นครศรีธรรมราช - พิลึก 6 ตำรวจบุกจับวงพนันกลางงานศพ รวบกองเงินกว่า 1.6 แสนเผ่นหายไม่มีคดี ชาวบ้านฮือล้อมกรอบ 4 นายที่เหลือ นายอำเภอโร่เคลียร์จี้ ตร.เตรียมคืนเงิน ผกก.อ้อมแอ้มลาพักผ่อนถึงสิ้นเดือน โบ้ยรอง ผกก.รักษาการณ์แทนจนถึงสิ้นเดือน
เหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับวงพนันในงานศพกลางดึกแล้วเก็บเงินกลางวงหายไปกว่า 160,000 บาท ตำรวจที่เหลือถูกล้อมกรอบก่อนยกกำลังติดอาวุธเข้าเจรจา ท้ายสุดเตรียมคืนเงินรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 14 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นงานบำเพ็ญกุศลศพของนางหนูโพธิ์ พงศ์รักษ์ อายุ 99 ปี ที่เสียชีวิตลงด้วยความชราภาพ ซึ่งเป็นมารดาของนายทิน พงศ์รักษ์ อายุ 77 ปี ที่เป็นเจ้าภาพจัดการงานศพของมารดา ได้มีการจัดบำเพ็ญกุศลทุกคืน โดยในช่วงดึกจะมีการตั้งวงพนันโปปั่นเป็นเพื่อนเจ้าภาพตามประเพณีของชาวชนบท ท่ามกลางแขกเหรื่อจำนวนมาก
โดยในช่วงเกิดเหตุนั้น วงพนันได้มีนักเล่นกว่า 20 คน ร่วมวงแทงพนันกันอย่างสนุกสนาน ปรากฏว่า ได้มีชายฉกรรจ์ซึ่งอ้างตัวเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ สภ.ช้างกลาง จำนวน 4 คน ใช้รถยนต์กระบะอีซูซุ 4 ประตู ทะเบียน กง 4851 นครศรีธรรมราช โดยหนึ่งในจำนวน 4 นายมีอาวุธปืนยาวเอชเคมาด้วย 1 กระบอก และมีอีก 2 นาย ขับขี่รถจักรยานยนต์มาอีก 1 คัน โดย 1 ใน 2 นาย สวมเครื่องแบบสะพายอาวุธปืนยาวเอชเค 1 กระบอก
เข้ามาจู่โจมจับกุมนักพนันด้วยการล็อกคอ และสวมกุญแจมือชาวบ้านไว้ 4 คน และมี 2 นาย กวาดเอาเงินสดกลางวงที่เป็นของชาวบ้านจำนวนมากประมาณกว่า 160,000 บาท และรีบนำเงินวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์เร่งเครื่องออกจากที่เกิดเหตุทันที โดยทิ้งชายฉกรรจ์ที่อ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบไว้ 4 นาย ในที่เกิดเหตุที่พยายามจะนำชาวบ้านที่อยู่ในวงพนัน และถูกสวมกุญแจมือไว้แล้วพาออกไปขึ้นรถที่จอดอยู่
ขณะที่ชาวบ้านแสดงความไม่พอใจด้วยการนำรถยนต์มาขวางทางไม่ให้ออกไปจากที่เกิดเหตุ และฮือล้อมชายทั้ง 4 คนไว้ไม่ให้ออกไป โดยชาวบ้านระบุว่า จะต้องนำเงินที่ยึดหลบหนีไปมาแสดง และให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกสวมกุญแจมือไว้ทันที เนื่องจากได้บอกกล่าว และมีการดูแลเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพื้นที่ไว้แล้ว ซึ่งได้รับอนุญาตให้เล่นการพนันกันแบบสนุกสนานในงานศพได้ หลังจากนั้นไม่นาน ปรากฏว่า ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่จำนวนหลายสิบนาย พร้อมด้วยอาวุธปืนยาวครบมือ พร้อมด้วยรถยนต์สายตรวจ 191 เพื่อช่วยชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบออกจากที่เกิดเหตุ ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากยิ่งขึ้น จนมี พ.ต.ท.อรุณ อักษรนิตย์ รอง ผกก.ป. สภ.ช้างกลาง และนายภาณุมาศ สันติจิตโต อำเภอช้างกลาง ต้องเข้ามาเจรจาแก้ไขปัญหา
