สุราษฎร์ธานี - กฟภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เผยความคืบหน้าวางสายเคเบิลใต้ทะเลขนาด 115 กิโลโวลต์ “ขนอม-เกาะสมุย” ระยะทาง 54 กม. มั่นใจเสร็จแน่ปลาย มี.ค.นี้ พร้อมทุ่มงบอีกกว่า 1 พันล้านบาท วางสายต่อไปยังเกาะพะงันเพื่อทำให้ระบบไฟฟ้ามีความเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น รองรับแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลก
นายศรชัย จาตุรนต์ลักษณ์ ผจก.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิด เผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์กระแสไฟฟ้าดับในพื้นที่ อ.เกาะสมุย อ.เกาะพะงัน และเกาะเต่า ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา สาเหตุเกิดจากสายส่งไฟฟ้าใต้ดินชำรุด จนทำให้การจ่ายกระแสไฟฟ้าเกิดดับไปหลายวัน ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ สถานที่ราชการ รวมถึงบ้านเรือนประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้ได้รับความเดือดร้อน พร้อมกันนั้น ทาง กฟภ.ได้ทำการซ่อมจุดที่สายเคเบิลไฟฟ้าได้เกิดปัญหาจนสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ
แต่เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าดับ กฟภ.ได้นำรถโมบายผลิตกระแสไฟฟ้า กระจายอยู่ตามจุดสำคัญต่างๆ รอบเกาะสมุย เพื่อทำการผลิตกระแสไฟฟ้าเสริมในช่วงที่มีการใช้กระแสไฟฟ้าในปริมาณมาก เพื่อให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ ขณะที่ในปัจจุบัน สามารถจ่ายไฟได้เพียง100 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้นำเครื่องกำเนิดไฟฟ้าติดตั้งเสริมเอาไว้ โดยได้ประมาณการว่า จะมีการใช้ไฟฟ้าประมาณ 115 เมกะวัตต์ ในช่วงที่มีการใช้ไฟฟ้ามาก
นายศรชัย กล่าวอีกว่า สำหรับในส่วนที่ กฟภ.ได้ทำการว่าจ้างบริษัทเอกชนทำการวางสายเคเบิลใต้ทะเลเส้นที่ 4 ขนาด 115 กิโลโวลต์ วงจรที่ 3 จากสถานีไฟฟ้าขนอมวางเคเบิลใต้น้ำตรงสู่สถานีบ้านแม่น้ำ อ.เกาะสมุย ระยะทางทั้งหมด 54 กิโลเมตร เพื่อสร้างเสถียรภาพด้านความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในอนาคต ขณะนี้การดำเนินงานมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 90% ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ หลังจากนั้นจะทำการจ่ายกระกระแสไฟซึ่งจะทำให้ไฟฟ้าของเกาะสมุย และเกาะพะงัน รวมถึงเกาะเต่ามีความเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
ด้านนายผดุง บรรจงศิลป์ รองผู้ว่าการสายจำหน่ายและบริการภาคใต้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เผยว่า การวางสายเคเบิลใต้น้ำ ระบบ115 เควี (วงจรที่ 3)จากอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช มายังอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นั้นไม่มีปัญหาต่อสภาพแวดล้อม ทั้งนี้ แนวโน้มการใช้ไฟฟ้าของเกาะสมุยในช่วงปี 2545-2555 เพิ่มขึ้นประมาณปีละ 10%โดยเกาะสมุย และเกาะพะงันมีความต้องการใช้ไฟฟ้าในปริมาณสูงสุด 100 เมกะวัตต์ ซึ่งโครงการดังกล่าวทำให้สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้ารองรับความต้องการของประชาชนได้ถึง 230 เมกะวัตต์ ซึ่งมั่นใจว่าการจ่ายกระแสไฟฟ้าจะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และโครงการดังกล่าว กฟภ. ได้ลงทุนไปกว่า 4,000 ล้านบาท โดยจะแล้วเสร็จและสามารถจ่ายกระแสไฟได้ประมาณเดือนมีนาคมนี้แน่นอน และ กฟภ.มีโครงการเดินสายเคเบิลใต้น้ำระบบ 115 กิโลโวลต์ (เควี) ไปยังเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วย โดยใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ดำเนินการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้าง
ด้าน นายภานุ วรมิตร ผอ.ททท.สนง.จ.สุราษฎร์ธานี เผยว่า ในช่วงไฮซีซันกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวก็ประสบปัญหาไฟไม่พออยู่แล้ว เนื่องจากมีการใช้ไฟจำนวนมาก ทำให้ต้องมีการปั่นไฟไว้ใช้เอง ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางเข้าเกาะสมุย และเกาะพะงัน ประมาณ 1.5-1.8 ล้านคนต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ส่วนประชากรแฝงที่เข้ามาทำงานมีประมาณนับแสนคน ซึ่งจะต้องมีการสร้างภาพลักษณ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจด้วยว่าเกาะสมุย และพะงันมีไฟฟ้าเส้นใหม่ และจะทำให้ระบบไฟฟ้ามีความเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นจะส่งผลด้านภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวในด้านบวกในสายตาของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติมากยิ่งขึ้นด้วย เนื่องจากเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่านั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญสวยงามติดอันดับโลก
