xs
xsm
sm
md
lg

ปลื้มไฮซีซันภูเก็ต อันดามัน นักท่องเที่ยวทะลุ 9 ล้านคน / ประเสริฐ เฟื่องฟู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
คอลัมน์ : แกะสะเก็ด
โดย...ประเสริฐ  เฟื่องฟู
 
 
จากปรากฏการณ์ที่มีสายการบินต่างประเทศบินตรงเข้าภูเก็ตในช่วงไฮซีซันของปีนี้ ตั้งแต่ปลายตุลาคม 2555 ไปจนถึงเมษายน 2556 ทางใต้เราเฉพาะฝั่งอันดามันต้องเรียกช่วงนี้ว่า “ปลายฝนต้นแล้ง” เป็นฤดูกาลท่องเทียวที่เป็นช่วงเทศกาลคริสต์มาสของชาวยุโรป และส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เข้าต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ก็เทศกาลตรุษจีน แล้วปิดท้ายด้วยเทศกาลประเพณีสงกรานต์ของคนไทยกลางเดือนเมษายน 2556 ทุกเทศกาลนั้นต่างคุยว่า นักท่องเที่ยวนานาชาติอยากมาสัมผัส
 
ล่าสุด เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ ของสหรัฐอาหรับฯ ก็เปิดเส้นทางบินตรงเข้าภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว ขนนักท่องเที่ยวเศรษฐีน้ำมันเข้าภูเก็ตเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา เที่ยวบินปฐมฤกษ์นี้  ไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าฯ ภูเก็ตก็ได้รับเชิญพร้อมผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายแหล่ให้ช่วยไปคล้องพวงมาลัยต้อนรับที่สนามบินอย่างเอิกเกริก และต้องพินอบพิเทาเป็นกรณีพิเศษในฐานะที่เป็นเจ้าของบ้าน
 
วันนั้น ท่านผู้ว่าฯ หน้าบานจ้อกับสื่อว่า การเปิดเส้นทางบินตรงเข้าภูเก็ตของเอมิเรตส์ แอร์ไลน์นี้ แสดงให้เห็นถึงความสนใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีต่อภูเก็ต และสายการบินนี้ก็มาจากตะวันออกกลาง โดยเปิดทำการบินทุกวันตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภูเก็ตให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสายการบินจากยุโรป ตะวันออกกลาง และในอนาคตจากเซี่ยงไฮ้ก็จะบินตรงมาอีก ภูเก็ตจะคึกคัก เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากนานาชาติ เป็นการยืนยันว่า เขามั่นใจในความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ปลอดภัยสำหรับเขา
 
“ในส่วนของเจ้าบ้าน ก็ควรจะมอบความอบอุ่น ความมีน้ำใจไมตรี และความเป็นมิตรที่แสนดีตอบแทนให้แก่เขาด้วย ในส่วนของแหล่งท่องเที่ยวเราก็ปรับปรุงพัฒนาดีขึ้นเป็นลำดับ
 

 
ท่านผู้ว่าฯ ยังบอกอีกว่า เส้นทางบินตรงเข้าภูเก็ตของเอมิเรตส์ แอร์ไลน์นี้ เป็นการบินจากดูไบมาเป็นเที่ยวบินแรก มีผู้โดยสารเดินทางมา 270 คน พบว่า เที่ยวบินนี้ไม่ใช่มีแค่นักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเพียงกลุ่มเดียว แต่มีนักท่องเที่ยวยุโรปที่ไปเที่ยวดูใบแล้วร่วมเดินทางมาด้วย คิดว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่เป็นไฮซีซันปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามาก ก็คาดว่าปีนี้ทั้งปีจะถึง 9 ล้านคน
 
ทางด้าน ชาญชัย ดวงจิตต์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต กล่าวเสริมในโอกาสเดียวกันว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ตช่วงไฮซีซันปีนี้ เท่าที่ได้สอบถามพูดคุยกับผู้ประกอบการโรงแรม ได้รับการยืนยันว่า ยอดบุ๊กกิ้งสูงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ นักท่องเที่ยวที่มาพบว่ามีทุกประเทศ โดยเฉพาะออสเตรเลีย จีน รัสเซีย เยอรมนี รวมทั้งเกาหลีใต้ และอินเดียด้วย นับเป็นท็อปเทนของเรา ถือว่าเป็นอีกปีหนึ่งที่เป็นปีทองของการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และฝั่งอันดามันทั้งหมด โดยมีภูเก็ตเป็นแกนกลาง
 
