ชุมพร - หัวโจกขาใหญ่ “โม่ ท่ายาง” สมุนนักการเมืองท้องถิ่น ขับรถจักรยานยนต์ไล่ยิงวัยรุ่นคู่อริบนถนนย่านเมืองท่องเที่ยวกลางเมืองชุมพร ท่ามกลางสายตาชาวบ้าน และนักท่องเที่ยว ส่งผลตาย 1 เจ็บสาหัส 3 พ่อค้าไก่ย่างพลอยซวยโดนลูกหลง
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ร.ต.ท.ธนเทพ สุวรรณ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งมีเหตุไล่ยิงกันมีคนบาดเจ็บหลายราย ที่บริเวณย่านการค้าและท่องเที่ยว ถนนกรมหลวง ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิมล พิทักษ์บูรพา ผกก.สภ.เมืองชุมพร นำกำลังตำรวจชุดสายสืบจำนวนหนึ่ง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนกรมหลวง เขตเทศบาลเมืองชุมพร หน้าสมาคมฮากกาชุมพร เป็นย่านท่องเที่ยวค้าขายอาหาร และเครื่องดื่มช่วงกลางคืน มีประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พบเพียงกองเลือด และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีม่วง-ขาว ทะเบียน 650 ชุมพร ล้มอยู่กลางถนน ตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. 2 ปลอก ตกอยู่ที่เกิดเหตุจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสมี 4 ราย หน่วยกู้ภัยได้ช่วยเหลือพาส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ไปก่อนหน้านั้นแล้ว
เจ้าหน้าที่ตามไปสอบสวนทราบชื่อ นายขจรศักดิ์ บุญญากร อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 6 ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร ถูกยิงที่หน้าแข้งขวากระสุนทะลุ ด.ช.อนุชน สามงามรอด อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 258/9 หมู่ 9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ถูกยิงที่สะโพก กระสุนฝังใน นายสังวร ฉิ่งสูงเนิน อายุ 41 ปี บ้านอยู่ถนนกรมหลวงซอย 3 ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร ถูกยิงที่แขนขวา 1 นัด และนายชาญนรินทร์ ดวงแข อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 11 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ถูกยิงที่หน้าอกเหนือราวนมซ้ายกระสุนทะลุหลัง โดยนายชาญนรินทร์ อาการโคม่าเนื่องจากกระสุนทะลุถูกอวัยวะส่วนสำคัญ แพทย์ พยาบาลได้พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ด.ช.อนุชน สามงามรอด อายุ 14 ปี ได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาบนถนนกรมหลวง โดยมี นายขจรศักดิ์ บุญญากร อายุ 18 ปี นั่งกลาง และนายชาญนรินทร์ ดวงแข อายุ 15 ปี ผู้ตายนั่งซ้อนท้ายหลังสุด ขณะเดียวกัน ได้มี นายน๊อต อายุประมาณ 15 ปี ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค ไม่ทราบทะเบียน โดยมีนายโม่ อายุประมาณ 22 ปี นั่งซ้อนหลัง ได้ขับสวนทางมา และเมื่อเห็นกลุ่มของนายชาญนรินทร์ผู้ตาย ซึ่งเป็นคู่อริเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน นายน๊อตจึงเลี้ยวรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามรถจักรยานยนต์ของกลุ่มผู้ตาย และเมื่อขับไล่ตามมาทันถึงที่เกิดเหตุได้เร่งเครื่องแซง แล้วนายโม่ ซึ่งนั่งซ้อนหลังได้ชักอาวุธปืนขนาด 11 มม. ออกมายิงไส่ไปที่ นายชาญนริทร์ นายขจรศักดิ์ และ ด.ช.อนุชน จำนวน 6 นัดซ้อน จนรถล้มลงกลางถนน
