ระนอง - หนุ่มใหญ่วัย 50 ปี ข้าราชการสังกัดศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระนอง ใจดีใช้เงินสะสมส่วนตัว บางส่วนกู้ยืมจากสหกรณ์ ออกไถ่ชีวิตกระบือตามโรงฆ่าสัตว์ หวังให้เป็นศูนย์อนุรักษ์กระบือไทยให้ลูกหลานเยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้
นายอัฏฐวัฒย์ ไชยณรงค์ อายุ 50 ปี ข้าราชการสังกัดศาลเยาวชนและคดีเด็กจังหวัดระนอง อยู่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 3 ต.หงาว อ.เมือง จังหวัดระนอง นำเงินที่ได้จากเก็บสะสม และบางส่วนกู้ยืมจากสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ เพื่อมาทำการไถ่ชีวิตกระบือ โดยเฉพาะกระบือเผือกที่นับวันจะหาได้อยาก ปัจจุบัน มีกระบือเผือก จำนวน 6 ตัว ตั้งท้อง 2 ตัว และกระบือดำ 7 ตัว ตั้งท้อง 2 ตัวเช่นกันอยู่ในความดูแล
นายอัฏฐวัฒย์ กล่าวว่า ตนเองเป็นลูกชาวนา มีชีวิตผูกพันกับกระบือมาตลอด เมื่อมีงานทำ และสามารถเก็บเงินได้จำนวนหนึ่งก็อยากจะช่วยชีวิตกระบือที่กำลังจะโดนฆ่า ในระยะเวลาเกือบ 2 ปีนี้ สามารถไถ่ชีวิตกระบือได้รวม จำนวน 13 ตัว เป็นกระบือเผือกจำนวน 6 ตัว และกระบือดำ จำนวน 7 ตัว ได้ไปขอเช่าที่จากธนาคารกว่า 117 ไร่ โดยแจ้งจุดประสงค์ว่า ต้องการทำเป็นศูนย์อนุรักษ์กระบือ โดยเฉพาะกระบือเผือกที่นับวันจะหาได้ยากมาก ตนเองอยากจะสร้างให้สถานที่เลี้ยงกระบือแห่งนี้เป็นศูนย์อนุรักษ์กระบือของจังหวัดระนอง ให้เห็นความสำคัญของกระบือไทยที่นับวันจะลดจำนวนลงมากจากในอดีต เพราะความต้องการในการบริโภค
โดยตนเองจะใช้เวลาว่างจากการทำงานราชการในช่วงเที่ยง และเย็นในการเข้าไปดูแลกระบือ พร้อมจ้างคนดูแลอีก จำนวน 1 คน มีการสร้างคอกเลี้ยง จำนวน 2 คอก ทั้งแบบกลางแจ้ง และแบบกางมุ้ง ทุกเช้าหลังจากปล่อยกระบือออกจากคอกจะทำการฉีดยากันยุงเพื่อไม่ให้กระบือถูกยุงกัดจนเป็นโรค ซึ่งเราจะดูแลกระบือเป็นอย่างดี เพราะกระบือส่วนใหญ่ที่ไถ่ชีวิตมาจากโรงฆ่าสัตว์ ทุกครั้งที่เห็นคนแปลกหน้ากระบือจะมีอาการหวาดกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะเข้าใจว่าจะจับเขาไปฆ่า
แม้ว่าขณะนี้จะมีกระบือที่อยู่ในความดูแลมากถึง 13 ตัวแล้วก็ตาม ตนเองก็ยังพยายามเก็บหอมรอมริบจากเงินเดือนเพื่อเก็บไว้ใช้เป็นค่าอาหารทั้งหญ้าสด และหญ้าแห้ง รวมทั้งเงินสำรอง หากมีเพื่อนๆ โทร.มาว่าตามจากโรงฆ่าสัตว์ต่างๆ ที่พบเห็นกระบือเผือก หรือมีชาวบ้านในพื้นที่ไหนจะขายกระบือเผือก บ้างครั้งเจอแล้วก็ไม่สามารถไถ่ชีวิตได้ก็มีเนื่องจากราคาสูงมาก เพราะโรงฆ่าสัตว์จะขายในราคาเนื้อที่ชำแหละแล้ว ตนเองมีเงินไม่พอก็รู้สึกสงสาร บ้างครั้งก็มีเพื่อนซื้อ และนำมาให้ เพราะเพื่อนทราบว่าตนเองเลี้ยงเพื่ออนุรักษ์ไม่ได้เลี้ยงไว้เพื่อขาย ตนเองจะพยายามทำให้สถานที่เลี้ยงกระบือแห่งนี้เป็นศูนย์อนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานเยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับกระบือต่อไปในอนาคต ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ และเรี่ยวแรงที่ทำงานก็จะพยายามเก็บเงินเพื่อออกไถ่ชีวิตกระบือ
