เค้นผู้ต้องสงสัย ยิง “ทนายเติ้ง” ปมจากว่าความ สภาหมอความจี้ ตร.เร่งรัดคดี

นครศรีธรรมราช - สภาทนายความนครศรีฯยื่นหนังสือจี้ ตร.เร่งรัดคดีสังหาร “ทนายเติ้ง”ขณะ ตร.หิ้วผู้ต้องสงสัยเค้นพบประเด็นมาจากการว่าความ

วันนี้ (28 ม.ค.) นายลือชา เปี่ยมสุวรรณ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยสมาชิกสภาทนายความจังหวัดนครศรีธรรมราชกว่า 10 คน ได้เข้าพบ พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช รักษาราชการแทน ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เพื่อเข้ายื่นหนังสือเร่งรัดให้มีการจับกุมคนร้ายในคดีฆาตกรรมนายทวีลาภ สุขสว่างโรจน์ หรือทนายเติ้ง ทนายความชื่อดังของจังหวัดนครศรีธรรมราช เสียชีวิตอย่างอุกอาจต่อหน้าภรรยาและลูกหน้าบ้านของตัวเอง เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา

นายลือชา เปี่ยมสุวรรณ ประธานสภาทนายความนครศรีธรรมราช ระบุว่า คนร้ายได้ก่อเหตุอย่างอุกอาจสะเทือนขวัญเป็นอย่างมากโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยผู้ตายเป็นทนายความที่มีความประพฤติเรียบร้อย และปฏิบัติหน้าที่ในการพิทักษ์ความยุติธรรม คดีที่เกิดขึ้นทำให้ทนายความรู้สะเทือนขวัญ และหากเจ้าหน้าที่ติดตามคนร้ายล่าช้าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรสภาทนายความรวมทั้งผู้ประกอบอาชีพทนายความทั่วประเทศ จึงขอเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามคนร้ายอย่างเร่งด่วน

ขณะที่ พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขอให้มีความมั่นใจเนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบ หากทำไปแล้วสำนวนอ่อนยวบหรือมีช่องโหว่ก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ ซึ่งการแบ่งเจ้าหน้าที่นั้นมีทั้งชุดสืบสวนและชุดสอบสวนอย่างเป็นระบบ คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

วันเดียวกัน ในส่วนความคืบหน้าของคดี พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ รอง ผกก.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งที่มีบ้านพักอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุมาสอบเค้นอย่างหนัก โดยพบว่ามีประจักษ์พยานยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นผู้ก่อเหตุ เนื่องจากได้พบเห็นใบหน้าคนร้ายอย่างชัดเจนรวมจึงจดจำรูปพรรณสันฐานได้ทั้งหมด แต่ผู้ต้องสงสัยรายนี้ให้การปฎิเสธรและเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหายังคงรอการสอบสวนและรวบรวมพยานวัตถุอีกจำนวนหนึ่งตามขั้นตอน ส่วนสาเหตุนั้นพบว่ามาจากการว่าความในคดีหนึ่งที่นายทวีลาภเป็นทีมทนายโจทก์ ส่งผลทำให้จำเลยที่เป็นคนรู้จักกับนายทวีลาภต้องโทษจำคุกถึง 13 ปี จำเลยรายนี้มีความแค้นอย่างมากขณะนี้จำเลยรายนั้นอยู่ในระหว่างอุทธรณ์คดี

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่นายทวีลาภ สุขสว่างโรจน์ ขับรถมาจอดที่หน้าบ้านโดยมีภรรยาและลูกไปเปิดประตูบ้าน และนายทวีลาภได้เดินลงมาจากรถ ขณะนั้นคนร้ายได้เดินตรงมายังนายทวีลาภพร้อมทั้งใช้อาวุธปืนลูกซองยาวจ่อยิงใบหน้านายทวีลาภเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นต่อหน้าภรรยาและลูกอย่างโหดเหี้ยม