ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ปปง.ยึดปอเนาะ “ญีฮาด” หวั่นน้ำผึ้งหยดเดียวชายแดนใต้ แยกบุคคลกับสถาบัน “พีรยศ” แนะรัฐบาลศึกษาประวัติศาสตร์สมัย “สฤษดิ์”
วันนี้ (11 ก.พ.) นายพีรยศ ลาฮิมมูลา ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนเป็นห่วงการแก้ปัญหาสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังถอยหลังเข้าคลองอีกครั้งหนึ่ง เหมือนกับการพายเรือในอ่าง จากกรณีที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยึดปอเนาะญีฮาด อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เพราะกำลังกระทบจิตใจของประชาชนนับถือศาสนาอิสลาม และปอเนาะอีก 400 แห่ง ขอให้แยกบุคคลกับสถาบันออกจากกัน หากบุคคลทำผิดก็ดำเนินคดี แต่อาคาร และที่ดินไม่ได้ทำผิดก็ไม่ควรจะยึดเพราะเป็นหัวใจของประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม และขอให้ศึกษาประวัติศาสตร์ของสถานการณ์จังหวัดชายแดนใต้สมัยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่มีการก่อตั้งขบวนการบีอาร์เอ็นขึ้นต่อสู้กับอำนาจรัฐจนมาถึงปัจจุบัน มาจากการยึดสถาบันปอเนาะนี่เอง เพราะจะมีการแก้แค้นเกิดขึ้นจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง
นายเจ๊ะอาหมิง โต๊ะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนเชื่อว่าสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้จะรุนแรงขึ้นอีก โดยมีชนวนของการที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยึดปอเนาะญีฮาด ขอให้คิด และวิเคราะห์แยกสถาบันกับบุคคลออกจากกัน เมื่อบุคคลที่อยู่ในปอเนาะทำผิดก็ดำเนินการไปตามกฎหมาย แต่สถาบันปอเนาะซึ่งเป็นสถาบันทางศาสนาอิสลามไม่ควรเข้าไปยึดอายัดไว้ เพราะส่งผลกระทบต่อจิตใจประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามส่วนใหญ่ คิดว่ารัฐบาลกำลังสร้างเงื่อนไขแห่งสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นมาใหม่
“นโยบายการประกาศใช้เคอร์ฟิวในพื้นที่ที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ วิถีชีวิต และจิตใจของประชาชนผู้บริสุทธิ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กำลังจะกลายเป็นเหยื่ออันโอชะของฝ่ายตรงข้าม นำไปเป็นข้ออ้างขยายผลในการปลุกระดมให้เกลียดชังรัฐ สะท้อนให้เห็นว่านโยบายรัฐบาลถอยหลังเข้าคลองไม่สามารถจะครบคุมสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นได้ จึงใช้ยาแรง เพราะบางครั้งการออกกฎหมายของรัฐจะเป็นช่องทางในการนำไปขยายผลในการปลุกระดมมวลชน ฝากไปยังรัฐบาลว่าในการคิดกรอบแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ คิดในกรอบการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ให้รอบคอบ อยู่บนฐานข้อมูลแห่งความเป็นจริง และการแก้ปัญหาอย่าแก้โดยผ่านทางสื่อสาธารณะ เมื่อผิดพลาดแก้ไขได้ยาก” นายเจ๊ะอาหมิงกล่าว
วันนี้ (11 ก.พ.) นายพีรยศ ลาฮิมมูลา ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนเป็นห่วงการแก้ปัญหาสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังถอยหลังเข้าคลองอีกครั้งหนึ่ง เหมือนกับการพายเรือในอ่าง จากกรณีที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยึดปอเนาะญีฮาด อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เพราะกำลังกระทบจิตใจของประชาชนนับถือศาสนาอิสลาม และปอเนาะอีก 400 แห่ง ขอให้แยกบุคคลกับสถาบันออกจากกัน หากบุคคลทำผิดก็ดำเนินคดี แต่อาคาร และที่ดินไม่ได้ทำผิดก็ไม่ควรจะยึดเพราะเป็นหัวใจของประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม และขอให้ศึกษาประวัติศาสตร์ของสถานการณ์จังหวัดชายแดนใต้สมัยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่มีการก่อตั้งขบวนการบีอาร์เอ็นขึ้นต่อสู้กับอำนาจรัฐจนมาถึงปัจจุบัน มาจากการยึดสถาบันปอเนาะนี่เอง เพราะจะมีการแก้แค้นเกิดขึ้นจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง
นายเจ๊ะอาหมิง โต๊ะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนเชื่อว่าสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้จะรุนแรงขึ้นอีก โดยมีชนวนของการที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยึดปอเนาะญีฮาด ขอให้คิด และวิเคราะห์แยกสถาบันกับบุคคลออกจากกัน เมื่อบุคคลที่อยู่ในปอเนาะทำผิดก็ดำเนินการไปตามกฎหมาย แต่สถาบันปอเนาะซึ่งเป็นสถาบันทางศาสนาอิสลามไม่ควรเข้าไปยึดอายัดไว้ เพราะส่งผลกระทบต่อจิตใจประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามส่วนใหญ่ คิดว่ารัฐบาลกำลังสร้างเงื่อนไขแห่งสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นมาใหม่
“นโยบายการประกาศใช้เคอร์ฟิวในพื้นที่ที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ วิถีชีวิต และจิตใจของประชาชนผู้บริสุทธิ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กำลังจะกลายเป็นเหยื่ออันโอชะของฝ่ายตรงข้าม นำไปเป็นข้ออ้างขยายผลในการปลุกระดมให้เกลียดชังรัฐ สะท้อนให้เห็นว่านโยบายรัฐบาลถอยหลังเข้าคลองไม่สามารถจะครบคุมสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นได้ จึงใช้ยาแรง เพราะบางครั้งการออกกฎหมายของรัฐจะเป็นช่องทางในการนำไปขยายผลในการปลุกระดมมวลชน ฝากไปยังรัฐบาลว่าในการคิดกรอบแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ คิดในกรอบการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ให้รอบคอบ อยู่บนฐานข้อมูลแห่งความเป็นจริง และการแก้ปัญหาอย่าแก้โดยผ่านทางสื่อสาธารณะ เมื่อผิดพลาดแก้ไขได้ยาก” นายเจ๊ะอาหมิงกล่าว