ส่วน นายสังวร ฉิ่งสูงเนิน อายุ 41 ปี เป็นพ่อค้าขายไก่ย่างอยู่ริมถนนดังกล่าวถูกลูกหลงที่แขนขวา 1 นัด จากนั้นคนร้ายได้เลี้ยวกลับรถกลางถนนแล้วขับหลบหนีไปทางตำบลท่ายาง ท่ามกลางสายตาความแตกตื่นตกใจของบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่วิ่งหลบลูกกระสุนปืนกันอย่างโกลาหล หลังเกิดเหตุ ได้มีตำรวจสายตรวจที่อยู่บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามคนร้ายไปได้ราว 700 เมตร ถูกคนร้ายชักอาวุธปืนออกมายิงสกัดการติดตามอีกหลายนัด จนตำรวจสายตรวจต้องหลบเข้าข้างทาง เนื่องจากไม่กล้ายิงโต้ตอบเพราะอยู่ในย่านชุมชนชนมีชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวเดินพลุกพล่านอยู่จำนวนมาก จึงต้องวิทยุขอกำลังตำรวจออกสกัดติดตามไล่ล่าตามเส้นทางหลบหนี แต่คนร้ายสามารถหลบหนีไปได้ในที่สุด
สำหรับสาเหตุการไล่ยิงกันอย่างอุกอาจเย้ยกฎหมายกลางเมืองท่ามกลางสายตาพ่อค้าแม่ค้า ประชาชน และนักท่องเที่ยวจำนวนมากในครั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่า คนร้ายโดยเฉพาะนายโม่มือปืน มีฉายาในวงการนักเลงเป็นที่รู้จักกันทั่วว่า “โม่ ท่ายาง” เคยก่อคดีมาอย่างโชกโชน มีประวัติเคยฆ่าคนตาย และพัวพันการค้ายาเสพติด ได้ตั้งตัวเป็นขาใหญ่หัวหน้าแก๊งมีสมุนเป็นกลุ่มวัยรุ่นอยู่ในพื้นที่ตำบลท่ายาง อ.เมืองชุมพร มีนักการเมืองอิทธิพลในท้องถิ่นให้การหนุนหลัง จึงเกิดความฮึกเหิมไม่เกรงกลัวใคร จนกระทั่งมาก่อเหตุอุกอาจเย้ยกฎหมายบ้านเมืองไล่ยิงคู่อริเสียชีวิต และบาดเจ็บอย่างอุกอาจกลางถนนใจกลางเมืองชุมพร
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ร.ต.ท.ธนเทพ สุวรรณ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งมีเหตุไล่ยิงกันมีคนบาดเจ็บหลายราย ที่บริเวณย่านการค้าและท่องเที่ยว ถนนกรมหลวง ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิมล พิทักษ์บูรพา ผกก.สภ.เมืองชุมพร นำกำลังตำรวจชุดสายสืบจำนวนหนึ่ง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนกรมหลวง เขตเทศบาลเมืองชุมพร หน้าสมาคมฮากกาชุมพร เป็นย่านท่องเที่ยวค้าขายอาหาร และเครื่องดื่มช่วงกลางคืน มีประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พบเพียงกองเลือด และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีม่วง-ขาว ทะเบียน 650 ชุมพร ล้มอยู่กลางถนน ตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. 2 ปลอก ตกอยู่ที่เกิดเหตุจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสมี 4 ราย หน่วยกู้ภัยได้ช่วยเหลือพาส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ไปก่อนหน้านั้นแล้ว
