กระบี่ - โต๊ะอิหม่ามมัสยิดมาดีนะฮ์กระบี่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ ร้องคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดกระบี่ หลังถูกนักการเมืองท้องถิ่นหยามศาสนา ตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ขณะที่มีการอาซานเชิญชวนให้คนไปละหมาด ด้าน ปธ.คณะกรรมการอิสลามกระบี่ เตรียมเข้าพบผู้ว่าฯ เพื่อหาทางยุติเรื่องดังกล่าวแล้ว หวั่นขัดแย้งบานปลาย ด้านคู่กรณียอมรับมีการด่าทอจริง
นายอัสนาวี มุคุระ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงกรณีที่นายวันชัย เจ๊ะโส้ โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดมาดีนะฮ์กระบี่ ชุมชนกระบี่-ท่าเรือ ต.ปากน้ำ อำเภอเมือง จ.กระบี่ พร้อมด้วยคณะกรรมการประจำมัสยิด เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน ต่อคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดกระบี่ กรณีที่สมาชิกสภาเทศบาลรายหนึ่งซึ่งมีบ้านพักอยู่ใกล้กับมัสยิดดังกล่าว และแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ส่งเสียงตะโกนด่าทอขณะที่มีการอาซานเวลาละหมาดซุบฮี หรือละหมาดตอนประมาณ 5 โมงเช้า
ในเบื้องต้นก็ ได้เรียกคณะกรรมการมัสยิด และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเป็นไปตามที่มีการร้องเรียนมาหรือไม่ และมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปดำเนินการแล้ว ซึ่งตนก็ได้เดินทางไปเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อขอคำปรึกษาและร่วมกันแก้ปัญหาเพื่อหาทางยุติในเรื่องดังกล่าว เพื่อลดความขัดแย้งในพื้นที่เพราะเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน มีผลกระทบต่อสังคมโดยรวม หากพฤติกรรมดังกล่าวเป็นความจริง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
ในส่วนของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาจะมีเจตนาอย่างไรนั้น ต้องมาพูดคุยกัน เรื่องไหนที่ยอมกันได้ก็ว่ากันไป ส่วนเรื่องที่กระทบต่อความรู้สึกทางด้านจิตใจของพี่น้องมุสลิมนั้น ก็ต้องหาทางออกกัน และที่สำคัญ ผู้ที่ส่งเสียงด่าทอในขณะที่มีการอาซานนั้น เป็นถึงนักการเมืองท้องถิ่น เทศบาลเมืองกระบี่ ควรจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ว่าไปอีกอย่างหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในจังหวัดกระบี่ มัสยิดที่อยู่ในชุมชนคนต่างศาสนาก็อยู่ร่วมกันได้ สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้ตามปกติ กิจกรรมทางศาสนาอื่นๆ ชาวไทยมุสลิมก็ให้เกียรติ ไม่มีการไปเหยียดหยามกัน จึงขอฝากไปยังอิหม่ามมัสยิดมาดีนะฮ์กระบี่ รวมทั้งสัปบุรุษในพื้นที่ว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่ไม่ไปตอบโต้ และมีการแจ้งให้ทางกรรมการทราบเรื่อง ขอให้ทุกคนมีสติอย่าวู่วาม ทางคณะกรรมการอิสลามฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ก็ได้รับหนังสือจากคณะกรรมการอิสลามแล้ว เชื่อว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายได้
ขณะที่นายสุพรรณ ภูมิภมร สมาชิกสภาเทศบาลเมืองกระบี่ ผู้ถูกกล่าวหา กล่าวยอมรับว่า ได้มีการด่าทอจริง แต่ที่ทำไปเพราะในช่วง 2-3 วันที่เกิดเหตุ ตนไม่ได้พักผ่อนเพราะลูกยังเล็ก และไม่สบายต้องคอยดูแลใกล้ชิด กว่าจะได้นอนก็ประมาณตี 5 แต่ปรากฏว่า ทางมัสยิดดังกล่าวได้มีเสียงดังออกมาในช่วงเวลานั้นพอดี ซึ่งหัวอกความเป็นพ่อคนก็ต้องระเบิดอารมณ์ออกมาบ้าง แต่ไม่ได้มีการใช้ตำแหน่งการเมืองไปข่มขู่แต่อย่างใด เพราะต้องการให้ลดการใช้เสียงในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นยังมีเสียงดังเหมือนเดิม จึงต้องตะโกนด่าออกไป
