“กาแฟสวนจันทน์” อีกหนึ่งร้านเก่าแก่ของเมืองตรัง ไม่เพียงได้ลิ้มลอง “โกปี๊” ที่ชาวตรังนิยมดื่มในยามเช้า แต่ยังมีอีกหลายสิ่งอย่างให้อิ่มท้องกันทั้งวัน พร้อมคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ ที่ “โกธรรม” ลงมือทำเองทุกวัน ลองแวะไปชิมกันที่ สามแยกรักษ์จันทน์ กลางเมืองตรัง
ร้าน “กาแฟสวนจันทน์” อาจจะเป็นร้านกาแฟที่เก่าแก่ที่สุด บนถนนรักษ์จันทน์ ในเขตเทศบาลนครตรัง เลยก็ว่าได้ เพราะเปิดให้บริการมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปีแล้ว หรือตั้งแต่เมื่อปี 2535 โดย “สุธรรม เศรษฐพิศาล” หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนาม “โกธรรม” หนุ่มใหญ่วัย 50 ปี ซึ่งมีบุคลิกเด่น คือ ความมีอัธยาศัยเป็นกันเอง แถมยังพูดคุยสนุกสนาน พร้อมทั้งยังมาคอยให้บริการลูกค้าด้วยตัวเองในทุกๆ วันด้วย
ก่อนมาถึงวันนี้ เขาได้ออกตระเวนจากเมืองตรัง เพื่อไปทำงาน และหาประสบการณ์ในพื้นที่ต่างๆ นับสิบปี กระทั่งได้แต่งงานกับ “วัณณิตา เศรษฐพิศาล” ภรรยา ซึ่งเคยทำงานเกี่ยวกับอาหาร และเครื่องดื่มอย่างโชกโชน จึงชักชวนกันกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด เพื่อเปิดร้านกาแฟขึ้น เนื่องจากในขณะนั้น ยังมีจำนวนเพียงแค่ไม่กี่แห่ง และปกติชาวตรังก็นิยมนั่งทานกาแฟ หรือ “โกปี๊” กันอยู่แล้ว
ณ บ้านเลขที่ 11/4 ถ.รักษ์จันทน์ ขนาดเพียงห้องเดียว โกธรรม และภรรยาจัดแจงตกแต่ง “ร้านกาแฟสวนจันทน์” ให้ดูแบบเรียบง่าย แต่กลับรู้สึกโล่งสบายสำหรับการมานั่งพักผ่อน เพื่อรองรับลูกค้า ซึ่งช่วงเริ่มต้นก็มักจะเป็นคนแถวนั้น กระทั่งต่อมา เมื่อร้านได้รับความนิยมมากขึ้น และมีลูกค้ามาจากทั่วทุกสารทิศ แม้กระทั่งจากต่างอำเภอ หรือต่างจังหวัด จึงได้มีการขยับขยายร้านออกเป็น 2 ห้อง และจัดที่นั่งเพิ่มบริเวณด้านหน้าริมถนนด้วย
สำหรับเมนูที่ขึ้นชื่อที่สุดของร้านแห่งนี้ ก็คือ “ซาลาเปา” ขนาดที่ชาวต่างจังหวัดผู้ใดก็ตามที่ได้แวะเวียนมา จะต้องซื้อกลับบ้านไปแจกจ่ายให้ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนฝูง กันเป็นจำนวนนับ 100 ลูกทีเดียว โดยมีทั้งไส้หมู ไส้หวาน หรือไส้ดำ ในราคาลูกละ 10 บาทเท่านั้น แต่ขนาดโตได้ใจ รวมไปถึง “บะจ่าง” ที่มี 2 ขนาดให้เลือก คือ ราคา 10 บาท และ 25 บาท แถมรับประกันความอร่อย เพราะทำเอง ไม่ได้รับมาจากที่ไหน
นอกจากนั้น ทางร้านยังจัดเมนูอื่นๆ ให้เลือกทานกันอีกเป็นจำนวนมาก เช่น ขนมจีบเหลือง ขนมจีบขาว (ฮะเก๋า) เต้าหู้ปลายัดไส้ มะระยัดไส้ ปูอัดยัดไส้ หมี่เหลืองยัดไส้ทอดกรอบ ขนมเข่งสอดไส้ ฯลฯ แล้วนำไปจิ้มกับน้ำซอสสีแดง โดยเฉลี่ยราคาถ้วยละ 10-15 บาท แถมยังมีหมี่เหลือง-หมี่หุน (หมี่ขาว)-หมี่สั่ว-ก๋วยเตี๋ยว สูตรกระดูกหมูตุ๋นเครื่องยาจีน รวมทั้งโจ๊กปลา โจ๊กหมู ให้ได้ลิ้มลองจนอิ่มท้องด้วย
