พัทลุง - ชาวนาพัทลุงกว่า 500 คน บุกศาลากลาง หลังหนูนากัดกินต้นข้าวเสียหายเกือบ 30,000 ไร่ และจังหวัดเมินให้การช่วยเหลือ พร้อมประกาศหาก 7 วัน ยังไม่มีคำตอบ ชาวนาทั่วทั้งจังหวัดจะมารวมตัวกันอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า จากกรณีที่ชาวนาในพื้นที่จังหวัดพัทลุงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังหนูนากำลังระบาดกัดกินนาข้าวที่กำลังแตกกอในพื้นที่ ต.มะกอกเหนือ ต.ปันแต ต.แหลมตะโหนด ต.ควนขนุน ต.ทะเลน้อย ต.พนางตุง ต.ชะมวง อ.ควนขนุน ต.ปรางหมู่ ต.เขาเจียก อ.เมือง จ.พัทลุง ได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิงไปแล้วเกือบ 30,000 ไร่ พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งปลูกข้าวสังข์หยด ข้าวนาปี พันธุ์พื้นเมือง อย่างข้าวเล็บนกคุณภาพดีของจังหวัดพัทลุง
โดยล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (17 ม.ค.) ชาวนาพื้นที่ 2 อำเภอ กว่า 500 คน ได้เดินทางมาศาลากลางจังหวัด เพื่อเรียกร้องให้ทางจังหวัดช่วยเหลือ แม้ก่อนหน้านี้ ชาวนาเคยส่งหนังสือร้องเรียนมาแล้วแต่ทางจังหวัดเมินเฉยไม่ให้ความสำคัญ จนชาวนาต้องเดินทางมาเรียกร้อง พร้อมยื่นหนังสืออีกครั้งง
ทางด้านนายสมเกียรติ ทองพันธุ์ ประธานอาสาสมัครเกษตรกรจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า การระบาดของหนูนาที่กัดกินลุกลามมาแล้วประมาณ 2 เดือน และมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นจนสร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร กว่า 5,779 ราย พื้นที่นาปีเสียหายไปแล้วกว่า 21,000 ไร่ และได้แจ้งไปยังทางจังหวัดแล้วหลายครั้งแต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ หรือดูแลจากทางจังหวัดแต่อย่างใด จึงได้รวมตัวเรียกร้องอีกครั้ง พร้อมให้ทางจังหวัดเร่งประกาศเขตภัยพิบัติการระบาดหนูนาโดยด่วน โดยให้ข้อเสนอทางจังหวัดไป 2 ข้อ คือ ให้เยียวยาเกษตรกรผู้ทำนาที่ได้รับความเสียหายจากหนูนากัดกินต้นข้าวเป็นเงินไร่ละ 600 บาท หรือให้จัดสรรเมล็ดพันธุ์ข้าวให้แก่เกษตรกรไร่ละ 20 กิโลกรัม เพื่อจะได้นำมาหว่านในฤดูกาลต่อไป และให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้จัดสรรงบประมาณในการจัดชื้อหางหนูช่วยเหลือเกษตรกร
ในเวลาต่อมา ว่าที่ ร.ต สมโภชน์ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้ลงมารับมอบหนังสือพร้อมให้ตัวแทนเกษตรชาวนาเข้าร่วมประชุมหาข้อยุติ โดยในที่ประชุมได้เชิญ หน.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักเกษตรจังหวัด นายก อบจ.พัทลุง ร่วมประชุม โดยในที่ประชุมได้รับหลักการข้อเสนอของชาวนา แต่ก็ยังมีข้อติดขัดที่ทางจังหวัดยังไม่ประกาศเขตภัยพิบัติ จึงยังช่วยเหลือความเดือดร้อนต่อชาวนาไม่ได้ และทางจังหวัดกำลังประสานไปยังกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัยให้ตีความราชกิจจานุเบกษา ในการประกาศเขตภัยพิบัติก่อน โดยจะให้ข้อสรุปต่อชาวนาภายใน 7 วัน ทำให้ชาวนาได้แยกย้ายกลับ พร้อมประกาศหาก 7 วัน ยังไม่มีคำตอบ ชาวนาทั่วทั้งจังหวัดจะมารวมตัวกันอีกครั้ง
