ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงแรมหรูย่านหาดป่าตองรับอรุณ นักท่องเที่ยวคนไทย-ต่างชาติหนีตายอลหม่าน เสียหาย 11 ห้อง มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท โชคดีนักท่องเที่ยวไม่เจ็บ-ไม่ตาย คาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 05.32 น. วันนี้ (26 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงแรมรอยัล ภาวดี วิลเลจ ซอยใสน้ำเย็น ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะทู้ พร้อมด้วย นายอภิสรรค์ สง่าศรี นายอำเภอกะทู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกะทู้ เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองป่าตอง และรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองป่าตอง เทศบาลเมืองกะทู้ และเทศบาลนครภูเก็ต จำนวน 7 คัน เข้าทำการดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ขณะที่นักท่องเที่ยวซึ่งพักอยู่ในโรงแรมที่เกิดเหตุ ต่างก็วิ่งหนีตายไปพักอยู่บริเวณโรงแรมฝั่งตรงข้าม โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาระดมฉีดน้ำดับเพลิงนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงได้
จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า โรงแรมดังกล่าวอยู่เลยจากโรงเรียนบ้านใสน้ำเย็นไปประมาณ 10 เมตร ภายในโรงแรมมีห้องพักถูกเพลิงไหม้ประมาณ 11 ห้อง โดยเสียหายทั้งหมด จำนวน 7 ห้อง และเสียหายเล็กน้อยอีก 4 ห้อง นอกจากนั้น เพลิงยังลุกไหม้ไปติดบริเวณห้องอาหารที่บริเวณชั้น 2 ของโรงแรมด้วย แต่โชคดีเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
พ.ต.อ.จิรภัทร กล่าวว่า เวลาประมาณ 06.54 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงทั้งหมดได้ แต่ก็ต้องมีการฉีดน้ำเลี้ยงไว้เพื่อไม่ให้เพลิงลุกไหม้ไปที่อื่น จากการสอบถาม รปภ.พบว่า ต้นเพลิงเกิดขึ้นจากบริเวณด้านล่างซึ่งเป็นห้องควบคุมระบบไฟฟ้า ซึ่งอยู่ระหว่างโรงแรมที่เกิดเหตุกับโรงแรมใกล้เคียง หลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำถังดับเพลิงมาฉีดดับเพลิงก่อน แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จึงได้แจ้งประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าทำการดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนสามารถควบคุมเพลิงได้ในที่สุด ส่วนแขกที่เข้าพักในเบื้องตนพบว่า ปลอดภัยทั้งหมด ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
ขณะที่นาย CLAUDE DE CRISSY ชาวฝรั่งเศส เจ้าของโรงแรมรอยัล ภาวดี วิลเลจ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่ได้เห็นเหตุการณ์ แต่ได้รับแจ้งจากพนักงานจึงเข้ามาดูแลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในเบื้องต้น สำหรับโรงแรมดังกล่าวมีทั้งหมด 36 ห้อง ขณะที่เกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวพักเต็มทั้งหมด ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนว่าเกิดจากอะไร ตนยังไม่สามารถบอกอะไรได้ ในเบื้องต้น จะต้องดูแลนักท่องเที่ยวที่ได้รับความเดือดร้อนก่อน