ส่วนเครื่องดื่ม โดยเฉพาะ “น้ำชา-กาแฟ” ที่ครองใจลูกค้ามายาวนาน ก็เป็นเพราะมีรสชาติเข้มข้น หรือชงตามแบบความชอบของลูกค้า โดยเฉพาะขาประจำ พร้อมทั้งยังเลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทำให้โต๊ะ-เก้าอี้ ที่เตรียมไว้รับรองประมาณ 20 ชุด แน่นตลอดทั้งวัน เนื่องจากมีลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 คน ยิ่งถ้าเป็นช่วงเทศกาลแล้วก็จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นถึงวันละ 1,500 คนเลยทีเดียว
นอกจากร้านแห่งนี้จะเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวโดยทั่วไปแล้ว ก็ยังมีลูกค้าที่มีชื่อเสียงที่ได้เคยเดินทางมาทานกาแฟอีกเป็นจำนวนมาก เช่น นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปตย์ หรือน้องป๊อป อารียา สิริโสภา นางสาวไทย ปี 2537 และที่เห็นจะตรงตามกระแสในยามนี้ที่สุดก็คือ ทางร้านได้จัดให้บริการ Free Wifi สำหรับลูกค้าที่มานั่งทานกาแฟด้วย
“ร้านกาแฟสวนจันทน์” ตั้งอยู่บริเวณสามแยกรักษ์จันทน์ เปิดให้บริการวันจันทร์-เสาร์ หยุดวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 06.00-17.00 น. รองรับลูกค้าได้หลายกลุ่ม หลากอายุ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครอบครัว วัยรุ่น คนทำงาน หรือผู้สูงวัย โดยสามารถสั่งจองโต๊ะล่วงหน้าได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-7521-4-099 หรือ 08-1737-0709
ภาพ-เรื่อง โดย เมธี เมืองแก้ว
ร้าน “กาแฟสวนจันทน์” อาจจะเป็นร้านกาแฟที่เก่าแก่ที่สุด บนถนนรักษ์จันทน์ ในเขตเทศบาลนครตรัง เลยก็ว่าได้ เพราะเปิดให้บริการมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปีแล้ว หรือตั้งแต่เมื่อปี 2535 โดย “สุธรรม เศรษฐพิศาล” หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนาม “โกธรรม” หนุ่มใหญ่วัย 50 ปี ซึ่งมีบุคลิกเด่น คือ ความมีอัธยาศัยเป็นกันเอง แถมยังพูดคุยสนุกสนาน พร้อมทั้งยังมาคอยให้บริการลูกค้าด้วยตัวเองในทุกๆ วันด้วย
ก่อนมาถึงวันนี้ เขาได้ออกตระเวนจากเมืองตรัง เพื่อไปทำงาน และหาประสบการณ์ในพื้นที่ต่างๆ นับสิบปี กระทั่งได้แต่งงานกับ “วัณณิตา เศรษฐพิศาล” ภรรยา ซึ่งเคยทำงานเกี่ยวกับอาหาร และเครื่องดื่มอย่างโชกโชน จึงชักชวนกันกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด เพื่อเปิดร้านกาแฟขึ้น เนื่องจากในขณะนั้น ยังมีจำนวนเพียงแค่ไม่กี่แห่ง และปกติชาวตรังก็นิยมนั่งทานกาแฟ หรือ “โกปี๊” กันอยู่แล้ว
