นราธิวาส - ระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลกเริ่มล้นตลิ่ง หลังฝนตกติดต่อกันกว่า 7 วันแล้ว ส่งผลให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ในที่ลุ่มกว่า 50 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อน
วันนี้ (23 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ จ.นราธิวาส หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แผ่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ เป็นเวลาติดต่อกันกว่า 7 วันแล้ว ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำบนเทือกเขาสันกลาคีรี ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ในพื้นที่ อ.สุคิริน ซึ่งมีความอิ่มตัวได้ไหลทะลักลงไปสมทบกับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของแม่น้ำสายหลัก ที่มีปริมาณน้ำฝนเต็มตลิ่ง จนเอ่อล้นไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฏรที่ปลูกสร้างอยู่บริเวณตลอดแนวริมตลิ่ง ซึ่งมีระยะทางยาวกว่า 50 กม. ผ่านพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.สุคิริน อ.แว้ง อ.สุไหงโก-ลก และ อ.ตากใบ
โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังเป็นช่วงๆ ในที่ราบลุ่ม โดยภาพรวมสูง 30-50 ซม.ทำให้ราษฏรกว่า 50 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อน เริ่มที่จะขนข้าวของสัมภาระที่จำเป็นหนีน้ำไปอาศัยอยู่ตามบ้านของญาติ และได้นำยานพาหนะซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์หนีระดับน้ำท่วมไปจอดไว้บนถนน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะขยายวงกว้างขึ้น เนื่องจากฝนไม่มีท่าทีที่จะหยุดตก แถมปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักอีก 2 สายคือ แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำบางนรา ก็มีปริมาณระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เหลือเพียงอีกประมาณ 80-90 ซม. ก็จะล้นตลิ่ง
วันนี้ (23 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ จ.นราธิวาส หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แผ่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ เป็นเวลาติดต่อกันกว่า 7 วันแล้ว ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำบนเทือกเขาสันกลาคีรี ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ในพื้นที่ อ.สุคิริน ซึ่งมีความอิ่มตัวได้ไหลทะลักลงไปสมทบกับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของแม่น้ำสายหลัก ที่มีปริมาณน้ำฝนเต็มตลิ่ง จนเอ่อล้นไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฏรที่ปลูกสร้างอยู่บริเวณตลอดแนวริมตลิ่ง ซึ่งมีระยะทางยาวกว่า 50 กม. ผ่านพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.สุคิริน อ.แว้ง อ.สุไหงโก-ลก และ อ.ตากใบ
โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังเป็นช่วงๆ ในที่ราบลุ่ม โดยภาพรวมสูง 30-50 ซม.ทำให้ราษฏรกว่า 50 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อน เริ่มที่จะขนข้าวของสัมภาระที่จำเป็นหนีน้ำไปอาศัยอยู่ตามบ้านของญาติ และได้นำยานพาหนะซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์หนีระดับน้ำท่วมไปจอดไว้บนถนน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะขยายวงกว้างขึ้น เนื่องจากฝนไม่มีท่าทีที่จะหยุดตก แถมปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักอีก 2 สายคือ แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำบางนรา ก็มีปริมาณระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เหลือเพียงอีกประมาณ 80-90 ซม. ก็จะล้นตลิ่ง