ขณะที่ น.ส.สุชานาฏ ก้อนแก้ว นักท่องเที่ยวเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าวพร้อมกับสามีชาวเยอรมัน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตน และสามีนอนพักผ่อนอยู่ที่ห้องพักหมายเลข 111 ซึ่งอยู่บริเวณชั้น 2 ของโรงแรมที่เกิดเหตุ ขณะนอนหลับรู้สึกร้อนเหมือนกับไฟฟ้าดับ จึงลุกขึ้นมา และได้กลิ่นควันไฟ จึงรีบเปิดประตูห้องพักออกมาดู พบเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ จึงชวนสามีวิ่งหนีตายออกจากห้องพักโดยไม่ได้หยิบเอาทรัพย์สินอะไรออกมาเลย ซึ่งห้องที่ตนเองพักนั้นถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด เนื่องจากอยู่ใกล้กับจุดที่เป็นต้นเพลิง หลังจากนี้ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร โดยตนเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา และกำหนดออกจากโรงแรมวันที่ 4 ม.ค. นี้ แต่ก็มาเกิดเหตุดังกล่าวเสียก่อน ซึ่งรู้สึกตกใจมาก
ด้านนายโกวิทย์ พู่ระยะพันธ์ นักท่องเที่ยวเที่ยวที่เข้าพักห้อง 112 ของโรงแรม กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุนอนอยู่ในห้องพักเพียงคนเดียว ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่โรงแรมตะโกนให้มีการตัดไฟจึงออกมาดู เห็นเพลิงกำลังลุกไหม้ จึงวิ่งหนีออกมาจากห้องพักโดยไม่ได้หยิบอะไรติดตัวออกมาเลย รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว ตนได้เข้าไปตรวจสอบภายในห้องพบว่า ได้รับความเสียหายทั้งหมด เหลือเพียงบริเวณตู้เสื้อผ้าเท่านั้น ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ที่วางไว้ข้างนอกถูกไฟเผาทั้งหมด รวมทั้งโทรศัพท์มือถือด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามหัวหน้าฝ่ายบัญชี และการเงินของโรงแรม ทราบว่าโรงแรมทั้งหมดมี 36 ห้อง และสร้างด้วยไม้สักทั้งหมด ขณะเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวเข้าพักเต็มทุกห้อง โดยทางโรงแรมได้ทำประกันภัยไว้ 3 บริษัทด้วยกัน ส่วนนักท่องเที่ยวนั้นทางโรงแรมจะดูแล และรับผิดชอบช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในเบื้องต้น คาดว่าความเสียหายที่เกิดจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ไม่น่าจะต่ำกว่า 10 ล้านบาท เพราะแต่ละห้องมีการตกแต่งเป็นอย่างดี และทำด้วยไม้สักทั้งหมด
เมื่อเวลา 05.32 น. วันนี้ (26 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงแรมรอยัล ภาวดี วิลเลจ ซอยใสน้ำเย็น ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะทู้ พร้อมด้วย นายอภิสรรค์ สง่าศรี นายอำเภอกะทู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกะทู้ เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองป่าตอง และรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองป่าตอง เทศบาลเมืองกะทู้ และเทศบาลนครภูเก็ต จำนวน 7 คัน เข้าทำการดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ขณะที่นักท่องเที่ยวซึ่งพักอยู่ในโรงแรมที่เกิดเหตุ ต่างก็วิ่งหนีตายไปพักอยู่บริเวณโรงแรมฝั่งตรงข้าม โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาระดมฉีดน้ำดับเพลิงนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงได้
จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า โรงแรมดังกล่าวอยู่เลยจากโรงเรียนบ้านใสน้ำเย็นไปประมาณ 10 เมตร ภายในโรงแรมมีห้องพักถูกเพลิงไหม้ประมาณ 11 ห้อง โดยเสียหายทั้งหมด จำนวน 7 ห้อง และเสียหายเล็กน้อยอีก 4 ห้อง นอกจากนั้น เพลิงยังลุกไหม้ไปติดบริเวณห้องอาหารที่บริเวณชั้น 2 ของโรงแรมด้วย แต่โชคดีเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
