กอ.รมน.ภ.4 รับยังมีช่องโหว่หลังครูนราฯ สังเวยอีกศพ ขณะที่ยะลาโรงเรียนเปิดปกติ

ยะลา - กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เผยไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ กรณีคนร้ายยิงครูเสียชีวิตที่ จ.นราธิวาส ด้านแม่ทัพภาค 4 รุดลงพื้นที่เกิดเหตุ ขณะที่ยะลาโรงเรียนยังเปิดเรียนตามปกติ

จากกรณีคนร้าย 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน เข้าไปในโรงเรียนบ้านตันหยง อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ก่อนที่จะเดินเข้าไปในโรงอาหารของโรงเรียน แล้วชักอาวุธปืนยิงใส่ นายชลธี เจริญชล อายุ 51 ปี ครูโรงเรียนบ้านตันหยง จนเสียชีวิต และคนร้ายยังได้นำรถยนต์เก๋งนิสสัน รุ่นซันนี่ สีเทา สภาพเก่า หมายเลขทะเบียน กข 1109 ยะลา ซึ่งเป็นของนายชลธี หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 12.30 น. ของวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เช้าวันนี้ (24 ม.ค.) โรงเรียนในพื้นที่เขตการศึกษาประถมศึกษานราธิวาสเขต 1 ได้ประกาศปิดการเรียนการสอน 27 แห่ง

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (24 ม.ค.) เวลา 08.30 น. ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในกรณีดังกล่าวว่า กรณีเหตุการณ์เหตุคนร้ายยิงครูโรงเรียนบ้านตันหยง หมู่ที่ 4 อ บาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เสียชีวิตภายในโรงเรียน ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อครอบครัวครูชลธี ว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของพวกเราชาวไทยทุกคน โดยเฉพาะพี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเป็นการสูญเสียบุคลากรทางการศึกษาซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างคน เพื่อมาสร้างสังคมในพื้นที่แห่งนี้

กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะว่าเป็นมาตรการการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งขณะนี้ ท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับเน้นย้ำให้ในพื้นที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมายให้ได้

“ในขณะนี้พี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนในพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอบาเจาะในวันนี้ พี่น้องประชาชน และผู้นำศาสนาก็จะมีการรวมพลังกันเดินขบวนกัน เพื่อต่อต้านและปฏิเสธการใช้ความรุนแรงในครั้งนี้ รวมทั้งเขาจะร่วมละหมาดฮายัตเพื่อประณามการก่อเหตุในครั้งนี้ ส่วนมาตรการในการรักษาความปลอดภัยครูในระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และส่วนราชการของจังหวัด ทางตำรวจและหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ ที่สำคัญก็คือ สมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนใต้ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ช่วงปลายปีที่แล้วเราได้เปลี่ยนการรักษาความปลอดภัยครู”

โดยล่าสุด มีการปรับแผนการดำเนินการ ก็คือว่า มีการกำหนดปัจจัยในการกำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัยครูเป็นสำคัญอยู่ 2 ส่วน คือ ปัจจัยเรื่องพื้นที่ และปัจจัยครูในพื้นที่ สำหรับปัจจัยเรื่องพื้นที่ก็คือ จะพิจารณาพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เช่น โรงเรียนอยู่พื้นที่ห่างไกล โรงเรียนพื้นที่เสี่ยง นอกจากนี้ ปัจจัยครูต้องยอมรับว่าครูที่เป็นเป้าหมายของผู้ก่อเหตุตลอดระยะเวลาที่ผ่าน 157 คน ที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคุณครูที่นับถือศาสนาพุทธ เพราะฉะนั้น การรักษาความปลอดภัยมีการกำหนดไว้ มีการตกลงร่วมกันของกำลัง 3 ฝ่าย และของครูในพื้นที่ โดยจะให้ในพื้นที่มีความอ่อนตัวในการกำหนดมาตรการการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่นี้

ก็เช่นเดียวกับในพื้นที่บ้านตันหยง ตำบลบาเระใต้ เป็นโรงเรียนที่ทั้งคุณครู และนักเรียนและชุมชนที่อยู่ใกล้ๆ กับโรงเรียนเป็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามทั้งหมด หน่วยงานพื้นที่ได้วิเคราะห์ และเห็นพ้องต้องกันว่า การดูแลรักษาความปลอดภัยในบริเวณสถานที่ของโรงเรียน เนื่องจากข้อจำกัดของเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดในการดูแลพื้นที่อื่นด้วย เพราะฉะนั้น ในพื้นที่นี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับครูได้หารือกันว่าให้เป็นความรับผิดชอบของชุดรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านในการเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัย” โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ากล่าว

พ.อ.ปราโมทย์ ยังกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเกิดเหตุในช่วงหลังจากนี้ไป คงจะต้องมีการหารือกันอีกครั้งว่า จะมีการเพิ่มสิ่งที่เป็นช่องว่างของการรักษาความปลดภัยครูในแต่ละจุดอย่างไรบ้าง ซึ่งหลังจากนี้ไปก็จะเรียนชี้แจงให้พี่น้องประชาชนทราบอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนทางด้าน พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการวิทยุไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่รอยต่อเพื่อค้นหา และสกัดจับรถยนต์คันดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ จะนำรถคันดังกล่าวเข้ามาซุกซ่อนในพื้นที่ ต.จะกว๊ะ ต.ท่าธง รวมทั้งผ่านไปยัง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกัน

นอกจากนั้น พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจยะลา ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดรักษาความปลอดภัยครู รวมทั้งประสานหน่วยทหารชุดรักษาความปลอดภัยครูในพื้นที่ต่างๆ เพิ่มความเข้มงวด และกระจายกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ครูในพื้นที่ของ จ.ยะลา เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งสร้างขวัญ และกำลังใจให้แก่ครูในพื้นที่ด้วย โดยโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดยะลา ยังคงเปิดเรียนตามปกติ ยังไม่มีการปิดการเรียนการสอนแต่อย่างใด