เอเอฟพี - ราคาน้ำมันนิวยอร์กวานนี้ (13) ขยับลงเล็กน้อย หลังพบสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น บ่งชี้อุปสงค์อ่อนแอ ส่วนวอลล์สตรีททรงตัว จากรายงานผลประกอบการบริษัท ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นฉุดให้ทองคำปิดลบเช่นกัน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 50 เซ็นต์ ปิดที่ 97.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 6 เซ็นต์ ปิดที่ 118.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์กมีขึ้น ตามหลังรายงานคลังน้ำมันสำรองรายสัปดาห์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล และหากนับรวมตลอดทั้ง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็จะพบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของอเมริกา เพิ่มขึ้นกว่า 11 ล้านบาร์เรลเลยทีเดียว
ส่วนเหตุผลที่ราคาน้ำมันดิบตลาดลอนดอนเพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลจากการดีดตัวตามตลาดทุนทั่วยุโรป
ผิดกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่วานนี้ (13) ปิดในกรอบแคบๆ จากแรงฉุดของรายงานผลประกอบการบริษัทอันเซื่องซึม ขณะที่นักลงทุนก็ไม่ขานรับต่อถ้อยแถลงนโยบายประจำปีของประธานาธิบดีบารัค โอบามา
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 36.10 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,982.60 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 10.39 จุด (0.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,196.88 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.89 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,520.32 จุด
ด้านราคาทองคำวานนี้ (13) ปิดลบเล็กน้อย จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 4.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,645.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์