นอกจากนั้น เจ้าดอกจำปี สายการบินไทยเจ้าเก่าดั้งเดิม ก็ขยับปีกบินตรงจากยุโรปเข้าภูเก็ต ที่แน่นอนเป็นมั่นเหมาะแล้วก็คือ จากโคเปนเฮเกน เมืองท่ามหาเสน่ห์ ประเทศเดนมาร์ก มายังภูเก็ตตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน แล้วยังเปิดบินตรงจากสตอกโฮล์ม เมืองหลวงของสวีเดน เข้าภูเก็ตอีก เริ่มบินมาแล้วตั้งแต่พฤศจิกายน 2555 เช่นเดียวกัน
 
และเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา โอมานแอร์ โดย อาเหม็ด ฮาซิม อัล บารูซี ผู้จัดการประจำประเทศไทย ได้กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-มัสกัต มาแล้ว ก็ได้สำรวจตลาดมีแนวโน้มว่าโอมานแอร์จะเปิดเที่ยวบินใหม่ในเส้นทาง มัสกัต-ภูเก็ต เพื่ออำนวยความสะดวก และบริการนักท่องเที่ยวจากอาหรับเข้าภูเก็ตในเร็วๆ นี้
 
ความจริงนักท่องเที่ยวยุโรป และสแกนดิเนเวีย เป็นนักท่องเที่ยวเจ้าเก่า หรือขาเก่าของภูเก็ตตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว และได้ผ่านไปเขาหลักของพังงา ในขณะที่หาดทรายชายทะเลยังสะอาดเป็นธรรมชาติค่อนข้างจะเวอร์จิน โรงแรม รีสอร์ท สี่ดาว ห้าดาว กำลังเร่งก่อสร้างรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ที่เดินทางมาแล้วกลับไป แล้วจะย้อนกลับมาอีก ทั้งยังชักชวนกันปากต่อปาก
 
เป็นเพราะเสน่ห์ธรรมชาติของเขาหลักเหมือนภูเก็ตยุคต้น
 

 
ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอน เมื่อปลายปี 2547 หลังจากฉลองวันคริสต์มาสไปแล้วคืนวันที่ 25 ธันวาคม ในตอนสายวันรุ่งขึ้น 26 ธันวาคม นักท่องเที่ยวคอสุรายังไม่ทันสร่างเมา พนักงานโรงแรมเพิ่งจะได้พักผ่อนหลังเก็บกวาด ใครจะคิดว่าจะเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติมหาโหด มัจจุราช “สึนามิ” คลื่นยักษ์มหาประลัยก็เข้าถล่มฝั่งอันดามันจนป่นปี้ เขาหลักไม่เหลือชิ้นดี มีแต่ซากปรักหักพังของป่าคอนกรีต ปะปนกับซากศพนักท่องเที่ยวชาวยุโรปตายเกลื่อนหาดนับร้อย ภูเก็ต เกาะพีพี กระบี่ก็ไม่ต่างกัน
 
จากวันนั้นถึงวันนี้ผ่านไปแล้ว 8 ปี ภูเก็ต เขาหลัก พังงา เกาะพีพี กระบี่ และอีกหลายหาดก็คึกคักขึ้นมาอีกด้วยนักท่องเที่ยวเจ้าเก่าจากยุโรปที่ตั้งตาคอยจะกลับมาเยือน แต่ประเทศไทยไม่สงบด้วยปัญหาการเมืองภายใน ส่วนการมาครั้งใหม่นี้ความสวยงามของธรรมชาติจะยังเหมือนเดิมหรือไม่ ตัวนักท่องเที่ยวเองนั่นแหละคงมีคำตอบ
 
