ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ประชา ประสพดี” เรียกประชุมหน่วยงานราชการเพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ พร้อมแต่งตั้งคณะทำงานเร่งตรวจสอบภายใน 30 วัน ย้ำไม่ต้องการทำร้ายใคร แต่เพื่อความถูกต้อง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (15 มี.ค.) ที่ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายสิทธิชัย กิตติธเนศวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย พล.ท.มนัส เปาริก ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธรรมศักดิ์ ชนะ รองอธิบดีกรมที่ดิน พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจราชการ และมอบนโยบายการแก้ไขปัญหาการออกโฉนดที่ดิน รวมทั้งมาตรการการป้องกันการบุกรุกที่ดินของรัฐ และการถือครองที่ดินในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ และนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต นายสมยศ เล่าชู เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังนโยบาย
นายประชา กล่าวว่า เรื่องของที่ดินเป็นเรื่องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ได้เล็งเห็นความสำคัญ เนื่องจากภูเก็ตเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมาก และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลถึงการนำรายได้กลับเข้าสู่ประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ ณ วันนี้ได้มีปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ซึ่งมีการใช้ขั้นตอนกระบวนการต่างๆ โดยนายทุน หรือผู้มีอำนาจบารมีกำลังแผ่ขยาย
จากข้อมูลทราบว่า ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีเอกสารสิทธิ จำนวน 203,822 แปลง เป็นโฉนด จำนวน 156,853 แปลง, ส.ค.1 จำนวน 4,437 แปลง, น.ส.3 ก. จำนวน 26,616 แปลง, น.ส.3 จำนวน 4,080 แปลง และอาคารชุด 147 โครงการ จำนวน 11,836 ห้องชุด ทั้งนี้ เป็นพื้นที่ต้องห้ามในการออกเอกสารสิทธิตาม ประกาศกระทรวงฉบับที่ 43 พ.ศ.2537 มีประกาศ น.ส.3 ก. ตาม ม.27 ตรี แห่งประมวลกฎหมายที่ดินปี 2521 มีความต้องการที่ดินสูง และราคาแพง ทำให้มี ส.ค.1 บิน และบวมมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมี ส.ค.1 อีกจำนวนมาก ในการนำ ส.ค.1 ไปใช้ออก น.ส.3 หรือโฉนดนั้น ปรากฏว่า ไม่ตรงกับตำแหน่งที่ดิน หรือบางครั้งก็จะมีจำนวนเนื้อที่ของ ส.ค.1 ไม่ตรงกัน เช่น ส.ค.1 มี 1 ไร่เศษ แต่มีการออกเป็น 20 ไร่ หรือมากกว่านั้น
อย่างไรก็ตาม นายประชา กล่าวอีกว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเพราะมีการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นเข้าไปเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.กะทู้ และได้มีการลงไปตรวจพื้นที่จริง ซึ่งก็เป็นที่น่าสังเกตว่า ได้มีการบุกรุกปลูกสิ่งปลูกสร้างบนที่สูง รวมทั้งบริเวณแนวชายหาดซึ่งไม่น่าจะทำได้ ก็ได้สั่งการให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้เข้าไปตรวจสอบ หากพบว่ามีเอกสารสิทธิก็ต้องดูด้วยว่าได้มาถูกต้องหรือไม่ และในการขอออกเอสารสิทธิกรณีที่เป็นที่ลาดชัน หรือที่ติดริมทะเล รวมถึงกรณีมีแนวเขตติดต่อกับที่ดินของรัฐ ซึ่งก็จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ ในส่วนของตนก็ได้เซ็นแต่งตั้งคณะทำงานเข้ามาตรวจสอบปัญหาดังกล่าวแล้ว และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ทันที โดยจะยกให้ภูเก็ตเป็นต้นแบบของการแก้ปัญหา ซึ่งจะเห็นผลภายใน 30 วัน นับตั้งวันที่ 18 มีนาคม 2556
เป็นที่น่าสังเกตว่า ในกรณีการใช้ ส.ค.1 เพื่อมาออกเอกสารสิทธินั้น เมื่อมีการรังวัดแล้วมักจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้น เช่น จาก 1 ไร่ เป็น 20 ไร่ หรืออาจจะมากกว่านั้น เป็นต้น ดังนั้น จึงอยากให้มีการตรวจสอบ และพิจารณาอย่างรอบคอบว่า จำนวนที่ดินที่มีการขออนุญาตนั้นตรงกับหลักฐานที่มีการยื่น หรือมีที่ตั้งตรงกับที่มีการระบุในเอกสารหรือไม่ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ก็ได้พูดคุย และเน้นย้ำไปยังผู้ว่าฯ แล้วที่จะต้องมีความรอบคอบ
ทั้งนี้ การดำเนินการในส่วนนี้ไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร แต่เพื่อความถูกต้อง และต้องการบูรณาการการจัดระเบียบที่ดินให้เป็นระบบ หากพบว่า มีการกระทำผิดก็ให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งจะเริ่มในพื้นที่ ต.กมลา อ.กะทู้ เป็นจุดแรก หลังจากนั้น ก็จะมีการขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป