดถนนเพื่อจะได้สร้างแรงกดดันให้รัฐบาลสนใจ และให้ความสำคัญที่จะเร่งแก้ไขให้อย่างรวดเร็ว
นายกฤษณ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า แต่เพราะทางจังหวัดได้ร้องขอ ประกอบกับทางรัฐได้ทำหนังสือมาเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะช่วยเหลือในการรับซื้อผลผลิตในราคาไม่ต่ำกว่า 5 บาท โดยจะให้คำตอบชัดเจนคือวันที่ 18 ธันวาคมนี้ แต่เมื่อรัฐบาลไม่จริงใจในการช่วยเหลือความเดือดร้อนของประชาชนชั้น 2 อย่างคนภาคใต้ ทางกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มก็จะทำกิจกรรมตามที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้ แม้จะผิดกฎหมายการชุมนุมก็ตาม เพราะถือว่าวันนี้กับวันพรุ่งนี้ก็จะเหมือนกัน รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับชาวใต้อย่างจริงใจ พวกเราก็จะไปหามาตรการกดดันกันต่อไป
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (18 ธ.ค.) นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ชุมพร เชิญแกนนำชาวสวนปาล์มน้ำมัน จาก 8 อำเภอ เข้าประชุมด่วนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มที่ได้รับความเดือดร้อนด้านราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ เหลือเพียง 2.50 บาท และได้ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือรับซื้อปาล์มน้ำมันจากเกษตรกร ในราคา 6 บาท หรืออย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 5 บาท ซึ่งที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้นำข้อร้องเรียนดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาล โดยมี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้รับข้อเรียกร้องของเกษตรกรโดยจะกำหนดราคารับซื้อเพื่อช่วยเกษตรกรในเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 5 บาท และจะเสนอต่อรัฐบาลพร้อมจะประกาศอย่างเป็นทางการให้ทราบผลภายในวันที่ 18 ธ.ค.55 ที่ผ่านมานั้น แต่ปรากฏว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้รับการพิจารณาตามที่มีการเจรจากันไว้ก่อนหน้านี้
นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ (18 ธ.ค.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด กรณีความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันต่อทางจังหวัด เพื่อชี้แจงต่อแกนนำ ว่า ทางคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ หรือ กนป. ที่มี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ขอเลื่อนกำหนดวาระการประชุมมาตรการการช่วยเหลือราคาปาล์มน้ำมันไปเป็นวันที่ 20 ธ.ค.55 และขอให้แกนนำนำเรื่องดังกล่าวไปบอกต่อเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันต่อไป
นายพีระศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ช่วงระยะเวลา 2 วันนี้ ขอร้องกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันอย่าได้ออกมาปิดถนน เพราะจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนคนอื่น ซึ่งหากมีการปิดถนนตนก็ยอมไม่ได้เช่นกัน เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พร้อมจะจัดการขั้นเด็ดขาดตามอำนาจหน้าที่ทันที พร้อมบอกว่า ไม่ได้เป็นการท้าทายกัน เพราะรัฐบาลได้สั่งการลงมาให้ตนจัดการตามอำนาจหน้าที่ทันที หากมีกลุ่มผู้ชุมนุมออกไปประท้วงปิดถนน เพราะหากตนไม่ดำเนินการ ผู้ว่าราชการจังหวัดก็จะถูกดำเนินการเสียเอง
ขณะที่นายกฤษณ์ แก้วรักษ์ ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนปาล์ม จากอำเภอท่าแซะ ได้กล่าวในที่ประชุมว่า ที่ผ่านมา ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ชุมนุมอย่างสงบเรียบร้อย โดยไม่ได้ออกไปเคลื่อนไหวสร้างคามเดือดร้อนให้แก่ส่วนรวม แม้ในครั้งแรกจะมีมติออกมาหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ก็จะดำเนินการตามเหมือนกับภาคอื่นๆ คือ ต้องปิดถนนเพื่อจะได้สร้างแรงกดดันให้รัฐบาลสนใจ และให้ความสำคัญที่จะเร่งแก้ไขให้อย่างรวดเร็ว
นายกฤษณ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า แต่เพราะทางจังหวัดได้ร้องขอ ประกอบกับทางรัฐได้ทำหนังสือมาเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะช่วยเหลือในการรับซื้อผลผลิตในราคาไม่ต่ำกว่า 5 บาท โดยจะให้คำตอบชัดเจนคือวันที่ 18 ธันวาคมนี้ แต่เมื่อรัฐบาลไม่จริงใจในการช่วยเหลือความเดือดร้อนของประชาชนชั้น 2 อย่างคนภาคใต้ ทางกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มก็จะทำกิจกรรมตามที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้ แม้จะผิดกฎหมายการชุมนุมก็ตาม เพราะถือว่าวันนี้กับวันพรุ่งนี้ก็จะเหมือนกัน รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับชาวใต้อย่างจริงใจ พวกเราก็จะไปหามาตรการกดดันกันต่อไป