นราธิวาส - ประธานชมรมโรงแรม อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ยอมรับการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท จะกระทบต่อผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยเฉพาะโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีพนักงานเป็นจำนวนมาก
นายแสงทอง ปรีชาวุฒิเดช ประธานชมรมโรงแรม อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส กล่าวว่า การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในขณะนี้ยังไม่สามารถเห็นถึงผลกระทบที่ชัดเจนมากนัก เนื่องจากวงรอบของการจ่ายเงินเดือนในอัตราใหม่จะเริ่มจ่ายในช่วงปลายเดือน ม.ค.2556 แต่จากการหารือในกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่พบว่า ในส่วนของโรงแรมขนาดเล็กอาจไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากมีพนักงานจำนวนไม่มาก บางแห่งมีเพียง 5-10 คน แต่สำหรับโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีพนักงานประมาณ 50-100 คน เชื่อว่าจะมีปัญหาแน่นอน เนื่องจากต้องมีการปรับระบบการทำบัญชีใหม่ รวมทั้งบัญชีการจ่ายเงินสมทบประกันสังคมด้วย เพราะที่ผ่านมา นายจ้างจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
ดังนั้น 5 เปอร์เซ็นต์ที่หักเข้าประกันสังคมหากขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท พนักงานจะมีเงินเดือนคนละ 9,000 บาท ซึ่งนายจ้างจะต้องรับผิดชอบค่าประกันสังคมเพิ่มขึ้นด้วย จึงเป็นการแบกภาระที่หนักมากเมื่อเทียบกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ยังคงซบเซา เพราะผู้ประกอบการในพื้นที่จะมีรายรับมากกว่าปกติเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญเท่านั้น ดังนั้น เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการเกิดสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จึงถือว่าในขณะนี้ สภาพคล่องทางการเงิน รวมถึงการใช้จ่ายเงินในกลไกตลาดยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้แล้ว ผู้ประกอบการในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ก็พร้อมจะปฏิบัติตาม แต่อาจจะต้องมีการหารือในระดับพื้นที่เพื่อหาแนวทางบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ และไม่ให้กระทบต่อพนักงานที่มีการจ้างงานอยู่ในพื้นที่ ซึ่งภายในเดือน ม.ค. นี้ หอการค้า จ.นราธิวาส จะเปิดเสวนาในเรื่องการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ร่วมกับผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เห็นความชัดเจนในเรื่องผลกระทบ และมาตรการร่วมในการแก้ปัญหาให้แก่ภาคธุรกิจในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มากขึ้น
นายแสงทอง ปรีชาวุฒิเดช ประธานชมรมโรงแรม อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส กล่าวว่า การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในขณะนี้ยังไม่สามารถเห็นถึงผลกระทบที่ชัดเจนมากนัก เนื่องจากวงรอบของการจ่ายเงินเดือนในอัตราใหม่จะเริ่มจ่ายในช่วงปลายเดือน ม.ค.2556 แต่จากการหารือในกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่พบว่า ในส่วนของโรงแรมขนาดเล็กอาจไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากมีพนักงานจำนวนไม่มาก บางแห่งมีเพียง 5-10 คน แต่สำหรับโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีพนักงานประมาณ 50-100 คน เชื่อว่าจะมีปัญหาแน่นอน เนื่องจากต้องมีการปรับระบบการทำบัญชีใหม่ รวมทั้งบัญชีการจ่ายเงินสมทบประกันสังคมด้วย เพราะที่ผ่านมา นายจ้างจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
ดังนั้น 5 เปอร์เซ็นต์ที่หักเข้าประกันสังคมหากขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท พนักงานจะมีเงินเดือนคนละ 9,000 บาท ซึ่งนายจ้างจะต้องรับผิดชอบค่าประกันสังคมเพิ่มขึ้นด้วย จึงเป็นการแบกภาระที่หนักมากเมื่อเทียบกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ยังคงซบเซา เพราะผู้ประกอบการในพื้นที่จะมีรายรับมากกว่าปกติเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญเท่านั้น ดังนั้น เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการเกิดสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จึงถือว่าในขณะนี้ สภาพคล่องทางการเงิน รวมถึงการใช้จ่ายเงินในกลไกตลาดยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้แล้ว ผู้ประกอบการในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ก็พร้อมจะปฏิบัติตาม แต่อาจจะต้องมีการหารือในระดับพื้นที่เพื่อหาแนวทางบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ และไม่ให้กระทบต่อพนักงานที่มีการจ้างงานอยู่ในพื้นที่ ซึ่งภายในเดือน ม.ค. นี้ หอการค้า จ.นราธิวาส จะเปิดเสวนาในเรื่องการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ร่วมกับผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เห็นความชัดเจนในเรื่องผลกระทบ และมาตรการร่วมในการแก้ปัญหาให้แก่ภาคธุรกิจในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มากขึ้น
