ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เด็กหญิงวัย 8 เดือน ลูกแรงงานต่างด้าวชาวลาว พลัดตกจากเปลที่พ่อแม่นำมาผูกไว้ในโรงรมยางพารา ก่อนคลานไปตกท่อระบายน้ำเสียขาดอากาศหายใจดับคาท่ออย่างน่าอนาถ ท่ามกลางความพยายามใช้รถตักดินขุดท่อดังกล่าวเพื่อช่วยชีวิตนานกว่า 3 ชั่วโมง
วันนี้ (16 มี.ค.) เกิดอุบัติเหตุเศร้าสลดขึ้น เมื่อ ด.ญ.กิ่งเหมย วัย 8 เดือน ลูกสาวของนายจอน อายุ 31 ปี และนางจันไต อายุ 29 ปี แรงงานต่างด้าวชาวลาว พลัดตกจากเปลนอนที่พ่อแม่นำไปเลี้ยงไว้ภายในโรงรมยางแผ่นดิบของสหกรณ์การเกษตรรัตภูมิ จำกัด ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านทุ่งเปลาะ ม.4 ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยหลังจากตกลงมาจากเปลเด็กได้คลานตกลงไปในท่อระบายน้ำเสียที่อยู่ภายในโรงรมยางซึ่งไม่ได้ปิดฝา และขาดอากาศหายใจเสียชีวิตอยู่ภายในท่ออย่างอนาถ
ทั้งนี้ ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยกู้ภัยได้พยายามทุกวิถีทางที่จะนำร่างของหนูน้อยออกมาจากท่อ โดยใช้วิธีนำรถตักดินมาขุดจากปลายท่อระบายน้ำที่อยู่ด้านนอกผนังอาคารโรงรม ซึ่งพบว่าตัวเด็กอยู่ลึกเข้าไปกว่า 2 เมตร หน่วยกู้ภัยต้องแซะดินออก และตัดท่อทีละท่อนเพื่อให้เข้าไปถึงตัวเด็ก โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงจะสามารถนำร่างของหนูน้อยออกมาได้ แต่เด็กเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากติดอยู่นานเกินไปจนขาดอากาศหายใจ
จากการสอบสวนทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่นายจอน และนางจันไต ผัวเมียแรงงานชาวลาวซึ่งมาทำงานในกะดึก นำลูกสาวไปนอนในเปลซึ่งอยู่บริเวณเดียวกันกับที่ทั้ง 2 คนทำงาน กระทั่ง นางจันไตได้กลับมาดูลูกสาว และพบว่าไม่ได้นอนอยู่ในเปล จึงพยายามตามหาในบริเวณใกล้กับที่ลูกสาวนอนอยู่ ปรากฏว่า ได้ยินเสียงเด็กร้องออกมาจากรูท่อระบายน้ำเสีย จึงรีบขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคนงาน แต่ไม่สามารถนำออกมาได้เนื่องจากท่อระบายน้ำมีขนาดความกว้างประมาณ 12 นิ้ว และตัวเด็กอยู่ลึกเข้าไปประมาณ 4 เมตร จึงได้รีบแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังตำรวจ และหน่วยกู้ภัย แต่กว่าจะหาวิธีช่วยออกมาได้ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง เด็กจึงค่อยๆ เงียบเสียง และเสียชีวิตคาท่อระบายน้ำ
โดยเจ้าหน้าที่คาดว่า ระหว่างที่หนูน้อยเคราะห์ร้ายรายนี้นอนอยู่ในเปลได้ตื่นขึ้นมา และน่าจะหิวนมจึงพยามดิ้นจนตกจากเปล จากนั้นจึงคลานไปตามพื้นของโรงรมประสาเด็ก แต่ปรากกฏว่า ได้คลานตกลงไปในรูท่อระบายน้ำจนเสียชีวิตดังกล่าว