สุราษฎร์ธานี - อบจ.15 จังหวัดประชุมลงนามความร่วมมือ หรือ MOU เพื่อจัดเก็บภาษีน้ำมันในท้องถิ่น
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ ร่วมประชุมสมาพันธ์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคใต้ ที่โรงแรมวังใต้ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีนายพิชัย บุญเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะประธานสมาพันธ์ อบจ.ภาคใต้ เป็นประธานการประชุม โดยมีการติดตามความคืบหน้าการจัดเก็บภาษีน้ำมันจากคลังน้ำมันที่ อบจ.ในจังหวัดภาคใต้ได้ร่วมลงนามความร่วมมือ หรือ MOU เพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีน้ำมันได้ตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย ทั้งนี้ เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาการจัดเก็บภาษีน้ำมันจากผู้ค้าปลีกประสบปัญหาหลายประการ ส่งผลให้ อบจ.ไม่สามารถเก็บภาษีน้ำมันได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการส่งเจ้าหน้าที่ออกไปเก็บภาษีน้ำมันตามปั๊มต่างๆ มีสูง ทางสมาพันธ์ อบจ.ภาคใต้จึงได้ร่วมกันแก้ไขข้อบัญญัติของทุก อบจ.เพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีน้ำมันจากคลังน้ำมันได้
นายมนตรี เพชรขุ้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้มีเพียง 4 จังหวัดที่มีคลังน้ำมัน ประกอบด้วย สุราษฎร์ธานี ชุมพร สงขลา และภูเก็ต โดยจังหวัดที่มีคลังน้ำมันจะดำเนินการเก็บภาษีแทนจังหวัดที่ไม่มีคลังน้ำมัน และนำส่งเงินภาษีที่เก็บได้ไปให้จังหวัดที่เป็นผู้ใช้น้ำมันต่อไป สำหรับการจัดเก็บภาษีน้ำมัน กฎหมายระบุไว้ให้ อบจ.เก็บได้ไม่เกินร้อยละ 10 สตางค์ ซึ่งที่ประชุมมีมติเก็บในอัตรา 5 สตางค์ต่อลิตร โดยทั้ง 14 อบจ.จะดำเนินการออกข้อบัญญัติให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ และดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ต่อไป
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ ร่วมประชุมสมาพันธ์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคใต้ ที่โรงแรมวังใต้ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีนายพิชัย บุญเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะประธานสมาพันธ์ อบจ.ภาคใต้ เป็นประธานการประชุม โดยมีการติดตามความคืบหน้าการจัดเก็บภาษีน้ำมันจากคลังน้ำมันที่ อบจ.ในจังหวัดภาคใต้ได้ร่วมลงนามความร่วมมือ หรือ MOU เพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีน้ำมันได้ตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย ทั้งนี้ เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาการจัดเก็บภาษีน้ำมันจากผู้ค้าปลีกประสบปัญหาหลายประการ ส่งผลให้ อบจ.ไม่สามารถเก็บภาษีน้ำมันได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการส่งเจ้าหน้าที่ออกไปเก็บภาษีน้ำมันตามปั๊มต่างๆ มีสูง ทางสมาพันธ์ อบจ.ภาคใต้จึงได้ร่วมกันแก้ไขข้อบัญญัติของทุก อบจ.เพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีน้ำมันจากคลังน้ำมันได้
นายมนตรี เพชรขุ้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้มีเพียง 4 จังหวัดที่มีคลังน้ำมัน ประกอบด้วย สุราษฎร์ธานี ชุมพร สงขลา และภูเก็ต โดยจังหวัดที่มีคลังน้ำมันจะดำเนินการเก็บภาษีแทนจังหวัดที่ไม่มีคลังน้ำมัน และนำส่งเงินภาษีที่เก็บได้ไปให้จังหวัดที่เป็นผู้ใช้น้ำมันต่อไป สำหรับการจัดเก็บภาษีน้ำมัน กฎหมายระบุไว้ให้ อบจ.เก็บได้ไม่เกินร้อยละ 10 สตางค์ ซึ่งที่ประชุมมีมติเก็บในอัตรา 5 สตางค์ต่อลิตร โดยทั้ง 14 อบจ.จะดำเนินการออกข้อบัญญัติให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ และดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ต่อไป