ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พบคุณลุงวัย 64 ปี มีจิตอาสา และเสียสละความสุขส่วนตัว ออกทำความสะอาดถนน และปลูกต้นไม้ทุกวันมา 20 ปี โดยไม่ได้รับค่าตอบแทน เผยต้องการทำความดีถวาย “ในหลวง” และจะทำจนลมหายใจสุดท้าย แม้บางครั้งจะถูกมองว่าบ้า
วันนี้ (4 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบชายสูงอายุวัย 64 ปี ที่ชาวบ้านต่างเลื่องลือในความมีน้ำใจ และจิตอาสาชอบทำงานเพื่อส่วนรวม โดยเฉพาะการออกทำความสะอาดถนน และปลูกต้นไม้ทั้งในหมู่บ้านของตัวเอง และตำบลใกล้เคียงทุกวันต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา 20 ปี
โดยชายสูงอายุรายนี้คือ นายจิตร สุวรรณชาตรี อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/1 หมู่ 5 บ้านหาร ต.บ้านหาร อ.บางกล่ำ จ.สงขลา หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า หลวงจิตร คุณลุงจิตอาสาที่เสียสละความสุขส่วนตัวออกทำความสะอาดถนน ทั้งโกยดินริมทาง ถางหญ้าที่รกร้าง และปลูกต้นไม้ ทุกวันติดต่อกันมากว่า 20 ปี โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ และบางครั้งถูกมองว่าบ้า เพราะแทนที่จะไปทำงานส่วนตัวแต่กลับมาเสียเวลากับเรื่องที่ผู้คนมองข้าม และไม่มีใครสนใจ
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามข้อเท็จจริง และเรื่องราวชีวิตของ คุณลุงจิตร ที่บ้านพักเลขที่ 35/1 หมู่ 5 บ้านหาร ต.บ้านหาร อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ซึ่งพบว่า ยังมีสุขภาพ และร่างกายที่แข็งแรง และร่าเริงยิ้มแย้มแจ่มใสแตกต่างจากชายสูงอายุทั่วๆ ไป
คุณลุงจิตร บอกว่า ในทุกวันจะใช้เวลาช่วงเช้าตั้งแต่ 7 โมงเช้า จนถึงเที่ยง ขับรถกระบะสภาพเก่าคู่ชีพบรรทุกเครื่องมือทั้งจอบ เสียม คราด มีดพร้า และบุ้งกี๋ออกตระเวนทำความสะอาดถนนทั้งในหมู่บ้านของตัวเอง และในตำบลใกล้เคียง เช่น ต.ท่าช้าง ต.บางกล่ำ อ.บางกล่ำ และ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ ซึ่งมีเส้นทางเชื่อมต่อกัน
หากพบว่าจุดไหนที่มีดิน และหญ้าขึ้นมากลบบนไหล่ทาง หรือบนสะพานก็จะลงมือใช้จอบเสียมโกย และตัดออกเพื่อให้โล่งเตียน ส่วนเศษดิน และหญ้าก็ไม่ทิ้งให้เกะกะนำใส่รถไปใช้เป็นปุ๋ยในสวนของตัวเอง รวมทั้งยังปลูกต้นไม้ซึ่งเน้นไม้ผล และพืชสวนครัว เช่น มะม่วงหิมพานต์ ตะไคร้ กล้วย และมะม่วง ไว้บริเวณริมถนนที่ว่างเปล่าไม่กีดขวางการจราจรจนให้ผลผลิต ชาวบ้าน และประชาชนที่ขับรถผ่านไปมาได้เก็บกิน หรือนำไปใช้ในงานบุญต่างๆ แต่มีข้อแม้หากจะเก็บต้องเก็บไปเผื่อคนอื่นด้วย
คุณลุงจิตร บอกว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่ลงแรงทำความสะอาดถนน และปลูกต้นไม้ ไม่เคยเรียกร้อง หรือได้รับค่าตอบแทนจากหน่วยงานใด เพียงเพื่อต้องการให้ชาวบ้านได้รับความสะดวกสบายจากการสัญจรไปมา สิ่งตอบแทนคือ คำขอบคุณ และรอยยิ้มจากผู้คนที่ผ่านไปมา ทั้งที่รู้จัก และไม่รู้จักเพียงเท่านี้ก็มีความสุข แม้ว่าบางครั้งจะถูกมองว่าบ้าก็ตาม แต่ตรงกันข้ามกับชีวิตในวันนี้ที่รู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้ออกไปทำงานเพื่อส่วนรวม แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ ที่ทุกคนมองข้าม และไม่ใช่หน้าที่เพราะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่แล้ว แต่สำหรับตนเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพราะหากตนไม่ทำก็ไม่มีใครทำ
คุณลุงจิตร ยังบอกอีกว่า สำหรับเวลาว่างในช่วงเย็น ก็จะทำงานเย็บผ้า และเปิดร้านขายของชำเล็กๆ น้อยๆ หรือออกไปทำสวนบ้าง ชีวิตพอมีพอกิน ไม่มีรายจ่ายฟุ่มเฟือย เพราะไม่ดื่มเหล้า หรือสูบบุหรี่บางวันแทบไม่ต้องใช้เงิน ครอบครัวมีความสุข เพราะลูกเมียเข้าใจ และจะทำต่อไปจนกว่าลมหายใจสุดท้ายของชีวิต โดยสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และทำให้ไม่ท้อนั่นคือ การทำความดีเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ที่พระองค์ทรงตรากตรำงานหนักกว่าตนหลายเท่า และทำให้หายเหนื่อย และมีกำลังใจทุกครั้งที่นึกถึงพระองค์ท่าน
