นครศรีธรรมราช - ทน.นครศรีธรรมราช ปล่อยนายทุนเช่าสวนสาธารณะทุ่งท่าลาด จัดงานวันเด็ก 9 คืนรวด ถูกชาวบ้านสวดยับ ปล่อย “โคโยตี้เสมอหู” เต้นโชว์บนเวทีให้เด็กๆ วัยไม่ถึง 10 ขวบดู
วันนี้ (18 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครศรีธรรมราช ยังคงมีควันหลงจากงานเทศกาลวันเด็ก ซึ่งมีการจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 12 ม.ค.2556 เพียงวันเดียวเท่านั้น แต่ในส่วนของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้จัดงานนี้ถึง 9 วัน 9 คืน โดยเป็นการจัดกิจกรรมเชิงธุรกิจเหมือนกับเทศกาลงานเดือนสิบ ใช้วิธีการให้นายทุนเข้ามาเช่าที่ดินในทุ่งท่าลาดเปิดบูทขายสินค้าแทนสนามหน้าเมือง
โดยก่อนหน้านี้ ที่สนามหน้าเมืองมีการให้นายทุนเช่าสนาม แล้วแบ่งเป็นบูทย่อยให้พ่อค้าแม่ค้าเช่าอีกหลายหมื่นบาท งาน 10 วัน 10 คืน สร้างผลกำไรให้แก่นายทุนเป็นอย่างมาก ส่วนสนามหน้าเมืองที่เป็นทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ และเป็นสนามโบราณสถานที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานอยู่ในสภาพทรุดโทรมอย่างหนัก และหลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารเทศบาลได้ขึ้นป้ายข้อความทำนองว่าจะใช้เงินจากค่าเช่าสนามหน้าเมืองรวม 6 ล้านบาท มาปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหน้าเมืองใหม่ทั้งหมด ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ทำหนังสือทักท้วงถึงเรื่องการให้เช่าสนามหน้าเมือง พร้อมทั้งระเบียบปฏิบัติที่ต้องผ่านธนารักษ์จังหวัด รวมทั้งการนำส่งรายได้
โดยล่าสุดนั้น กลุ่มนายทุนกลุ่มเดิมที่มีความใกล้ชิดกับผู้บริหารได้ขอเช่าพื้นที่ทุ่งท่าลาด และเปิดให้มีการออกร้านเช่นเดียวกัน แต่กลับใช้ชื่อเป็นงานเทศกาลวันเด็ก โดยเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.2556 จนถึงวันที่ 20 ม.ค.2556 และมีการแสดงบนเวทีทุกคืน โดยบางคืนนั้น ได้แสดงโชว์การเต้นโคโยตี้นุ่งน้อยห่มน้อยต่อหน้าเด็กจำนวนมาก จนมีการบันทึกภาพไว้ และส่งต่อกันไปในสังคมออนไลน์ เป็นภาพเด็กอายุไม่เกิน 10 ขวบกำลังดูการเต้นของสาวโคโยตี้อย่างเร่าร้อนบนเวที ทำให้มีการตำหนิถึงความเหมาะสมในการจัดแสดง และนำชื่อของวันเด็กมาจัดงานเพื่อหาผลประโยชน์ทางธุรกิจค้ากำไร
นอกจากนั้น ยังมีข้องสังเกตจากหลายฝ่ายถึงความร่วมมือของหลายหน่วยงาน เดิมนั้นเทศกาลวันเด็กจะจัดขึ้นเพียง 1 วัน โดยเป็นกิจกรรมของเด็กทั้งหมด เช่น ที่สนามหน้าเมือง และทุ่งท่าลาด และจะมีความร่วมมือของหน่วยงานสำคัญต่างๆ ที่เป็นขวัญใจของเด็กๆ เช่น กองทัพภาคที่ 4 ที่จัดอาวุธยุทโธปกรณ์มาแสดง รวมทั้งการใช้อากาศยานมาบินโชว์ และเปิดโอกาสให้เด็กเข้าเยี่ยมชมอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับหน่วยงานอื่นๆ แต่หลังจากเปลี่ยนผู้บริหาร พบว่า หน่วยงานต่างๆ เริ่มทำกิจกรรมเอง เช่น กองทัพภาคที่ 4 ใช้สถานที่ของกองทัพภายในค่ายวชิราวุธจัดกิจกรรมแทน
