ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พบกากของเสียสีดำกระจายเกลื่อนชายหาดอ่าวไทยบริเวณ ต.ท่าบอน อ.ระโนด ซึ่งเป็นพื้นที่เลี้ยงกุ้งแหล่งใหญ่ของ จ.สงขลา ผู้เลี้ยงกุ้งหวั่นน้ำทะเลเป็นพิษ เตรียมยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ สงขลา จี้ตรวจสอบ และหาแนวทางแก้ไข
จากกรณีพบกากของเสียสีดำคล้ายก้อนน้ำมันดิบถูกคลื่นซัดขึ้นมาอยู่บนชายหาดทะเลอ่าวไทย บริเวณพื้นที่ อ.ระโนด จ.สงขลา เป็นจำนวนมาก ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ซึ่งเมื่อโดนแสงแดดร้อนจะละลายเป็นของเหลวข้นคล้ายน้ำมันเครื่อง ติดมือติดเท้าไม่สามารถล้างออกด้วยน้ำเปล่าได้ จะต้องใช้น้ำมันล้างจึงจะล้างออก ทั้งนี้ สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากการขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยบริเวณชายฝั่ง อ.สทิงพระ จ.สงขลา โดยถูกคลื่นซัดขึ้นมาบนชายหาดชายฝั่ง จ.สงขลา และสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่อยู่บริเวณชายฝั่ง
ล่าสุด วันนี้ (5 ก.พ.) พบว่า กากของเสียดังกล่าวได้ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเต็มพื้นที่ชายหาดหมู่ 4 บ้านท่าบอน อ.ระโนด จ.สงขลา ทั้งนี้ ชาวบ้านเกรงว่าจะสร้างมลพิษ และทำลายสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการเลี้ยงกุ้ง เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งเลี้ยงกุ้งที่ใหญ่ที่สุดใน จ.สงขลา โดยเกรงว่ากากของเสียจะทำให้น้ำทะเลเป็นพิษ เมื่อสูบน้ำเข้าบ่อกุ้งกากของเสียอาจจะถูกดูดติดเข้าไปกับน้ำจะทำให้กุ้งตายได้
ในเบื้องต้น นายกาจบัณฑิต รามมาก ประธานชมรมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง จ.สงขลา จะมายื่นหนังสือต่อนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยประสานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบมาทำการตรวจสอบ และหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนต่อไป
สำหรับกากของเสียสีดำคล้ายก้อนน้ำมันดิบที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาอยู่บนชายหาดทะเลอ่าวไทยนี้ เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.พ.2553 ครั้งหนึ่งแล้ว กากของเสียสีดำคล้ายก้อนน้ำมันดิบแบบเดียวกันนี้ถูกคลื่นซัดขึ้นมาตลอดแนวชายฝั่งของจังหวัดสงขลาเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ อ.ระโนด ลงไปจนถึง อ.เมืองสงขลา และนายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในขณะนั้น ได้ให้ชาวบ้านที่อยู่ริมชายทะเลช่วยกันเก็บเพื่อทำความสะอาดชายหาด โดยรับซื้อใน กก.ละ 10 บาท นำไปทำการฝังกลบทั้งหมด โดยใช้งบบริจาคจากบริษัทขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยมาทำการจัดซื้อ
ส่วนในปี 2554 และ 2555 ไม่มีกากของเสียสีดำคล้ายก้อนน้ำมันดิบเกิดขึ้นบริเวณชายฝั่ง และในปี 2556 หลังจากที่มีคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่งหลายระลอก ทำให้คลื่นซัดกากของเสียสีดำคล้ายก้อนน้ำมันดิบมาขึ้นฝั่งอีกครั้งหนึ่ง