วันนี้ (4 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบชายสูงอายุวัย 64 ปี ที่ชาวบ้านต่างเลื่องลือในความมีน้ำใจ และจิตอาสาชอบทำงานเพื่อส่วนรวม โดยเฉพาะการออกทำความสะอาดถนน และปลูกต้นไม้ทั้งในหมู่บ้านของตัวเอง และตำบลใกล้เคียงทุกวันต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา 20 ปี
โดยชายสูงอายุรายนี้คือ นายจิตร สุวรรณชาตรี อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/1 หมู่ 5 บ้านหาร ต.บ้านหาร อ.บางกล่ำ จ.สงขลา หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า หลวงจิตร คุณลุงจิตอาสาที่เสียสละความสุขส่วนตัวออกทำความสะอาดถนน ทั้งโกยดินริมทาง ถางหญ้าที่รกร้าง และปลูกต้นไม้ ทุกวันติดต่อกันมากว่า 20 ปี โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ และบางครั้งถูกมองว่าบ้า เพราะแทนที่จะไปทำงานส่วนตัวแต่กลับมาเสียเวลากับเรื่องที่ผู้คนมองข้าม และไม่มีใครสนใจ
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามข้อเท็จจริง และเรื่องราวชีวิตของ คุณลุงจิตร ที่บ้านพักเลขที่ 35/1 หมู่ 5 บ้านหาร ต.บ้านหาร อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ซึ่งพบว่า ยังมีสุขภาพ และร่างกายที่แข็งแรง และร่าเริงยิ้มแย้มแจ่มใสแตกต่างจากชายสูงอายุทั่วๆ ไป
คุณลุงจิตร บอกว่า ในทุกวันจะใช้เวลาช่วงเช้าตั้งแต่ 7 โมงเช้า จนถึงเที่ยง ขับรถกระบะสภาพเก่าคู่ชีพบรรทุกเครื่องมือทั้งจอบ เสียม คราด มีดพร้า และบุ้งกี๋ออกตระเวนทำความสะอาดถนนทั้งในหมู่บ้านของตัวเอง และในตำบลใกล้เคียง เช่น ต.ท่าช้าง ต.บางกล่ำ อ.บางกล่ำ และ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ ซึ่งมีเส้นทางเชื่อมต่อกัน
หากพบว่าจุดไหนที่มีดิน และหญ้าขึ้นมากลบบนไหล่ทาง หรือบนสะพานก็จะลงมือใช้จอบเสียมโกย และตัดออกเพื่อให้โล่งเตียน ส่วนเศษดิน และหญ้าก็ไม่ทิ้งให้เกะกะนำใส่รถไปใช้เป็นปุ๋ยในสวนของตัวเอง รวมทั้งยังปลูกต้นไม้ซึ่งเน้นไม้ผล และพืชสวนครัว เช่น มะม่วงหิมพานต์ ตะไคร้ กล้วย และมะม่วง ไว้บริเวณริมถนนที่ว่างเปล่าไม่กีดขวางการจราจรจนให้ผลผลิต ชาวบ้าน และประชาชนที่ขับรถผ่านไปมาได้เก็บกิน หรือนำไปใช้ในงานบุญต่างๆ แต่มีข้อแม้หากจะเก็บต้องเก็บไปเผื่อคนอื่นด้วย
คุณลุงจิตร บอกว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่ลงแรงทำความสะอาดถนน และปลูกต้นไม้ ไม่เคยเรียกร้อง หรือได้รับค่าตอบแทนจากหน่วยงานใด เพียงเพื่อต้องการให้ชาวบ้านได้รับความสะดวกสบายจากการสัญจรไปมา สิ่งตอบแทนคือ คำขอบคุณ และรอยยิ้มจากผู้คนที่ผ่านไปมา ทั้งที่รู้จัก และไม่รู้จักเพียงเท่านี้ก็มีความสุข แม้ว่าบางครั้งจะถูกมองว่าบ้าก็ตาม แต่ตรงกันข้ามกับชีวิตในวันนี้ที่รู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้ออกไปทำงานเพื่อส่วนรวม แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ ที่ทุกคนมองข้าม และไม่ใช่หน้าที่เพราะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่แล้ว แต่สำหรับตนเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพราะหากตนไม่ทำก็ไม่มีใครทำ
คุณลุงจิตร ยังบอกอีกว่า สำหรับเวลาว่างในช่วงเย็น ก็จะทำงานเย็บผ้า และเปิดร้านขายของชำเล็กๆ น้อยๆ หรือออกไปทำสวนบ้าง ชีวิตพอมีพอกิน ไม่มีรายจ่ายฟุ่มเฟือย เพราะไม่ดื่มเหล้า หรือสูบบุหรี่บางวันแทบไม่ต้องใช้เงิน ครอบครัวมีความสุข เพราะลูกเมียเข้าใจ และจะทำต่อไปจนกว่าลมหายใจสุดท้ายของชีวิต โดยสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และทำให้ไม่ท้อนั่นคือ การทำความดีเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ที่พระองค์ทรงตรากตรำงานหนักกว่าตนหลายเท่า และทำให้หายเหนื่อย และมีกำลังใจทุกครั้งที่นึกถึงพระองค์ท่าน