ญาติของเจ้าภาพรายหนึ่ง (สงวนชื่อ) เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะมีการเล่นการพนันกันในงานศพของนางหนูโพธิ์นั้น ได้แจ้งให้แก่ตำรวจระดับสูงของ สภ.ช้างกลาง ทราบแล้วว่าขอเล่นการพนันเพื่อความสนุกสนานตามประเพณีในงานศพเหมือนกับทุกๆ งาน และได้จ่ายเงินค่าดูแลไปแล้วเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท ซึ่งทางตำรวจได้อนุญาตให้เล่นได้
“แต่ได้มีชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ และมีในเครื่องแบบมาอีก 1 คนเข้ามาใช้พฤติกรรมที่ไม่ใช่การจับกุมธรรมดา มีการแบ่งหน้าที่กันทำคือ คนที่กวาดเอาเงินสดไปมากกว่า 160,000 บาท แล้วออกไปจากที่เกิดเหตุทันทีเหมือนกับการประสงค์ต่อเงินจำนวนนี้มากกว่า ส่วนอีก 4 คน ที่เหลือนั้นได้จับชาวบ้านใส่กุญแจมือ 4 คน ชาวบ้านที่เหลือจึงฮือล้อมไว้ไม่ให้ออกไปจากที่เกิดเหตุ จนมีตำรวจเข้ามาจำนวนมาก รวมทั้งนายอำเภอมาเจรจากับชาวบ้าน จนมีการปล่อยตัวชาวบ้านที่ถูกจับใส่กุญแจมือไว้ทั้ง 4 คน ไม่ได้ดำเนินคดี แต่เงินที่เอาหายไปนั้นไม่ยอมกลับมาคืนให้แก่ชาวบ้าน และทางนายอำเภอให้ชาวบ้านไปแจ้งความว่าตำรวจเอาเงินไป แล้วชาวบ้านจะแจ้งได้อย่างไร ในเมื่อตำรวจโรงพักนี้เป็นคนเอาไปแล้วจะได้เป็นธรรมจากไหน” ญาติเจ้าภาพรายนี้กล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.จรัส เจริญกุล ผกก.สภ.ช้างกลาง เจ้าของท้องที่เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ว่า ตำรวจเพียงไม่กี่คนเข้าไปในงานศพที่มีคนจำนวนมาก ตำรวจมีน้อยชาวบ้านจึงไม่พอใจล้อมตำรวจไว้ จนมีการปล่อยตัว ส่วนเรื่องเงินนั้นไม่แน่ใจว่ายอดจำนวนตรงกันหรือไม่ อาจจะไม่ถึง แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผมได้ลาพักผ่อนจนถึงสิ้นเดือนได้มอบให้ พ.ต.ท.อรุณ อักษรนิตย์ รอง ผกก.ป.เป็นผู้รักษาราชการแทนซึ่งได้โทรศัพท์มารายงานผมแล้ว และทราบว่าทางท่านนายอำเภอได้เข้าไปช่วยแก้ปัญหาด้วย
“ก่อนวันเกิดเหตุผมได้ไปร่วมงานศพด้วยที่งาน เขาแจ้งผมแล้วแต่ผมบอกว่าผมไม่อยู่ และในส่วนเรื่องเงินที่ถูกนำไปนั้น ผมขอตรวจสอบก่อนส่วนคดีนั้นยังไม่ได้เป็นคดีแต่อย่างใด” ผกก.สภ.ช้างกลางกล่าว
ด้านนายภาณุมาศ สันติจิตโต อำเภอช้างกลาง เปิดเผยว่า เบื้องต้นน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ได้เดินทางไปดูแลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ชี้แจงต่อชาวบ้านว่า หากตำรวจเป็นคนเอาเงินไปจริงให้แจ้งความดำเนินคดี แต่ล่าสุดนั้นทราบว่าตำรวจได้มาพูดคุยเจรจากับชาวบ้านแล้ว มาคุยกันเองคงเป็นเรื่องของตำรวจที่จะต้องแก้ปัญหา
พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมด ส่วนประเด็นของเงินนั้นกำลังตรวจสอบ เนื่องจากเป็นเรื่องที่สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก ผู้กำกับการหัวหน้าสถานีนั้นทราบว่าอยู่ในระหว่างลาพักผ่อนคงต้องขอเวลาในการดำเนินการตรงนี้
ส่วนความเคลื่อนไหวของผู้ที่เกี่ยวข้องในงานบำเพ็ญกุศลศพในที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า ยังไม่มีความคืบหน้า หรือการเข้ามาเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางฝ่ายผู้ที่เกี่ยวข้องกับเงินในวงพนันดังกล่าวนั้น ยืนยันว่ายังไม่ได้รับการประสานงานจากชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจที่เข้ามาพยายามจับกุม และพาเงินของกลางหายไป
