ตาแจ้ง! ใช้ “นาฬิกา” จุด จยย.บอมบ์ต่อท้ายรถตัดสัญญาณโทรศัพท์ทหารที่ตลาดนราฯ

 
นราธิวาส - ตาแจ้ง! พิสูจน์แล้ว จยย.บอมบ์ที่ตลาดเมืองนราฯ จุดชนวน “ด้วยนาฬิกา” แถมยังเย้ยด้วยการนำไปจอดต่อท้ายรถตัดสัญญาณโทรศัพท์ของทหาร จนท.เร่งหาวิธีการอุดช่องโหว่ ส่วน CCTV จับภาพได้แต่ไม่ชัด มีเพียงข้อมูลคนร้ายจากปากคำของผู้บาดเจ็บเท่านั้น

จากกรณีคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์บอมบ์ก่อเหตุระเบิดที่บริเวณถนนทางเข้าตลาดสดเทศบาลเมืองนราธิวาส บนถนนภูผาภักดี เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (1 มี.ค.) ส่งผลให้ทหาร และชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของบาดเจ็บรวม 6 รายนั้น

ล่าสุด จากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์บอมบ์ที่คนร้ายได้ซุกซ่อนระเบิดไว้ และใช้นำไปก่อเหตุในครั้งนี้อย่างละเอียดพบว่า เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นสปาร์ค สีบรอนซ์ ทะเบียน ขฉ 694 นราธิวาส ไม่ใช่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีเทา ทะเบียน ขจต 304 นราธิวาส ซึ่งเป็นของผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าของรถที่ใช้ประกอบเป็นจักรยานยนต์บอมบ์ตัวจริงคือ นายสวัสดิ์ รัดไว้ อายุ 46 ปี ชาว ม.8 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และได้แจ้งหายไว้ที่ สภ.ระแงะ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2555

สำหรับวิธีการจุดชนวนระเบิดพบว่า คนร้ายได้จุดชนวนโดยการตั้งปลุกด้วยนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล เพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสัญญาณด้วยรถยนต์ของชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 33 ที่จอดอยู่ด้านหน้าทางเข้าตลาดสด

และจากการตรวจสอบภาพวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณทางเข้าตลาด จำนวน 2 ตัว พบว่า กล้องวงจรปิดบันทึกภาพพฤติกรรมของคนร้ายได้ไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีแสงไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลจากพยานบุคคล และผู้ได้รับบาดเจ็บเท่านั้นว่า คนร้ายเป็นชายวัยรุ่น โดยได้นำรถจักรยานยนต์มาจอดแล้วเดินหายไปในตลาดสด แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกจุดที่ติดตั้งไว้ที่จุดตรวจทางเข้าพื้นที่เซฟตี้โซนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

 
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อยู่ในพื้นที่เซฟตี้โซน และจุดเกิดเหตุเป็นท้ายรถยนต์กระบะที่นำมาจอดไว้เพื่อตัดสัญญาณไม่ให้กลุ่มคนร้ายนำระเบิดมาก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังกำลังหาช่องโหว่ เพื่อไม่ให้กลุ่มคนร้ายเคลื่อนไหวเข้ามาก่อเหตุซ้ำในพื้นที่เซฟตี้โซนแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุระเบิดจักรยานยนต์บอมบ์ขึ้น นายดาโอ๊ะ (ขอสงวนนามสกุล) ชาวบ้านในเตเทศบาลเมืองนราธิวาส เปิดเผยว่า ประชาชนที่ทราบข่าวต่างกล่าววิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา เนื่องจากทราบว่า พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้มีการร่วมลงนามกับนายฮัสซัน ตอยิบ หรือนายอาแซ เจ๊ะหลง แกนนำขบวนการบีอาร์เอ็น ในข้อตกลงร่วมที่จะพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อนำไปสู่สันติภาพ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) แล้วมาเกิดเหตุขึ้นได้อย่างไร โดยส่วนใหญ่เชื่อว่า บีอาร์เอ็นวางมือ แต่กลุ่มอื่นๆ ยังปฏิเสธ ซึ่งทางตัวแทนไทยอาจจะไม่ให้ความสำคัญ จึงได้ให้สมาชิกแนวร่วมในขบวนการลอบก่อเหตุร้ายขึ้น เพื่อส่งสัญญาณอย่างใดอย่างหนึ่งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและนำไปขบคิดก็อาจจะเป็นได้