วันนี้ (18 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครศรีธรรมราช ยังคงมีควันหลงจากงานเทศกาลวันเด็ก ซึ่งมีการจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 12 ม.ค.2556 เพียงวันเดียวเท่านั้น แต่ในส่วนของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้จัดงานนี้ถึง 9 วัน 9 คืน โดยเป็นการจัดกิจกรรมเชิงธุรกิจเหมือนกับเทศกาลงานเดือนสิบ ใช้วิธีการให้นายทุนเข้ามาเช่าที่ดินในทุ่งท่าลาดเปิดบูทขายสินค้าแทนสนามหน้าเมือง
โดยก่อนหน้านี้ ที่สนามหน้าเมืองมีการให้นายทุนเช่าสนาม แล้วแบ่งเป็นบูทย่อยให้พ่อค้าแม่ค้าเช่าอีกหลายหมื่นบาท งาน 10 วัน 10 คืน สร้างผลกำไรให้แก่นายทุนเป็นอย่างมาก ส่วนสนามหน้าเมืองที่เป็นทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ และเป็นสนามโบราณสถานที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานอยู่ในสภาพทรุดโทรมอย่างหนัก และหลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารเทศบาลได้ขึ้นป้ายข้อความทำนองว่าจะใช้เงินจากค่าเช่าสนามหน้าเมืองรวม 6 ล้านบาท มาปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหน้าเมืองใหม่ทั้งหมด ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ทำหนังสือทักท้วงถึงเรื่องการให้เช่าสนามหน้าเมือง พร้อมทั้งระเบียบปฏิบัติที่ต้องผ่านธนารักษ์จังหวัด รวมทั้งการนำส่งรายได้
โดยล่าสุดนั้น กลุ่มนายทุนกลุ่มเดิมที่มีความใกล้ชิดกับผู้บริหารได้ขอเช่าพื้นที่ทุ่งท่าลาด และเปิดให้มีการออกร้านเช่นเดียวกัน แต่กลับใช้ชื่อเป็นงานเทศกาลวันเด็ก โดยเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.2556 จนถึงวันที่ 20 ม.ค.2556 และมีการแสดงบนเวทีทุกคืน โดยบางคืนนั้น ได้แสดงโชว์การเต้นโคโยตี้นุ่งน้อยห่มน้อยต่อหน้าเด็กจำนวนมาก จนมีการบันทึกภาพไว้ และส่งต่อกันไปในสังคมออนไลน์ เป็นภาพเด็กอายุไม่เกิน 10 ขวบกำลังดูการเต้นของสาวโคโยตี้อย่างเร่าร้อนบนเวที ทำให้มีการตำหนิถึงความเหมาะสมในการจัดแสดง และนำชื่อของวันเด็กมาจัดงานเพื่อหาผลประโยชน์ทางธุรกิจค้ากำไร
นอกจากนั้น ยังมีข้องสังเกตจากหลายฝ่ายถึงความร่วมมือของหลายหน่วยงาน เดิมนั้นเทศกาลวันเด็กจะจัดขึ้นเพียง 1 วัน โดยเป็นกิจกรรมของเด็กทั้งหมด เช่น ที่สนามหน้าเมือง และทุ่งท่าลาด และจะมีความร่วมมือของหน่วยงานสำคัญต่างๆ ที่เป็นขวัญใจของเด็กๆ เช่น กองทัพภาคที่ 4 ที่จัดอาวุธยุทโธปกรณ์มาแสดง รวมทั้งการใช้อากาศยานมาบินโชว์ และเปิดโอกาสให้เด็กเข้าเยี่ยมชมอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับหน่วยงานอื่นๆ แต่หลังจากเปลี่ยนผู้บริหาร พบว่า หน่วยงานต่างๆ เริ่มทำกิจกรรมเอง เช่น กองทัพภาคที่ 4 ใช้สถานที่ของกองทัพภายในค่ายวชิราวุธจัดกิจกรรมแทน