xs
xsm
sm
md
lg

ยิงถล่ม อส.ตร.ดีเด่นเมืองคอนดับคาที่ คาดแก๊งค้ายาลงขันฆ่าล้างแค้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช - คนร้ายยิงถล่ม อส.ตร.ดีเด่น เสียชีวิตหน้าบ้านภรรยา ฉกทองคำ 7 บาท พร้อมเงินสดไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาท ตร.พุ่งปมแก๊งค้ายาล้างแค้น หลังผู้ตายสืบหาเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมยาล็อตใหญ่จำนวนมาก แต่ไม่ทิ้งปมธุรกิจส่วนที่ผู้ตายปล่อยเงินกู้แก่ พนง.โรงงานหลายแห่ง

เมื่อเวลา 01.20 น. วันนี้ (24 ธ.ค.) ร.ต.ต.กำพลพัฒน์ ไพรสนฑ์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในรถ เหตุเกิดที่หน้าบ้านเลขที่ 101 หมู่ 6 บ้านช่องเขา ต.ถ้ำพรรณรา อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งเหตุได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.ธีระภูมิ ธุระกิจ ผกก.สภ.ถ้ำพรรณรา พ.ต.ท.สมชาย ยันต์วิเศษ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ชรินทร์ ณรงค์น้อย รอง ผกก.สืบสวน พ.ต.ท.ชาญยุทธ ทองสร้อย พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษหัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.ถ้ำพรรณรา พ.ต.ท.สงัด ตุ้งซี่ สว.สส. และแพทย์เวร รพ.ถ้ำพรรณราเข้าทำการสอบสวนทันที

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณรอบบ้านล้อมรอบไปด้วยสวนยาง หน้าบ้านมีรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ สีขาว 4 ประตู ทะเบียน กธ 2244 นครศรีธรรมราช จอดอยู่ ภายในรถที่เบาะนั่งคนขับด้านหน้าพบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือนายสุนทร บุญสนอง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 3 ต.ถ้ำพรรณรา อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวลายดอก นุ่งกางเกงลายพรางขาสั้น สวมรองเท้าเตะ ที่นิ้วมือทั้งสองข้างของผู้ตายสวมใส่แหวนทอง น้ำหนักรวม 2 บาท สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่หน้าท้อง และตามลำตัวมีรูกระสุนทั้งปืนลูกซอง และอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดหลายแผล ตรวจสอบภายในรถอย่างละเอียดพบว่าอาวุธปืนพกสั้น .357 ขนาด 4 นิ้วของผู้ตายที่พกติดตัวหายไป

นอกจากนี้ ยังพบว่าสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมกับพระเลี่ยมทองหลายองค์ที่ผู้ตายสวมใส่ได้หายไป รวมทั้งเงินสดไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายวางไว้ที่เบาะหลังคนขับได้หายไปด้วย

ส่วนสภาพรถที่ตัวรถกระจกทั้งด้านหน้า และด้านข้างทั้งซ้ายขวามีรูกระสุนยิงเข้าจนพรุน และในที่เกิดเหตุรอบๆ ตัวบ้าน พบรอยเท้าของคนร้าย ซึ่งคาดว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเก็บปลอกกระสุนปืนลูกซองซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของคนร้ายได้ 4 ปลอก และปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 อีก 1 ปลอก

 
นางชฏาพร หรือเขียว ธรรมโสภณ อายุ 46 ปี ภรรยาคนที่ 2 ของผู้ตายที่อยู่กินกันมา 3 ปี ให้การว่า ผู้ตายทำงานเป็น อส.ตร.ช่วยเหลืองานเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่ สภ.ถ้ำพรรณรา มีผลงานด้านการปราบปรามจับกุมยาเสพติดได้หลายราย นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่ปล่อยเงินกู้ให้แก่พนักงานตามโรงงานต่างๆ ทั้งใน อ.ถ้ำพรรณรา อ.นาบอน อ.ฉวาง และ อ.พิปูน ของ จ.นครศรีธรรมราช โดยผู้ตายจะนอนค้างคืนที่บ้านภรรยาคนที่ 1 เป็นเวลา 7 วัน จากนั้นก็จะสับเปลี่ยนมานอนกับตน ซึ่งเป็นภรรยาคนที่ 2 อีก 7 วัน ทำอย่างนี้อยู่เป็นประจำ ทั้งตน และภรรยาคนที่ 1 ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียว ต่างคนต่างอยู่

