ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรวจทุจริตก่อสร้างโรงพัก-แฟลตตำรวจ เผยที่ภูเก็ตไม่อยู่ในข่ายความรับผิดชอบของกองบังคับการตำรวจภูธร แต่เป็นการดำเนินการของฝ่ายการเมืองที่เปิดประมูลครั้งเดียวทั้งหมด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (1 ก.พ.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมด้วย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่ เพื่อสอบถามข้อมูล และความเดือดร้อน กรณีการก่อสร้างโรงพักทดแทน และแฟลตตำรวจที่ยังไม่แล้วเสร็จ จนมีข่าวอื้อฉาวว่าส่อไปในทางทุจริต
โดยคณะที่ลงพื้นที่ในครั้งนี้มีกำหนดลงตรวจสอบโครงการก่อสร้างที่พักอาศัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ (แฟลต) จำนวน 163 แห่งทั่วประเทศ ที่มีการยื่นให้ทางดีเอสไอทำการตรวจสอบเพิ่มเติมจากสถานีตำรวจ ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นมีทั้งหมด 3 แห่ง คือ แฟลตที่พักอาศัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งทอง สภ.กะทู้ และ สภ.ถลาง รวมถึงในช่วงบ่ายจะเดินทางไปยัง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา และ สภ.กระบี่ จ.กระบี่ อีกด้วย
แฟลตดังกล่าวใช้งบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง วงเงินประมาณหลังละ 22 ล้านบาท เป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 3,709,880,000 บาท โดยมีบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้รับจ้างทำการก่อสร้าง และปัจจุบันยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ และเป็นบริษัทฯ เดียวกันกับที่ได้เป็นคู่สัญญาในการก่อสร้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน)
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า การเดินทางลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในครั้งนี้ สืบเนื่องจากตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนถึงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง วงเงิน 6,672,000,000 บาท ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นหน่วยงานหนึ่งที่เข้าไปตรวจสอบในโครงการดังกล่าว เนื่องจาก นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ได้มีหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษขอให้ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวด้วย
ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต เท่าที่ตรวจสอบพบว่าปัญหาโครงการโรงพักทดแทนและแฟลตตำรวจ ไม่ได้อยู่ในความรับชอบของ ภ.จว.ภูเก็ต เป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองเป็นผู้ดูแล ไม่ใช่เรื่องที่ฝ่ายข้าราชการประจำเป็นผู้ดูแล โดยมีการให้บริษัทเดียวเข้ามาประมูลงานโดยไม่มีการรับเหมาช่วง จึงทำให้งานไม่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในส่วนของแฟลตตำรวจที่ภูเก็ต ได้รับการร้องเรียนมากจากข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย เนื่องจากภูเก็ตเป็นจังหวัดหนึ่งที่ค่าครองชีพสูง แทนที่จะก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญาในปี 2554 มาถึงปัจจุบัน 2556 ยังไม่แล้วเสร็จ และมีการต่อสัญญาไปถึง 3 ครั้ง หรือขยายเวลาออกไปมากกว่า 2 ปี ถึง 721 วัน
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นการปล้นโรงพัก และแฟลตตำรวจ และต้องมีไอ้โม่งอยู่เบื้องหลัง เป็นเรื่องของฝ่ายบริหารในอดีต และถือเป็นมรดกบาปของ สตช. เท่าที่ตรวจสอบไม่มีที่ใดสร้างแล้วเสร็จ และพบว่าส่อไปในทางทุจริตค่อนข้างชัดเจน