พ.ต.อ.จิรภัทร กล่าวว่า เวลาประมาณ 06.54 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงทั้งหมดได้ แต่ก็ต้องมีการฉีดน้ำเลี้ยงไว้เพื่อไม่ให้เพลิงลุกไหม้ไปที่อื่น จากการสอบถาม รปภ.พบว่า ต้นเพลิงเกิดขึ้นจากบริเวณด้านล่างซึ่งเป็นห้องควบคุมระบบไฟฟ้า ซึ่งอยู่ระหว่างโรงแรมที่เกิดเหตุกับโรงแรมใกล้เคียง หลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำถังดับเพลิงมาฉีดดับเพลิงก่อน แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จึงได้แจ้งประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าทำการดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนสามารถควบคุมเพลิงได้ในที่สุด ส่วนแขกที่เข้าพักในเบื้องตนพบว่า ปลอดภัยทั้งหมด ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
ขณะที่นาย CLAUDE DE CRISSY ชาวฝรั่งเศส เจ้าของโรงแรมรอยัล ภาวดี วิลเลจ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่ได้เห็นเหตุการณ์ แต่ได้รับแจ้งจากพนักงานจึงเข้ามาดูแลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในเบื้องต้น สำหรับโรงแรมดังกล่าวมีทั้งหมด 36 ห้อง ขณะที่เกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวพักเต็มทั้งหมด ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนว่าเกิดจากอะไร ตนยังไม่สามารถบอกอะไรได้ ในเบื้องต้น จะต้องดูแลนักท่องเที่ยวที่ได้รับความเดือดร้อนก่อน
ขณะที่ น.ส.สุชานาฏ ก้อนแก้ว นักท่องเที่ยวเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าวพร้อมกับสามีชาวเยอรมัน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตน และสามีนอนพักผ่อนอยู่ที่ห้องพักหมายเลข 111 ซึ่งอยู่บริเวณชั้น 2 ของโรงแรมที่เกิดเหตุ ขณะนอนหลับรู้สึกร้อนเหมือนกับไฟฟ้าดับ จึงลุกขึ้นมา และได้กลิ่นควันไฟ จึงรีบเปิดประตูห้องพักออกมาดู พบเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ จึงชวนสามีวิ่งหนีตายออกจากห้องพักโดยไม่ได้หยิบเอาทรัพย์สินอะไรออกมาเลย ซึ่งห้องที่ตนเองพักนั้นถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด เนื่องจากอยู่ใกล้กับจุดที่เป็นต้นเพลิง หลังจากนี้ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร โดยตนเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา และกำหนดออกจากโรงแรมวันที่ 4 ม.ค. นี้ แต่ก็มาเกิดเหตุดังกล่าวเสียก่อน ซึ่งรู้สึกตกใจมาก
ด้านนายโกวิทย์ พู่ระยะพันธ์ นักท่องเที่ยวเที่ยวที่เข้าพักห้อง 112 ของโรงแรม กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุนอนอยู่ในห้องพักเพียงคนเดียว ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่โรงแรมตะโกนให้มีการตัดไฟจึงออกมาดู เห็นเพลิงกำลังลุกไหม้ จึงวิ่งหนีออกมาจากห้องพักโดยไม่ได้หยิบอะไรติดตัวออกมาเลย รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว ตนได้เข้าไปตรวจสอบภายในห้องพบว่า ได้รับความเสียหายทั้งหมด เหลือเพียงบริเวณตู้เสื้อผ้าเท่านั้น ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ที่วางไว้ข้างนอกถูกไฟเผาทั้งหมด รวมทั้งโทรศัพท์มือถือด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามหัวหน้าฝ่ายบัญชี และการเงินของโรงแรม ทราบว่าโรงแรมทั้งหมดมี 36 ห้อง และสร้างด้วยไม้สักทั้งหมด ขณะเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวเข้าพักเต็มทุกห้อง โดยทางโรงแรมได้ทำประกันภัยไว้ 3 บริษัทด้วยกัน ส่วนนักท่องเที่ยวนั้นทางโรงแรมจะดูแล และรับผิดชอบช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในเบื้องต้น คาดว่าความเสียหายที่เกิดจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ไม่น่าจะต่ำกว่า 10 ล้านบาท เพราะแต่ละห้องมีการตกแต่งเป็นอย่างดี และทำด้วยไม้สักทั้งหมด