เจ้าหน้าที่ตามไปสอบสวนทราบชื่อ นายขจรศักดิ์ บุญญากร อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 6 ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร ถูกยิงที่หน้าแข้งขวากระสุนทะลุ ด.ช.อนุชน สามงามรอด อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 258/9 หมู่ 9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ถูกยิงที่สะโพก กระสุนฝังใน นายสังวร ฉิ่งสูงเนิน อายุ 41 ปี บ้านอยู่ถนนกรมหลวงซอย 3 ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร ถูกยิงที่แขนขวา 1 นัด และนายชาญนรินทร์ ดวงแข อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 11 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ถูกยิงที่หน้าอกเหนือราวนมซ้ายกระสุนทะลุหลัง โดยนายชาญนรินทร์ อาการโคม่าเนื่องจากกระสุนทะลุถูกอวัยวะส่วนสำคัญ แพทย์ พยาบาลได้พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ด.ช.อนุชน สามงามรอด อายุ 14 ปี ได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาบนถนนกรมหลวง โดยมี นายขจรศักดิ์ บุญญากร อายุ 18 ปี นั่งกลาง และนายชาญนรินทร์ ดวงแข อายุ 15 ปี ผู้ตายนั่งซ้อนท้ายหลังสุด ขณะเดียวกัน ได้มี นายน๊อต อายุประมาณ 15 ปี ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค ไม่ทราบทะเบียน โดยมีนายโม่ อายุประมาณ 22 ปี นั่งซ้อนหลัง ได้ขับสวนทางมา และเมื่อเห็นกลุ่มของนายชาญนรินทร์ผู้ตาย ซึ่งเป็นคู่อริเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน นายน๊อตจึงเลี้ยวรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามรถจักรยานยนต์ของกลุ่มผู้ตาย และเมื่อขับไล่ตามมาทันถึงที่เกิดเหตุได้เร่งเครื่องแซง แล้วนายโม่ ซึ่งนั่งซ้อนหลังได้ชักอาวุธปืนขนาด 11 มม. ออกมายิงไส่ไปที่ นายชาญนริทร์ นายขจรศักดิ์ และ ด.ช.อนุชน จำนวน 6 นัดซ้อน จนรถล้มลงกลางถนน
ส่วน นายสังวร ฉิ่งสูงเนิน อายุ 41 ปี เป็นพ่อค้าขายไก่ย่างอยู่ริมถนนดังกล่าวถูกลูกหลงที่แขนขวา 1 นัด จากนั้นคนร้ายได้เลี้ยวกลับรถกลางถนนแล้วขับหลบหนีไปทางตำบลท่ายาง ท่ามกลางสายตาความแตกตื่นตกใจของบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่วิ่งหลบลูกกระสุนปืนกันอย่างโกลาหล หลังเกิดเหตุ ได้มีตำรวจสายตรวจที่อยู่บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามคนร้ายไปได้ราว 700 เมตร ถูกคนร้ายชักอาวุธปืนออกมายิงสกัดการติดตามอีกหลายนัด จนตำรวจสายตรวจต้องหลบเข้าข้างทาง เนื่องจากไม่กล้ายิงโต้ตอบเพราะอยู่ในย่านชุมชนชนมีชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวเดินพลุกพล่านอยู่จำนวนมาก จึงต้องวิทยุขอกำลังตำรวจออกสกัดติดตามไล่ล่าตามเส้นทางหลบหนี แต่คนร้ายสามารถหลบหนีไปได้ในที่สุด
สำหรับสาเหตุการไล่ยิงกันอย่างอุกอาจเย้ยกฎหมายกลางเมืองท่ามกลางสายตาพ่อค้าแม่ค้า ประชาชน และนักท่องเที่ยวจำนวนมากในครั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่า คนร้ายโดยเฉพาะนายโม่มือปืน มีฉายาในวงการนักเลงเป็นที่รู้จักกันทั่วว่า “โม่ ท่ายาง” เคยก่อคดีมาอย่างโชกโชน มีประวัติเคยฆ่าคนตาย และพัวพันการค้ายาเสพติด ได้ตั้งตัวเป็นขาใหญ่หัวหน้าแก๊งมีสมุนเป็นกลุ่มวัยรุ่นอยู่ในพื้นที่ตำบลท่ายาง อ.เมืองชุมพร มีนักการเมืองอิทธิพลในท้องถิ่นให้การหนุนหลัง จึงเกิดความฮึกเหิมไม่เกรงกลัวใคร จนกระทั่งมาก่อเหตุอุกอาจเย้ยกฎหมายบ้านเมืองไล่ยิงคู่อริเสียชีวิต และบาดเจ็บอย่างอุกอาจกลางถนนใจกลางเมืองชุมพร