ทั้งนี้ คืนที่ผ่านมาผู้ตายได้นอนพักอยู่ที่บ้านของตน เช้าก่อนเกิดเหตุผู้ตายก็ได้ออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตามปกติเช่นทุกวัน ตกเย็นได้โทรศัพท์เข้ามาบอกว่ายังทำงานอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอาจจะกลับเข้าบ้านดึกหน่อยให้กินข้าวไปก่อนไม่ต้องรอ หลังกินข้าวเสร็จตอนหัวค่ำตนก็ปิดประตูเข้านอน ตกดึกก็ตกใจตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงปืนดังสนั่นอยู่ตรงบริเวณหน้าบ้านหลายนัดติดต่อกัน รอจนเสียงปืนสงบลงจึงค่อยเปิดประตูหน้าบ้านออกมาดู เห็นรถผู้ตายจอดอยู่แต่ไม่ยอมลงจากตัวรถ จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าถูกยิงจนเสียชีวิตไปแล้ว

ขณะที่ พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช หลังได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาก็ได้เดินทางมากลางดึกเพื่อมาดูสถานที่เกิดเหตุ และทำการสอบสวนด้วยตัวเอง ก่อนเปิดเผยว่า ผู้ตายเป็น อส.ตร.ช่วยงานตำรวจอยู่ประจำที่ สภ.ถ้ำพรรณรา และมักจะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายโรงพักในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และใกล้เคียง จนได้รับการคัดเลือกให้เป็น อส.ตร.ดีเด่นของ จ.นครศรีธรรมราช เคยเข้ารับโล่และใบประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติจากนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และจากกองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช มาแล้วหลายรางวัล

ส่วนประเด็นการสังหารในครั้งนี้ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องงานที่ผู้ตายทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียง จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด ผู้ตายมักจะสืบสวนหาเบาะแสของขบวนการค้าจนนำไปสู่การวางแผนเข้าจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ ที่ผ่านมา สามารถตรวจค้นจับกุมยาบ้าได้ถึง 80,000 เม็ด จากนั้นไม่นานก็เข้าร่วมตั้งด่านตรวจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบนถนนสายเอเชีย 41 หน้าป้อมตำรวจ หมู่ 3 ต.ถ้ำพรรณรา อ.ถ้ำพรรณรา สามารถจับกุมผู้ลักลอบขนกัญชาแห้งอัดแท่งได้ถึง 1,253 กก.

และประเด็นที่ 2 คือ เรื่องธุรกิจส่วนตัวที่ผู้ตายทำอยู่คือ ปล่อยเงินกู้ให้แก่พนักงานตามโรงงานต่างๆ ทั้งใน อ.ถ้ำพรรณรา และอีกหลายอำเภอของ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งจะให้น้ำหนักในเรื่องการช่วยเหลืองานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า แต่ก็ไม่ทิ้งเรื่องส่วนตัว

พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ยังกล่าวย้ำอีกว่า หากเป็นเรื่องของขบวนการค้ายาเสพติด ที่ผู้เสียผลประโยชน์ลงขันสั่งฆ่าเข้ามาเกี่ยวข้องในครั้งนี้ก็จะลุยล้างบางทุกมาตรการ เพราะถือว่าไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานในด้านนี้พอมีข้อมูลอยู่แล้ว ผบก.นครศรีธรรมราชระบุ
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น