จากแนวโน้มที่มีนักท่องเที่ยวยุโรปหลั่งไหลเข้ามาเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ด้วยการแนะนำประชาสัมพันธ์ของผู้ประกอบการ รวมทั้งเอเยนต์ทัวร์ และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตว่า ภูเก็ตอยู่ห่างไกลจากกรุงเทพฯ ที่กำลังวุ่นวายจากปัญหาการเมือง และอุทกภัยในภาคกลาง ทั้งยังมีความสะดวกด้วยการบินตรงเข้าภูเก็ตของสายการบินหลายสายโดยไม่ผ่านเข้ากรุงเทพฯ
 
มาปีนี้วิกฤตเหล่านั้นไม่มี และนักท่องเที่ยวเขาก็ทราบแล้วว่า ภูเก็ตกับกรุงเทพฯ คือไทยแลนด์ แต่อยู่ห่างไกลกันพันกิโล นักท่องเที่ยวจึงทะลักเข้าเหมือนทำนบแตก
 

 
นอกจากนั้น ยังมีแรงกระตุ้นจากกลุ่มผู้ประกอบการเดินทางไปโรดโชว์ตามเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เป็นโต้โผ มี ททท.เป็นผู้ประสานงานให้ ยกโขยงกันไปตระเวนโรดโชว์ (คงไม่ใช่โชว์ขายกันข้างถนน) ตามเมืองท่องเที่ยวทั่วโลก พร้อมกับเสนอแพกเกจต่างๆ ให้เต็มที่
 
แต่ละครั้งที่ไปเดินสายโรดโชว์เร่ขายท่องเที่ยวเมืองภูเก็ต กลับมาต่างคุยโอ่ว่าประสบผลสำเร็จ ได้รับความสนใจ และการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยว รวมทั้งผู้ประกอบการของเขา ต่างรับปากที่จะจัดทัวร์เดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ต และฝั่งอันดามันในโอกาสต่อไป
 
การโรดโชว์ที่ได้รับทราบมาโดยการบอกเล่า ทางด้านโรงแรม รีสอร์ตติดดาวก็โชว์วิวทะเลเป็นจุดขาย ขนโบรชัวร์ไปแจกกันเป็นลังๆ รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงมารยาทการต้อนรับแบบไทยๆ ของพนักงานที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี ด้วยรอยยิ้มที่เรียกกันว่า “ยิ้มสยาม” จากทุกแผนก และที่ขาดไม่ได้ก็สปานวดแผนไทย ถือเป็นจุดขายสำคัญที่จะต้องมีโชว์อยู่ในโบรชัวร์ของทุกโรงแรม
 
ดังนั้น ทุกครั้งที่ไปโรดโชว์ หรือออกงานไม่ว่าที่ไหน ก็ต้องพก “สาวสปา” ติดไปด้วย เป็นการไปอวดไปโชว์ฝีมือนวดของหมอนวดสาวไทยที่กำลังขึ้นชื่อโด่งดังไปทั่วโลก จนกระทั่ง “สถาบันสปาไทย” ผลิตไม่ทันป้อนตลาดในพื้นที่ และยังมีออเดอร์จากต่างประเทศอีก
 
ผู้ประกอบการสปาหลายแห่งในภูเก็ตต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า มือใหม่มาสมัครงานพอฝึกได้งูๆ ปลาๆ แค่ขยี้ขยำ บีบๆ คลำๆ ได้ ก็ถูกดึงตัวไปเสียแล้ว น่าเป็นห่วงเหมือนกันว่าอนาคตสปาไทย หมอนวดไทย จะลงเอยลักษณะเดียวกับ “หมอนวดในอ่าง” อาบอบนวดหรือไม่ ก็คงเป็นหน้าที่ของ “สมาคมสปาไทย” ต้องสอดส่องกันเอง
 
ที่อื่นไม่รู้ แต่ที่ภูเก็ตหมอนวดแผนไทยกลายเป็น “หมอนาบ” หมอรีดพิษงู แฝงตัวอยู่ตามโรงแรมในตัวเมืองหลายแห่ง และมีมานานกว่า 10 ปีแล้ว
 