ณ บ้านเลขที่ 11/4 ถ.รักษ์จันทน์ ขนาดเพียงห้องเดียว โกธรรม และภรรยาจัดแจงตกแต่ง “ร้านกาแฟสวนจันทน์” ให้ดูแบบเรียบง่าย แต่กลับรู้สึกโล่งสบายสำหรับการมานั่งพักผ่อน เพื่อรองรับลูกค้า ซึ่งช่วงเริ่มต้นก็มักจะเป็นคนแถวนั้น กระทั่งต่อมา เมื่อร้านได้รับความนิยมมากขึ้น และมีลูกค้ามาจากทั่วทุกสารทิศ แม้กระทั่งจากต่างอำเภอ หรือต่างจังหวัด จึงได้มีการขยับขยายร้านออกเป็น 2 ห้อง และจัดที่นั่งเพิ่มบริเวณด้านหน้าริมถนนด้วย
สำหรับเมนูที่ขึ้นชื่อที่สุดของร้านแห่งนี้ ก็คือ “ซาลาเปา” ขนาดที่ชาวต่างจังหวัดผู้ใดก็ตามที่ได้แวะเวียนมา จะต้องซื้อกลับบ้านไปแจกจ่ายให้ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนฝูง กันเป็นจำนวนนับ 100 ลูกทีเดียว โดยมีทั้งไส้หมู ไส้หวาน หรือไส้ดำ ในราคาลูกละ 10 บาทเท่านั้น แต่ขนาดโตได้ใจ รวมไปถึง “บะจ่าง” ที่มี 2 ขนาดให้เลือก คือ ราคา 10 บาท และ 25 บาท แถมรับประกันความอร่อย เพราะทำเอง ไม่ได้รับมาจากที่ไหน
นอกจากนั้น ทางร้านยังจัดเมนูอื่นๆ ให้เลือกทานกันอีกเป็นจำนวนมาก เช่น ขนมจีบเหลือง ขนมจีบขาว (ฮะเก๋า) เต้าหู้ปลายัดไส้ มะระยัดไส้ ปูอัดยัดไส้ หมี่เหลืองยัดไส้ทอดกรอบ ขนมเข่งสอดไส้ ฯลฯ แล้วนำไปจิ้มกับน้ำซอสสีแดง โดยเฉลี่ยราคาถ้วยละ 10-15 บาท แถมยังมีหมี่เหลือง-หมี่หุน (หมี่ขาว)-หมี่สั่ว-ก๋วยเตี๋ยว สูตรกระดูกหมูตุ๋นเครื่องยาจีน รวมทั้งโจ๊กปลา โจ๊กหมู ให้ได้ลิ้มลองจนอิ่มท้องด้วย
ส่วนเครื่องดื่ม โดยเฉพาะ “น้ำชา-กาแฟ” ที่ครองใจลูกค้ามายาวนาน ก็เป็นเพราะมีรสชาติเข้มข้น หรือชงตามแบบความชอบของลูกค้า โดยเฉพาะขาประจำ พร้อมทั้งยังเลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทำให้โต๊ะ-เก้าอี้ ที่เตรียมไว้รับรองประมาณ 20 ชุด แน่นตลอดทั้งวัน เนื่องจากมีลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 คน ยิ่งถ้าเป็นช่วงเทศกาลแล้วก็จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นถึงวันละ 1,500 คนเลยทีเดียว
นอกจากร้านแห่งนี้จะเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวโดยทั่วไปแล้ว ก็ยังมีลูกค้าที่มีชื่อเสียงที่ได้เคยเดินทางมาทานกาแฟอีกเป็นจำนวนมาก เช่น นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปตย์ หรือน้องป๊อป อารียา สิริโสภา นางสาวไทย ปี 2537 และที่เห็นจะตรงตามกระแสในยามนี้ที่สุดก็คือ ทางร้านได้จัดให้บริการ Free Wifi สำหรับลูกค้าที่มานั่งทานกาแฟด้วย
“ร้านกาแฟสวนจันทน์” ตั้งอยู่บริเวณสามแยกรักษ์จันทน์ เปิดให้บริการวันจันทร์-เสาร์ หยุดวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 06.00-17.00 น. รองรับลูกค้าได้หลายกลุ่ม หลากอายุ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครอบครัว วัยรุ่น คนทำงาน หรือผู้สูงวัย โดยสามารถสั่งจองโต๊ะล่วงหน้าได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-7521-4-099 หรือ 08-1737-0709
ภาพ-เรื่อง โดย เมธี เมืองแก้ว