นายอัสนาวี มุคุระ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงกรณีที่นายวันชัย เจ๊ะโส้ โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดมาดีนะฮ์กระบี่ ชุมชนกระบี่-ท่าเรือ ต.ปากน้ำ อำเภอเมือง จ.กระบี่ พร้อมด้วยคณะกรรมการประจำมัสยิด เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน ต่อคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดกระบี่ กรณีที่สมาชิกสภาเทศบาลรายหนึ่งซึ่งมีบ้านพักอยู่ใกล้กับมัสยิดดังกล่าว และแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ส่งเสียงตะโกนด่าทอขณะที่มีการอาซานเวลาละหมาดซุบฮี หรือละหมาดตอนประมาณ 5 โมงเช้า
ในเบื้องต้นก็ ได้เรียกคณะกรรมการมัสยิด และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเป็นไปตามที่มีการร้องเรียนมาหรือไม่ และมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปดำเนินการแล้ว ซึ่งตนก็ได้เดินทางไปเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อขอคำปรึกษาและร่วมกันแก้ปัญหาเพื่อหาทางยุติในเรื่องดังกล่าว เพื่อลดความขัดแย้งในพื้นที่เพราะเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน มีผลกระทบต่อสังคมโดยรวม หากพฤติกรรมดังกล่าวเป็นความจริง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
ในส่วนของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาจะมีเจตนาอย่างไรนั้น ต้องมาพูดคุยกัน เรื่องไหนที่ยอมกันได้ก็ว่ากันไป ส่วนเรื่องที่กระทบต่อความรู้สึกทางด้านจิตใจของพี่น้องมุสลิมนั้น ก็ต้องหาทางออกกัน และที่สำคัญ ผู้ที่ส่งเสียงด่าทอในขณะที่มีการอาซานนั้น เป็นถึงนักการเมืองท้องถิ่น เทศบาลเมืองกระบี่ ควรจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ว่าไปอีกอย่างหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในจังหวัดกระบี่ มัสยิดที่อยู่ในชุมชนคนต่างศาสนาก็อยู่ร่วมกันได้ สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้ตามปกติ กิจกรรมทางศาสนาอื่นๆ ชาวไทยมุสลิมก็ให้เกียรติ ไม่มีการไปเหยียดหยามกัน จึงขอฝากไปยังอิหม่ามมัสยิดมาดีนะฮ์กระบี่ รวมทั้งสัปบุรุษในพื้นที่ว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่ไม่ไปตอบโต้ และมีการแจ้งให้ทางกรรมการทราบเรื่อง ขอให้ทุกคนมีสติอย่าวู่วาม ทางคณะกรรมการอิสลามฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ก็ได้รับหนังสือจากคณะกรรมการอิสลามแล้ว เชื่อว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายได้
ขณะที่นายสุพรรณ ภูมิภมร สมาชิกสภาเทศบาลเมืองกระบี่ ผู้ถูกกล่าวหา กล่าวยอมรับว่า ได้มีการด่าทอจริง แต่ที่ทำไปเพราะในช่วง 2-3 วันที่เกิดเหตุ ตนไม่ได้พักผ่อนเพราะลูกยังเล็ก และไม่สบายต้องคอยดูแลใกล้ชิด กว่าจะได้นอนก็ประมาณตี 5 แต่ปรากฏว่า ทางมัสยิดดังกล่าวได้มีเสียงดังออกมาในช่วงเวลานั้นพอดี ซึ่งหัวอกความเป็นพ่อคนก็ต้องระเบิดอารมณ์ออกมาบ้าง แต่ไม่ได้มีการใช้ตำแหน่งการเมืองไปข่มขู่แต่อย่างใด เพราะต้องการให้ลดการใช้เสียงในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นยังมีเสียงดังเหมือนเดิม จึงต้องตะโกนด่าออกไป