นายศรชัย จาตุรนต์ลักษณ์ ผจก.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิด เผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์กระแสไฟฟ้าดับในพื้นที่ อ.เกาะสมุย อ.เกาะพะงัน และเกาะเต่า ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา สาเหตุเกิดจากสายส่งไฟฟ้าใต้ดินชำรุด จนทำให้การจ่ายกระแสไฟฟ้าเกิดดับไปหลายวัน ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ สถานที่ราชการ รวมถึงบ้านเรือนประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้ได้รับความเดือดร้อน พร้อมกันนั้น ทาง กฟภ.ได้ทำการซ่อมจุดที่สายเคเบิลไฟฟ้าได้เกิดปัญหาจนสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ
แต่เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าดับ กฟภ.ได้นำรถโมบายผลิตกระแสไฟฟ้า กระจายอยู่ตามจุดสำคัญต่างๆ รอบเกาะสมุย เพื่อทำการผลิตกระแสไฟฟ้าเสริมในช่วงที่มีการใช้กระแสไฟฟ้าในปริมาณมาก เพื่อให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ ขณะที่ในปัจจุบัน สามารถจ่ายไฟได้เพียง100 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้นำเครื่องกำเนิดไฟฟ้าติดตั้งเสริมเอาไว้ โดยได้ประมาณการว่า จะมีการใช้ไฟฟ้าประมาณ 115 เมกะวัตต์ ในช่วงที่มีการใช้ไฟฟ้ามาก
นายศรชัย กล่าวอีกว่า สำหรับในส่วนที่ กฟภ.ได้ทำการว่าจ้างบริษัทเอกชนทำการวางสายเคเบิลใต้ทะเลเส้นที่ 4 ขนาด 115 กิโลโวลต์ วงจรที่ 3 จากสถานีไฟฟ้าขนอมวางเคเบิลใต้น้ำตรงสู่สถานีบ้านแม่น้ำ อ.เกาะสมุย ระยะทางทั้งหมด 54 กิโลเมตร เพื่อสร้างเสถียรภาพด้านความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในอนาคต ขณะนี้การดำเนินงานมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 90% ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ หลังจากนั้นจะทำการจ่ายกระกระแสไฟซึ่งจะทำให้ไฟฟ้าของเกาะสมุย และเกาะพะงัน รวมถึงเกาะเต่ามีความเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
ด้านนายผดุง บรรจงศิลป์ รองผู้ว่าการสายจำหน่ายและบริการภาคใต้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เผยว่า การวางสายเคเบิลใต้น้ำ ระบบ115 เควี (วงจรที่ 3)จากอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช มายังอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นั้นไม่มีปัญหาต่อสภาพแวดล้อม ทั้งนี้ แนวโน้มการใช้ไฟฟ้าของเกาะสมุยในช่วงปี 2545-2555 เพิ่มขึ้นประมาณปีละ 10%โดยเกาะสมุย และเกาะพะงันมีความต้องการใช้ไฟฟ้าในปริมาณสูงสุด 100 เมกะวัตต์ ซึ่งโครงการดังกล่าวทำให้สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้ารองรับความต้องการของประชาชนได้ถึง 230 เมกะวัตต์ ซึ่งมั่นใจว่าการจ่ายกระแสไฟฟ้าจะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และโครงการดังกล่าว กฟภ. ได้ลงทุนไปกว่า 4,000 ล้านบาท โดยจะแล้วเสร็จและสามารถจ่ายกระแสไฟได้ประมาณเดือนมีนาคมนี้แน่นอน และ กฟภ.มีโครงการเดินสายเคเบิลใต้น้ำระบบ 115 กิโลโวลต์ (เควี) ไปยังเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วย โดยใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ดำเนินการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้าง
ด้าน นายภานุ วรมิตร ผอ.ททท.สนง.จ.สุราษฎร์ธานี เผยว่า ในช่วงไฮซีซันกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวก็ประสบปัญหาไฟไม่พออยู่แล้ว เนื่องจากมีการใช้ไฟจำนวนมาก ทำให้ต้องมีการปั่นไฟไว้ใช้เอง ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางเข้าเกาะสมุย และเกาะพะงัน ประมาณ 1.5-1.8 ล้านคนต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ส่วนประชากรแฝงที่เข้ามาทำงานมีประมาณนับแสนคน ซึ่งจะต้องมีการสร้างภาพลักษณ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจด้วยว่าเกาะสมุย และพะงันมีไฟฟ้าเส้นใหม่ และจะทำให้ระบบไฟฟ้ามีความเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นจะส่งผลด้านภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวในด้านบวกในสายตาของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติมากยิ่งขึ้นด้วย เนื่องจากเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่านั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญสวยงามติดอันดับโลก