xs
xsm
sm
md
lg

เร่งขยายผลจับต้นตอขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติ หลัง ตร.นครศรีฯ ยึดกัญชากว่า 1 ตัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - เจ้าหน้าที่ตำรวจนครศรีธรรมราช แถลงข่าวการขยายผลขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติ หลังตั้งด่านสกัดยึดกว่า 500 กก. และยังตามยึดของกลางในคลังสินค้าได้อีกรวมกว่า 1 ตัน เร่งสืบสวนติดตามต้านทางขบวนการซึ่งอยู่ในภาคอีสานต่อไป

เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (8 พ.ย.) พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวาณิช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และ พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค จว.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมแถลงผลการตรวจยึดกัญชาอัดแท่งจำนวนมาก โดยกัญชาดังกล่าวเป็นของขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติรายใหญ่ในประเทศไทย หลังจากที่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรอำเภอถ้ำพรรณรา ขยายผลการตรวจยึดกัญชาจำนวน 519 กก. บนถนนสาย 41 ช่วง ม.3 ต.ถ้ำพรรณนา อ.ถ้ำพรรณรา โดยมีผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย คือ นายชินกร พิมพูล อายุ 20 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ นายสำราญพันธ์ แก้วเงา อายุ 35 ปี ชาว จ.อุทัยธานี และนายเกียรติศักดิ์ โทนสี อายุ 30 ปี เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 พ.ย.55

โดยหลังจากการขยายผลผู้ต้องหาอย่างต่อเนื่องจนผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้รับสารภาพว่า ขนกัญชาดังกล่าวไปส่งที่บ้านเลขที่ 33/6 ม.7 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านเช่าใช้สำหรับเก็บกัญชาอัดแท่งไว้โดยเฉพาะ เพื่อรอลงเรือส่งออกไปยังต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นพบว่า มีกัญชาอัดแท่งจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน เมื่อตรวจนับได้รวม 733 แท่งน้ำหนักรวม 733 กก. รวมกัญชาที่ยึดได้สูงถึง 1,252 กก. มูลค่าในการส่งออกไปยังต่างประเทศสูงถึงราวกว่า 400 ล้านบาท

พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวาณิช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ระบุว่า ขบวนการค้ากัญชารายนี้เป็นขบวนการข้ามชาติ กัญชาที่ยึดได้ทั้งหมดจะนำไปสู่การยึดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งขบวนการ โดยกัญชาจำนวนนี้จะถูกขนส่งมาพักไว้ และส่งต่อไปยังต่างประเทศ ซึ่งจะมีมูลค่าสูงกว่าในประเทศไทยหลายร้อยเท่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่มูลค่าประมาณ 300-400 ล้านบาท และขณะนี้กำลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดตรวจค้นบ้านเครือข่ายในพื้นที่ภาคอีสานซึ่งเป็นต้นทางของขบวนการค้ากัญชารายนี้อย่างเร่งด่วน

สำหรับการตรวจยึดนั้น เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 พ.ย.55 โดย พ.ต.อ.ธีรภูมิ ธุรกิจ ผกก.สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช สั่งการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ภาพสวัสดิ์ สวป. ร.ต.ท.ธรรมทัช นุ่นขาว รอง สว.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ตั้งจุดตรวจบนถนนสาย เอเชีย 41 ขาล่องใต้หน้าตลาดถ้ำทอง หมู่ 3 ต.ถ้ำพรรณรา ซึ่งเป็นเส้นทางที่ขบวนการค้ายาเสพติดมักใช้เป็นเส้นทางในการขนส่งยาเสพติดลงไปยังจังหวัดภาคใต้ และยังส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

โดยหลังจากที่สายสืบแจ้งว่าจะมีการขนกัญชาอัดแท่งจำนวนมากจากภาคอีสานผ่านเส้นทางนี้ จึงทำการตั้งด่านตรวจ พบรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์สีขาว ติดหลังคาสูงเป็นรถขนส่งสินค้า ทะเบียน บร 7911 เพชรบูรณ์ มีท่าทีพิรุธจอดหลบอยู่ริมทางห่างจากด่านตรวจราว 1 กม.

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงเข้าขอตรวจค้น พบนายสำราญ พันธ์แก้วเงา อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 9/4 หมู่ 9 ต.หนองกระทุ่ม อ.ทับทัน จ.อุทัยธานี มีอาการหน้าซีดเผือด พร้อมนายชินกร พิมพูล อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 106 หมู่ 5 ต.บ่อไทย อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สั่งให้เปิดตรวจสอบสิ่งของที่บรรทุก พบว่า มีกัญชาแห้งอัดแท่งบรรจุกระสอบปุ๋ย และห่อทับด้วยถุงดำ จำนวน 13 ถุง บรรจุถุงละ 40 แท่ง น้ำหนักรวม 620 กก. มูลค่า กก.ละประมาณ 38,000-40,000 บาท รวมทั้งสิ้นประมาณ 24 ล้านบาท แต่หากหลุดออกไปนอกประเทศมูลค่าจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า

นอกจากนี้ ยังมีรถที่ขับนำทางอีก 1 คัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามไปจับกุมได้ที่เขตรอยต่อ อ.ทุ่งใหญ่ เป็นรถอีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน บม 901 พิษณุโลก โดยมีนายเกียรติศักดิ์ โทนสี อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 91 หมู่ 5 ต.พวงสองนาง อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี ทำหน้าที่ขับรถนำทางเพื่อส่งสัญญาณแจ้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ให้แก่รถบรรทุกกัญชา

ภายหลังเจ้าหน้าที่คุมตัวมาสอบสวนทราบว่า มีคนจ้างให้ไปรับกัญชามาจาก จ.สกลนคร และ อ.นาแก จ.นครพนม ติดกับชายแดนไทย-ลาว ในราคาจ้างคนละ 20,000 บาท และจะต้องขับไปส่งที่ จ.พัทลุง และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตามขยายผลยึดที่ อ.หาดใหญ่ ได้อีกเป็นล็อตใหญ่กว่า 1 ตันดังกล่าว

 
 


กำลังโหลดความคิดเห็น