ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจ สภ.ถลาง บุกทลายแหล่งขายใบกระท่อมรายใหญ่เขตพื้นที่ถลาง จ.ภูเก็ต ตะลึงพบต้นกระท่อมปลูกไว้กลางสวนผลไม้เกือบ 20 ต้น จำหน่ายให้วัยรุ่นในพื้นที่ผสมยาเสพติดสูตรสี่คูณร้อย กิโลกรัมละ 600 บาท
วันนี้ (8 ก.พ.) พ.ต.ท.อำนวย ไกรวุฒิอนันต์ รอง ผกก.สภ.ถลาง พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิสิษฐ์ ชื่นเพ็ชร รอง ผกก.สภ.ถลาง พ.ต.ท.วิวัฒน์ ชำนาญกิจ สวป.สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบประมาณ 20 นาย พร้อมหมายศาลจังหวัดภูเก็ต บุกทลายแหล่งขายใบกระท่อมรายใหญ่ในพื้นที่อำเภอถลาง จ.ภูเก็ต ที่บ้านเลขที่ 45 ม.2 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
จากการตรวจสอบภายในบ้าน พบใบกระท่อมอยู่ในถุงพลาสติก จำนวน 2 ถุงใหญ่ และเครื่องชั่ง พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาว 2 กระบอก กระสุนอีกจำนวนมาก เมื่อตรวจค้นที่บริเวณสวนหลังบ้าน พบต้นกระท่อมประมาณ 20 ต้น แตกกิ่งออกใบสวยงามปลูกอยู่กลางร่องสวนผลไม้ มีเครื่องปั๊มน้ำพร้อมสายยางที่ใช้สำหรับรดน้ำ และใส่ปุ๋ยทุกวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมนายตัวนายนที เทียนทอง อายุ 50 ปี เจ้าของบ้าน และเจ้าของต้นกระท่อมดังกล่าวดำเนินคดี ในข้อหามียาเสพติดประเภท 5 (กระท่อม)ไว้เสพ และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และทำการโค่นต้นกระท่อมทั้งหมดนำไปเป็นของกลางดำเนินคดีต่อไป
สอบสวนนายนที เทียนทอง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นเจ้าของต้นกระท่อมนั้นจริง และปลูกมาตั้งแต่สมัยพ่อจนมาถึงตน และเห็นว่าใบกระท่อมขายได้ดี และราคาไม่เคยตก ซึ่งปัจจุบัน ขายกิโลละ 600 บาท ไม่แบ่งขาย ในแต่ละวันจะมีผู้ค้า และผู้เสพเข้ามาซื้อเป็นจำนวนมาก
ด้าน พ.ต.ท.อำนวย ไกรวุฒิอนันต์ รอง ผกก.สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากประชาชนว่า ที่บ้านหลังดังกล่าวมีการขายใบกระท่อม และมีผู้เสพทั้งวัยรุ่น และบุคคลทั่วไปขับรถจักรยานยนต์ รถยนต์ มาชื้อเป็นจำนวนมากตลอดทั้งวันทั้งคืน สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากลูกหลานมั่วสุมติดยาเสพติดสูตรสี่คูณร้อย จนไม่ไปเรียนหนังสือ
จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกทำการสืบสวนจนแน่ชัดว่า นายนที เป็นคนขายใบกระท่อมจริง ได้ขอหมายศาลจังหวัดภูเก็ตเข้าทำการตรวจค้น พบใบกระท่อมที่บรรจุถุงอยู่ภายในบ้าน จำนวน 2 ถุงใหญ่ และที่ปลูกไว้กลางสวนผลไม้หลังบ้านเกือบ 20 ต้น เพื่อขายให้ผู้เสพนำไปผสมสูตรสี่คูณร้อย และจากการตรวจดูลำต้นคาดว่าจะมีการเก็บขายเป็นประจำ และทำมานานแล้ว