 
หันมาดูทางด้านแหล่งท่องเที่ยวของภูเก็ตที่จะอวดนักท่องเที่ยวจำนวน 9 ล้านคน ที่ผู้ว่าฯ จ้อได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น จากวันนั้นจนถึงวันนี้ยังนึกไม่ออกว่ามีที่ไหนบ้าง แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างเช่น ป่าตอง หรือย่านถนนคนเดิน แหล่งประวัติศาสตร์ที่มีสถาปัตยกรรม “ชิโนโปรตุกีส” ในตัวเมือง แม้ว่าได้ปรับปรุงเอาเสาไฟฟ้าที่เอียงกะเท่เร่จะล้มมิล้มแหล่ออกไป และยัดเอาหยากไย่แมงมุมที่เป็นสายไฟฟ้า และสารพัดสายเคเบิลลงดินไปแล้ว สองข้างฟากถนนก็ยังแออัดไปด้วยยานพาหนะหลากหลายชนิดจอดเต็มจนล้นมาซ้อนคันให้รถติดอีก
 
ส่วนป่าตองบริเวณที่จัดระเบียบจะให้เป็นที่จอดรถของผู้ที่ไปเที่ยว กลับถูกรถเช่ายึดครองไปอีกตามเคย ถ้ามีช่องว่างก็ต้องมีสิ่งกีดขวางไปวางไว้อย่างเช่น เก้าอี้ เป็นต้น ไม่ต่างจากตัวเมือง หรือในตลาดภูเก็ตที่จะเห็นมีป้ายเขียน หรือแขวนไว้ตรงประตูบ้าน “กรุณาอย่าจอดรถขวางทางเข้าออก” หรือ “มีรถเข้าออก” หรืออะไรอีกจิปาถะที่หมายถึงห้ามจอด
 
ทางด้านชายหาด ชายทะเล ซึ่งเป็นหัวใจของการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน ขณะนี้มองยังไง ดูยังไง ก็ไม่เป็นหาดทราย แทบทุกหาดเต็มไปด้วยร่ม เตียง เก้าอี้ผ้าใบตั้งติดๆ กันให้ฝรั่งทั้งหญิงชายนุ่งบิกินีเช่านอน น่าจะเรียกว่าหาดร่ม หาดเก้าอี้ผ้าใบ หรือหาดเตียงมากกว่า ทางเดินก็แทบไม่มี บางคนยังลงไปนอนเกลือกลิ้งคลุกทรายตรงที่มีช่องว่างนั่นแหละ
 

 
เหนือจากหาดร่ม หาดเตียงขึ้นมา ก็เป็นแผง หรือบาร์เบียร์ ที่มีทั้งส้มตำ ไก่ย่าง อยู่กันเป็นช่วงๆ แต่ละแผงน่าจะห่างกันไม่เกิน 30-50 เมตร และในแนวเดียวกันก็แจมด้วยเพิงนวดสปาไทยที่มีหมอนวดสาวน้อยสาวใหญ่นั่งรอฝรั่งมาใช้บริการ
 
แต่ก็ต้องขอชมที่บริเวณหาดร่ม หาดเตียง หรือหาดเก้าอี้ผ้าใบริมทะเลเหล่านั้น  ไม่มีขยะ  ไม่มีกล่องโฟม หรือถุงพลาสติก ขวดเหล้า กระป๋องเบียร์ น้ำอัดลมสารพัดยี่ห้อให้รกลูกตา ต่างเก็บกวาดทำความสะอาดกันดีของเทศบาลหรือ อบต.ทั้งหลายแหล่ของ “ไข่มุกอันดามัน” เมืองท่องเที่ยวระดับโลก
 

 
สรุปแล้ว เป็นอันเชื่อได้ว่าช่วงไฮซีซันนี้ ภูเก็ตและฝั่งอันดามันเงินสะพัดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ต การท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่างหน้าบานเป็นจานเชิง หลังจากที่ซบเซา หงอยเหงา ต้องนั่งตบยุงจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก และความไม่สงบภายในประเทศที่การเมืองผันผวน ตามมาด้วยภัยธรรมชาติ 
 
แต่ตรงไหนครับที่ท่านไมตรี อินทุสุต จ้อกับสื่อว่า เราได้ปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นเป็นลำดับ ที่จะอวดนักท่องเที่ยวที่แห่เดินทางเข้ามาในปีนี้ถึง 9 ล้านคน ขอไปชมบ้างได้ไหม อยากเห็นจัง
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น