นราธิวาส - ทหาร ตำรวจ อ.สุไหงโก-ลก รวบ 3 ผู้ต้องหาพร้อมยาบ้ากว่า 3 แสนเม็ด มูลค่ากว่า 144 ล้านบาท และเงินสดกว่า 7 ล้านบาท ขณะลำเลียงส่งขายฝั่งประเทศมาเลเซีย ซึ่งลักลอบนำเข้ามาจากประเทศลาว
เมื่อเวลา 05.30 น.วันนี้ (18 ธ.ค.) พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ทองสองสี รอง ผกก.สส.สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 36 ไปร่วมตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณบ้านน้ำตก ม.5 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก หลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวจะมีการขนยาบ้าล็อตใหญ่จากประเทศลาวเข้ามาในพื้นที่ เพื่อส่งต่อให้แก่เอเยนต์ในประเทศมาเลเซีย ที่จะมีการส่งมอบกันที่ช่องทางข้ามบริเวณท่าเรือกอไผ่ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
จนกระทั่งรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กน 5028 ระยอง ซึ่งตรงกับแหล่งข่าวที่แจ้งไว้วิ่งผ่านจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น โดยได้เชิญตัว นายพงษธร เกษสิมมา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ม.3 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งเป็นคนขับ นายพลวัต สุวรรณศรี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/4 ม.4 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และนายสยุมภู เกษสิมมา อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นน้องชายของ นายพงษธร ที่นั่งโดยสารมาด้วยลงจากรถ เพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นรถอย่างละเอียด
ผลการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบเงินสด จำนวนกว่า 7 ล้านบาท ที่ถูกวางทับไว้ด้วยผ้าห่มที่บริเวณเบาะหลัง ส่วนกระโปรงหลังเจ้าหน้าที่พบยาบ้า จำนวน 321,800 เม็ด ที่มีการซื้อขายในประเทศมาเลเซียเม็ดละ 450 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 144,810,000 บาท ที่มัดซุกซ่อนไว้บริเวณช่องเก็บยางอะไหล่ที่มีไม้กระดานอัดปิดทับไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่ออำพรางการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่จึงได้นำของกลางพร้อมผู้ต้องหา 3 คน ไปทำการสอบสวนขยายผลที่ สภ.สุไหงโก-ลก
โดยนายพงษธร ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากเอเยนต์รายหนึ่งไม่ทราบชื่อที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศลาว ผ่านทางพรมแดน จ.นครพนม เพื่อนำมาส่งต่อให้แก่เอเยนต์รายหนึ่งในประเทศมาเลเซียที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยนัดแนะมีการส่งมอบยาบ้าให้กันที่บริเวณช่องทางข้ามท่าเรือกอไผ่ โดยระหว่างการลักลอบขนยาบ้าผ่านพื้นที่จังหวัดต่างๆ ตั้งแต่ จ.นครพนม ถึง อ.สุไหงโก-ลก จะมีรถยนต์กระบะ และรถยนต์เก๋งสลับสับเปลี่ยนกันวิ่งเบิกทาง และขับตามหลัง เพื่อสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวของคนที่ขนยาบ้าในการป้องกันยาบ้าสูญหาย และสังเกตการณ์การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ตามรายทาง เพื่อป้องกันการถูกจับกุม แต่ในที่สุด มาถูกจับกุมพื้นที่ปลายทางที่จะมีการส่งมอบยาบ้าให้กัน โดยรถยนต์กระบะที่ทำหน้าที่คุ้มกันซึ่งขับนำหน้าสามารถไหวตัวหลบหนีไปได้
