กระบี่ - เครือข่ายเยาวชนงดเหล้า 14 จังหวัดภาคใต้ วอนผู้ว่าฯ กระบี่ จัดโซนนิ่งร้านเหล้า ผับ บาร์ ให้ห่างจากชายหาด พร้อมขอความกรุณาประกาศให้พื้นที่เกาะที่มีมุสลิมเป็นเกาะปลอดเหล้า
เวลา 10.00 น.วันนี้ (21 ม.ค.) ที่ห้องประชุมหอวัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ น.ส.อาแอเซาะ จิใจ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนงดเหล้า 14 จังหวัดภาคใต้ และนายปกรณ์ พรุเตย ผู้ประสานงานเครือข่ายงดเหล้าจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยตัวแทนเครือข่ายเยาวชนงดเหล้าจังหวัดกระบี่ และเครือข่ายเยาวชนงดเหล้า 14 จังหวัดภาคใต้ ประมาณ 50 คน เดินทางเข้าพบ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อขอให้ทางจังหวัดรับข้อเสนอของเครือข่ายในการป้องกัน และแก้ปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ส่งผลกระทบต่อเด็ก และเยาวชนจังหวัดกระบี่
โดยให้มีการควบคุมจำนวนร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ให้มีมากเกินไป รวมถึงพิจารณาจัดโซนนิ่งร้านเหล้า ผับ บาร์ ให้อยู่ห่างไกลจากริมหาด ตลอดจนห่างไกลสถานศึกษา ขอให้พิจารณาประกาศให้มีพื้นที่เกาะปลอดเหล้าโดยเฉพาะในเกาะที่มีประชาชนนับถือศาสนาอิสลาม รวมถึงการสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ต่อนักท่องเที่ยวให้รับรู้ และขอให้เร่งรัดให้มีการบังคับใช้กฎหมายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถ รวมถึงการห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และเร่งประชาสัมพันธ์กฎหมายดังกล่าวให้กว้างขวาง
น.ส.อาแอเซาะ จิใจ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนงดเหล้า 14 จังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า เครือข่ายเยาวชนงดเหล้า 14 จังหวัดภาคใต้ เป็นองค์กรที่ดำเนินงานรณรงค์ลด ละ เลิกการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อเด็ก และเยาวชน ประกอบกับการจัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชนภายใต้ขบวนการ South youth ranger โดยมีประชาคมเครือข่ายองค์กรงดเหล้าในแต่ละจังหวัดเป็นพี่เลี้ยงให้การสนับสนุน ภายใต้แนวคิด “เด็กนำผู้ใหญ่หนุน” ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมา สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบุคคล/กิจกรรม/พื้นที่ และนโยบายระดับจังหวัดในทางที่ดีขึ้น และต่อเนื่อง
น.ส.อาแอเซาะ กล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่สำรวจปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในจังหวัดกระบี่ เครือข่ายเยาวชนฯ พบว่า มีประเด็นที่น่ากังวลแ ละส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนหลายประการ เช่น ปัญหาการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถของนักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป ปัญหาการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในพื้นที่ท่องเที่ยวทั้งเกาะ และชายหาด ปัญหาร้านเหล้าผับ บาร์ และจุดขายที่มีอยู่มากเกินไป เป็นต้น ซึ่งการเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อขอให้ทางจังหวัดช่วยพิจารณาข้อเสนอ และขับเคลื่อนไปสู่นโยบายของจังหวัดต่อไป